Timber" is the term used for constr

Timber" is the term used for construction purposes except the term "lumber" is used in the United States. Raw wood (a log, trunk, bole) becomes timber when the wood has been "converted" (sawn, hewn, split) in the forms of minimally-processed logs stacked on top of each other, timber frame construction, and light-frame construction. The main problems with timber structures are fire risk and moisture-related problems.[citation needed]

In modern times softwood is used as a lower-value bulk material, whereas hardwood is usually used for finishings and furniture. Historically timber frame structures were built with oak in western Europe, recently douglas fir has become the most popular wood for most types of structural building.

Many families or communities, in rural areas, have a personal woodlot from which the family or community will grow and harvest trees to build with or sell. These lots are tended to like a garden. This was much more prevalent in pre-industrial times, when laws existed as to the amount of wood one could cut at any one time to ensure there would be a supply of timber for the future, but is still a viable form of agriculture.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ไม้"เป็นคำที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างยกเว้นคำว่า"ไม้"ที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา วัตถุดิบไม้ (การบันทึก ลำต้น ดิงโบลโร้ดบรานช์) จะ ไม้เมื่อไม้มีการ "แปลง" (ไม้ hewn แยก) ในรูปแบบของบันทึกประมวลผล minimally ซ้อนกัน ไม้โครงสร้าง และแสงโครงสร้าง ปัญหาหลักกับโครงสร้างไม้ที่มีความเสี่ยงด้านอัคคีภัยและปัญหาเกี่ยวกับความชื้น [อ้างจำเป็น]สมัย ไม้เนื้ออ่อนที่ใช้เป็นวัสดุจำนวนมากค่าล่าง ในขณะที่ไม้เนื้อแข็งมักจะใช้สำหรับรั้งและเฟอร์นิเจอร์ ประวัติโครงสร้างไม้โครงสร้าง ด้วยไม้โอ๊คในยุโรปตะวันตก เพิ่ง สเฟอร์กลายเป็น ไม้ที่นิยมมากที่สุดคือโครงสร้างอาคารหลายครอบครัวหรือชุมชน ชนบท มี woodlot ส่วนตัวที่ครอบครัวหรือชุมชนจะเติบโต และเก็บเกี่ยวต้นสร้างด้วย หรือขาย เหล่านี้จำนวนมากมีแนวโน้มที่จะ ชอบสวน นี้มีมากในทางอุตสาหกรรม เมื่อกฎหมายอยู่เป็นยอดไม้หนึ่ง สามารถตัดเวลาเดียวให้มีจะอุปทานของยางพาราในอนาคต แต่ยังคงเป็นแบบทางการเกษตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ท่อนซุง "เป็นคำที่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างยกเว้นคำว่า" ไม้ "ถูกนำมาใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา. ไม้ดิบ (บันทึกลำต้นลำต้น) กลายเป็นไม้เมื่อไม้ได้รับการ" แปลง "(แปรรูปโค่นแยก) ใน รูปแบบของการบันทึกอย่างน้อยที่สุดการประมวลผลซ้อนอยู่ด้านบนของแต่ละกรอบการก่อสร้างอื่น ๆ ไม้และการก่อสร้างแสงกรอบ. ปัญหาหลักที่มีโครงสร้างไม้ที่มีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้และปัญหาความชื้นที่เกี่ยวข้อง. [อ้างจำเป็น] ในยุคปัจจุบันไม้เนื้ออ่อนจะใช้เป็น วัสดุที่เป็นกลุ่มที่ต่ำกว่ามูลค่าในขณะที่ไม้เนื้อแข็งมักจะใช้สำหรับ Finishings และเฟอร์นิเจอร์. อดีตโครงสร้างกรอบไม้ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้โอ๊คในยุโรปตะวันตกเมื่อเร็ว ๆ นี้ดักลาสเฟอร์ได้กลายเป็นไม้ที่นิยมมากที่สุดสำหรับประเภทมากที่สุดของโครงสร้างอาคาร. หลายครอบครัวหรือชุมชน ในพื้นที่ชนบทมี woodlot ส่วนบุคคลจากการที่ครอบครัวหรือชุมชนจะเติบโตและต้นไม้เก็บเกี่ยวเพื่อสร้างด้วยหรือขาย. จำนวนมากเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะชอบสวน. นี้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในสมัยก่อนยุคอุตสาหกรรมเมื่อกฎหมายมีอยู่ให้เป็นไป ปริมาณของไม้หนึ่งสามารถตัดที่ใดเวลาหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าจะมีอุปทานของไม้สำหรับอนาคต แต่ยังคงเป็นรูปแบบที่มีศักยภาพของการเกษตร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม้ " เป็นคำที่ใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในการก่อสร้าง นอกจากคำว่า " ไม้ " ที่ใช้ในสหรัฐอเมริกา ไม้ดิบ ( บันทึก , ลำต้นลำต้น ) กลายเป็นไม้เมื่อไม้ได้รับการ " แปลง " ( แปรรูปสกัดแยก ) ในรูปแบบของการประมวลผลน้อยที่สุดบันทึกซ้อนอยู่ด้านบนของแต่ละอื่น ๆ ไม้ ก่อสร้าง กรอบ และสร้างกรอบแสง ปัญหาหลักที่มีโครงสร้างไม้ มีความเสี่ยงจากไฟไหม้และความชื้นที่เกี่ยวข้องกับปัญหา . อ้างอิง [ จำเป็น ]ในไม้เนื้ออ่อนสมัยใหม่จะใช้เป็นค่าลดลง ในขณะที่กลุ่มวัสดุไม้เนื้อแข็ง โดยปกติจะใช้กิน และเฟอร์นิเจอร์ ในอดีตยางพารากรอบโครงสร้างที่ถูกสร้างขึ้นด้วยไม้โอ๊คในยุโรปตะวันตก , ดักลาสเฟอร์เมื่อเร็ว ๆนี้ได้กลายเป็นไม้ที่นิยมมากที่สุดสำหรับประเภทมากที่สุดของอาคารโครงสร้างหลายครอบครัว หรือชุมชน ในชนบท มี woodlot ส่วนตัวจากที่ครอบครัว หรือชุมชน จะเติบโตและเก็บเกี่ยวต้นไม้เพื่อสร้าง หรือ ขาย จำนวนมากเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะชอบสวน นี้เป็นมากขึ้นที่แพร่หลายในอุตสาหกรรมครั้งก่อน เมื่อกฎหมายที่มีอยู่เป็นปริมาณของไม้หนึ่งสามารถตัดในเวลาหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่า จะมีอุปทานของไม้ในอนาคต แต่ยังคงรูปแบบการวางอนาคตของการเกษตร