This analysis gave a better underst

This analysis gave a better understanding of the performance of the correlations when evaluated against different pipe diameters, fluid combinations and the system pressures. The accuracy and hence the performance of the void fraction correlations is judged in terms of percentage error and RMS error. The void fraction correlations are further assessed against four specified ranges of the void fraction 0–0.25, 0.25–0.5, 0.5–0.75 and 0.75–1, respectively. These four ranges are selected in accordance with the approximate range of the void fraction associated with individual flow patterns. In the present study it is observed that the void fraction range of
0 < a 6 0.25 approximates the bubbly flow pattern while falling film and annular flow regimes approximately cover the void fraction range of 0.75 < a < 1. The intermediate range of the void fraction is observed to be occupied by the slug and froth flow, respectively. This approximation for more than 90% of the data is well within ±15% of the experimental results obtained in the present study as well as is in consensus with the results of Oshinowo [21] and Yijun and Rezkallah [6]. Thus this two step scrutiny proved useful for getting unbiased results and analyzes the performance of the void fraction correlations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิเคราะห์นี้ให้ความเข้าใจดีขึ้นประสิทธิภาพการทำงานของความสัมพันธ์เมื่อประเมินเทียบกิโลเมตรแตกต่างกัน ผสมของเหลว และความดันของระบบ ความถูกต้อง และดังนั้น ตัดสินประสิทธิภาพของความสัมพันธ์ของเศษส่วนโมฆะเปอร์เซ็นต์ข้อผิดพลาดและข้อผิดพลาด RMS ความสัมพันธ์ของเศษส่วนที่เป็นโมฆะจะเพิ่มเติมประเมินกับช่วงสี่ระบุของเศษส่วนโมฆะ 0 – 0.25, 0.25-0.5, 0.5 – 0.75 และ 0.75 – 1 ตามลำดับ ช่วงนี้ 4 เลือกตามเศษส่วนยกเลิกเกี่ยวข้องกับรูปแบบขั้นตอนแต่ละช่วงโดยประมาณ ในการศึกษาปัจจุบัน ก็คือสังเกตที่ช่วงเศษโมฆะ0 < 6 0.25 approximates ลายไหล bubbly ขณะฟิล์มล้ม และระบอบ annular กระแสประมาณครอบคลุมช่วงเศษโมฆะ 0.75 < < 1 ช่วงกลางของเศษส่วนที่เป็นโมฆะแล้วหรือไม่เพื่อสามารถรองรับกระแสของบุ้งและ froth ตามลำดับ ประมาณนี้มากกว่า 90% ของข้อมูลเป็นอย่างดีใน ±15% ของผลการทดลองที่ได้รับในการศึกษาปัจจุบัน ตลอดจนในมติผลหยาง Oshinowo [21] และ Rezkallah [6] ดังนั้น scrutiny นี้ขั้นตอนที่สองพิสูจน์ประโยชน์สำหรับรับผลคน และวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของความสัมพันธ์ของเศษส่วนที่เป็นโมฆะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิเคราะห์นี้จะให้ความเข้าใจที่ดีขึ้นของประสิทธิภาพการทำงานของความสัมพันธ์เมื่อประเมินเทียบกับขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางท่อที่แตกต่างกันผสมของเหลวและแรงดันระบบ ความถูกต้องและด้วยเหตุนี้การปฏิบัติงานของส่วนความสัมพันธ์เป็นโมฆะจะตัดสินในแง่ของข้อผิดพลาดและความผิดพลาดร้อยละ RMS ความสัมพันธ์ส่วนโมฆะมีการประเมินต่อกับสี่ช่วงที่กำหนดส่วนโมฆะ 0-0.25, 0.25-0.5, 0.5-0.75 และ 0.75-1 ตามลำดับ ทั้งสี่คนนี้ช่วงที่ได้รับการคัดเลือกตามที่กำหนดในช่วงประมาณโมฆะส่วนที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการไหลของแต่ละบุคคล ในการศึกษาครั้งนี้มันเป็นที่สังเกตว่าช่วงส่วนโมฆะของ
0 <6 0.25 ใกล้เคียงกับรูปแบบการไหลฟองในขณะที่ฟิล์มลดลงและการไหลของน้ำวงแหวนประมาณครอบคลุมส่วนโมฆะ 0.75 <<1. ช่วงกลางของส่วนที่เป็นโมฆะ เป็นที่สังเกตจะถูกครอบครองโดยกระสุนและการไหลของฟองตามลำดับ ประมาณนี้มานานกว่า 90% ของข้อมูลเป็นอย่างดีใน± 15% ของผลการทดลองที่ได้รับในการศึกษาครั้งนี้เช่นเดียวกับที่อยู่ในความสอดคล้องกันกับผลของการ Oshinowo [21] และ Yijun และ Rezkallah [6] ดังนั้นการตรวจสอบขั้นตอนนี้สองพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ในการได้รับผลที่เป็นกลางและการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของความสัมพันธ์ส่วนโมฆะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์นี้ให้ความเข้าใจที่ดีขึ้นของประสิทธิภาพของความสัมพันธ์เมื่อประเมินเปรียบเทียบกับขนาดท่อที่แตกต่างกันผสมเหลวและความดันของระบบ ความถูกต้องและดังนั้นประสิทธิภาพของโมฆะ ส่วนความสัมพันธ์ก็ตัดสินในแง่ของข้อผิดพลาดและข้อผิดพลาดค่า RMS .โมฆะ ส่วนความสัมพันธ์เพิ่มเติมประเมินกับสี่ระบุช่วงของโมฆะเศษส่วน 0 - 0.25 0.25 – 0.5 , 0.5 และ 0.75 0.75 และ 1 ตามลำดับ เหล่านี้สี่ช่วง เลือกตามช่วงโดยประมาณของโมฆะ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการไหลของแต่ละรูปแบบ ในการศึกษาครั้งนี้พบว่า สัดส่วนช่องว่างช่วง
0 < 6 025 มีการไหลฟองรูปแบบในขณะที่ล้มภาพยนตร์และเป็นระบอบการปก ส่วนช่องว่างช่วงประมาณ 0.75 < < 1 ช่วงกลางของโมฆะ เศษส่วน พบถูกครอบครองโดยทากกับฟองไหลตามลำดับนี้ประมาณกว่า 90% ของข้อมูลเป็นอย่างดี ใน± 15 % ของผลที่ได้ในการศึกษาปัจจุบัน ตลอดจนเป็นฉันทามติกับผลลัพธ์ของ oshinowo [ 21 ] และ อีจุน และ rezkallah [ 6 ] ดังนั้น สองขั้นตอนการตรวจสอบพิสูจน์ที่มีประโยชน์สำหรับการรับผลที่เป็นกลางและวิเคราะห์ประสิทธิภาพของการโมฆะ ส่วนความสัมพันธ์ .