The top steel above labeled 1.3505

The top steel above labeled 1.3505 is 52100 with a small volume of very fine carbides. This steel is optimal for low angle edges that have high sharpness. The wear to the edge is relatively even and chipping is less likely due to its fine carbide distribution. Roman recommends it and similar steels to be used with edge angles of 16-25° for fine cutting. The bottom steel is a conventional ATS-34 with large carbides. The micrograph to the left shows a fracture due to carbides. To have sufficient “edge stability” a more obtuse edge is recommended by Roman, here 40-60°. The middle steel is CPM-440V later named S60V which has a large volume of carbides like ATS-34 but is produced with the powder metallurgy process for smaller carbides that are more evenly distributed and have a more consistent size. That allows lower angle edges than the conventionally cast ATS-34, or 25-40° as recommended by Roman. Those edge angles are recommended to avoid the fine chipping that occurs because of inevitable side loading during cutting. That way the steels are better at maintaining their initial high sharpness and less likely to chip. However, the higher edge angles that are required for high carbide steels to have sufficient edge stability means that their overall cutting ability is lower.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เหล็กด้านบนที่มีป้ายกำกับ 1.3505 คือ 52100 และมีคาร์ไบด์ละเอียดมากในปริมาณเล็กน้อย เหล็กชนิดนี้เหมาะที่สุดสำหรับขอบมุมต่ำที่มีความคมสูง การสึกหรอที่ขอบค่อนข้างสม่ำเสมอและมีโอกาสเกิดการบิ่นน้อยลงเนื่องจากมีการกระจายตัวของคาร์ไบด์ละเอียด Roman แนะนำให้ใช้และเหล็กกล้าที่คล้ายกันที่มีมุมขอบ 16-25° สำหรับการตัดละเอียด เหล็กด้านล่างเป็นแบบ ATS-34 ธรรมดาที่มีคาร์ไบด์ขนาดใหญ่ กราฟขนาดเล็กทางด้านซ้ายแสดงการแตกหักเนื่องจากคาร์ไบด์ เพื่อให้มี "ความเสถียรของขอบ" ที่เพียงพอ โรมันแนะนำให้ใช้ขอบป้านมากกว่านี้ ซึ่งอยู่ที่ 40-60° เหล็กตรงกลางคือ CPM-440V ต่อมามีชื่อว่า S60V ซึ่งมีปริมาณคาร์ไบด์มากเช่น ATS-34 แต่ผลิตด้วยกระบวนการโลหะผสมผงสำหรับคาร์ไบด์ที่มีขนาดเล็กกว่าซึ่งมีการกระจายตัวสม่ำเสมอและมีขนาดสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งช่วยให้มีขอบมุมที่ต่ำกว่า ATS-34 ที่หล่อแบบทั่วไปหรือ 25-40° ตามที่ Roman แนะนำ แนะนำให้ใช้มุมขอบเหล่านั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการบิ่นละเอียดที่เกิดขึ้นเนื่องจากการโหลดด้านข้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ระหว่างการตัด ด้วยวิธีนี้ เหล็กจะคงความคมสูงตอนเริ่มแรกได้ดีขึ้น และมีโอกาสแตกหักน้อยลง อย่างไรก็ตาม มุมคมตัดที่สูงขึ้นซึ่งจำเป็นสำหรับเหล็กคาร์ไบด์สูงเพื่อให้มีความมั่นคงของคมตัดเพียงพอ หมายความว่าความสามารถในการตัดโดยรวมจะลดลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เหล็กด้านบนที่ระบุว่า 1.3505 คือ 52100 มีคาร์ไบด์ขนาดเล็กมาก เหล็กชนิดนี้เหมาะที่สุดสำหรับขอบมุมต่ำที่มีความคมชัดสูง การสึกหรอของขอบค่อนข้างสม่ำเสมอและเศษซากไม่น่าจะเกิดขึ้นเนื่องจากการกระจายของคาร์ไบด์ที่ละเอียดอ่อน โรมันแนะนำให้ตัดเหล็กและเหล็กที่คล้ายกันด้วยมุมขอบ 16-25 องศา เหล็กด้านล่างเป็น ATS-34 แบบดั้งเดิมที่มีคาร์ไบด์ขนาดใหญ่ ภาพจากกล้องจุลทรรศน์ด้านซ้ายแสดงการแตกหักของคาร์ไบด์ เพื่อให้มี "ความมั่นคงของขอบ" เพียงพอโรมันแนะนำให้ใช้ขอบทื่อมากขึ้นที่นี่ 40-60 ° ส่วนเหล็กที่อยู่ตรงกลางคือ CPM-440V ซึ่งต่อมามีชื่อว่า S60V ซึ่งมีปริมาณคาร์ไบด์สูงเหมือน ATS-34 แต่ผลิตด้วยกระบวนการ Powdermetallurgical เพื่อกระจายคาร์ไบด์ขนาดเล็กที่สม่ำเสมอและมีขนาดสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ขอบมุมต่ำกว่าการหล่อแบบดั้งเดิมของ ATS-34 หรือ 25-40 °ตามที่โรมันแนะนำ มุมเหล่านี้แนะนำให้ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงเศษเล็กเศษน้อยเนื่องจากหลีกเลี่ยงไม่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เหล็กด้านบนที่ทําเครื่องหมายไว้ที่1.3505คือ52100มีคาร์ไบด์บางมาก เหล็กนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสําหรับขอบมุมต่ําที่มีความคมสูง การสึกหรอของใบมีดค่อนข้างสม่ําเสมอและไม่น่าจะแตกสลายเนื่องจากการกระจายตัวของคาร์ไบด์ที่ละเอียดอ่อน โรมันแนะนําให้ใช้กับเหล็กที่คล้ายกันมุมขอบ16-25°สําหรับการตัดละเอียด เหล็กด้านล่างเป็นATS-34ทั่วไปที่มีคาร์ไบด์ขนาดใหญ่ ภาพกล้องจุลทรรศน์ด้านซ้ายแสดงให้เห็นถึงการแตกหักที่เกิดจากคาร์ไบด์ เพื่อให้ได้"เสถียรภาพขอบ"มากพอ โรมันแนะนําให้ใช้ขอบที่คดเคี้ยวมากขึ้น นี่คือ 40-60 องศา. เหล็กกล้าที่อยู่ตรงกลางคือCPM-440 vซึ่งต่อมาเรียกว่าs 60 vมีคาร์ไบด์จํานวนมากเช่นATS-34แต่ผลิตด้วยกระบวนการผงโลหะที่มีคาร์ไบด์ขนาดเล็กที่มีขนาดสม่ําเสมอและสม่ําเสมอมากขึ้น ซึ่งอนุญาตให้มีขอบมุมที่ต่ํากว่า25-40ที่แนะนําโดยการหล่อแบบดั้งเดิมATS-34หรือRoman ขอแนะนําให้ใช้มุมขอบเหล่านี้เพื่อหลีกเลี่ยงเศษเล็กๆที่เกิดจากภาระด้านข้างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกระบวนการตัด ด้วยวิธีนี้เหล็กจะรักษาความคมสูงเริ่มต้นได้ดีขึ้นและไม่น่าจะแตกสลาย อย่างไรก็ตามเหล็กคาร์ไบด์สูงต้องใช้มุมขอบที่สูงขึ้นเพื่อให้ได้เสถียรภาพของขอบที่เพียงพอซึ่งหมายความว่าความสามารถในการตัดโดยรวมลดลง