In general, the methods used tochar

In general, the methods used to
characterize cake batters are mainly based on the
measurement of the viscosity and the density.
Density is a key measurement used in the industry
to characterize aeration. It is generally measured
by weighing a known volume of batter (Fox et
al., 2004). Then, the batter density can be related
to the amount of air incorporated in the batter
during the mixing process and applied to determine
the expected quality of the final baked cake. The
present study found that the batter density
decreased with increasing TS substitution (Table
2), indicating there was a higher amount of air
incorporated into the batter. The lower viscosity
was expected to have lower resistance to the
applied shear during the mixing process leading
to a higher amount of air being incorporated. The
batter without TS (100% WF) showed the highest
batter density values (0.488 g/cm3) but was not
significantly different to the batter containing 25%
TS substitution for WF (0.467 g/cm3), whereas the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทั่วไป วิธีการใช้ลักษณะของเค้กที่คนส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับการวัดความหนืดและความหนาแน่นความหนาแน่นเป็นวัดสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรมการกำหนดลักษณะ aeration โดยทั่วไปจะวัดโดยน้ำหนักปริมาตรรู้จักของแป้ง (Fox ร้อยเอ็ดal., 2004) แล้ว ความหนาแน่นแป้งอาจเกี่ยวข้องจำนวนอากาศที่รวมอยู่ในตัวแป้งในระหว่างผสมใช้เพื่อตรวจสอบ และประมวลผลคุณภาพที่คาดหวังของเค้กอบสุดท้าย ที่การศึกษาปัจจุบันพบว่าความหนาแน่นของแป้งลดลงกับเพิ่ม TS แทน (ตาราง2), ระบุมียอดสูงของอากาศรวมใส่ ความหนืดต่ำคาดว่าจะมีความต้านทานต่ำกว่าการแรงเฉือนที่ใช้ระหว่างการนำกระบวนการผสมจำนวนเงินที่สูงของอากาศที่ถูกรวม ที่แป้งไม่ มี TS (100% ดับเบิลยูเอฟ) พบที่สูงที่สุดจากค่าความหนาแน่นของแป้ง (0.488 g/cm3) แต่ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญแป้งที่ประกอบด้วย 25%TS แทนสำหรับดับเบิลยูเอฟ (0.467 g/cm3), ในขณะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยทั่วไปวิธีการที่ใช้ในการ
อธิบายลักษณะของแป้งเค้กจะขึ้นอยู่ส่วนใหญ่ใน
การวัดความหนืดและความหนาแน่น.
ความหนาแน่นเป็นวัดสำคัญที่ใช้ในอุตสาหกรรม
ที่จะแสดงลักษณะการเติมอากาศ มันเป็นวัดโดยทั่วไป
โดยการชั่งน้ำหนักปริมาณที่รู้จักกันของแป้ง (ฟ็อกซ์และ
al., 2004) จากนั้นความหนาแน่นแป้งอาจจะเกี่ยวข้อง
กับปริมาณของอากาศที่จัดตั้งขึ้นในการปะทะ
ระหว่างขั้นตอนการผสมและนำไปใช้ในการตรวจสอบ
คุณภาพที่คาดหวังของเค้กอบสุดท้าย
การศึกษาครั้งนี้พบว่าความหนาแน่นของแป้ง
ลดลงเพิ่มขึ้นทดแทน TS (ตารางที่
2) แสดงให้เห็นว่ามีปริมาณที่สูงขึ้นของอากาศ
รวมเข้าปะทะ ความหนืดต่ำกว่า
ที่คาดว่าจะมีความต้านทานต่ำกว่าที่จะ
เฉือนนำมาใช้ในระหว่างขั้นตอนการผสมชั้นนำ
เป็นจำนวนเงินที่สูงขึ้นของอากาศที่ถูกจัดตั้งขึ้น
โดยไม่ต้องปะทะ TS (100% WF) พบสูงสุด
ค่าความหนาแน่นของแป้ง (0.488 g / cm3) แต่ก็ไม่ได้
มีความหมายที่แตกต่างกันในการปะทะที่มี 25%
TS ทดแทน WF (0.467 g / cm3) ในขณะที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยทั่วไปใช้วิธีการลักษณะแป้งเค้ก


ส่วนใหญ่ยึดการวัดความหนืดและความหนาแน่น .
ความหนาแน่นเป็นกุญแจการวัดที่ใช้ในอุตสาหกรรม
ลักษณะอากาศ มันเป็นโดยทั่วไปที่รู้จักกันโดยวัด
ชั่งปริมาณแป้ง ( ฟ็อกซ์ et
al . , 2004 ) แล้วแป้งความหนาแน่นสามารถที่เกี่ยวข้องกับปริมาณของอากาศ

รวมอยู่ในคอกในระหว่างกระบวนการผสมและใช้หา
คาดว่าคุณภาพของเค้กอบสุดท้าย การศึกษาครั้งนี้พบว่า

แป้งความหนาแน่นเพิ่มขึ้น เมื่อใช้ TS ( โต๊ะ
2 ) ซึ่งมีปริมาณที่สูงขึ้นของอากาศ
รวมเข้าไปในการปะทะ การลดความหนืด
คาดว่าจะมีความต้านทานต่ำเพื่อใช้ในกระบวนการผสมแรงเฉือน

ชั้นนํากับปริมาณที่สูงขึ้นของอากาศที่ถูกจัดตั้งขึ้น
แป้งไม่มี TS ( 100% WF ) พบว่าค่าความหนาแน่นของแป้งสูงสุด
( 0.488 กรัมลิตร ) แต่ไม่ได้
แตกต่างกันที่จะปะทะที่มี 25 %
ทดแทน TS สำหรับ WF ( 0.467 กรัมต่อลิตร ) ในขณะที่