3. The case for open tradeThe econo

3. The case for open trade
The economic case for an open trading system based on multilaterally agreed rules is
simple enough and rests largely on commercial common sense. But it is also supported
by evidence: the experience of world trade and economic growth since the Second
World War. Tariffs on industrial products have fallen steeply and now average less than
5% in industrial countries. During the first 25 years after the war, world economic
growth averaged about 5% per year, a high rate that was partly the result of lower trade
barriers. World trade grew even faster, averaging about 8% during the period.
The data show a definite statistical link between freer trade and economic growth.
Economic theory points to strong reasons for the link. All countries, including the
poorest, have assets — human, industrial, natural, financial — which they can employ
to produce goods and services for their domestic markets or to compete overseas.
Economics tells us that we can benefit when these goods and services are traded.
Simply put, the principle of “comparative advantage” says that countries prosper first
by taking advantage of their assets in order to concentrate on what they can produce
best, and then by trading these products for products that other countries produce best.
In other words, liberal trade policies — policies that allow the unrestricted flow of
goods and services — sharpen competition, motivate innovation and breed success.
They multiply the rewards that result from producing the best products, with the
best design, at the best price.
But success in trade is not static. The ability to compete well in particular products
can shift from company to company when the market changes or new technologies
make cheaper and better products possible. Producers are encouraged to adapt
gradually and in a relatively painless way. They can focus on new products, find a
new “niche” in their current area or expand into new areas.
Experience shows that competitiveness can also shift between whole countries. A
country that may have enjoyed an advantage because of lower labour costs or
because it had good supplies of some natural resources, could also become uncompetitive
in some goods or services as its economy develops. However, with the stimulus
of an open economy, the country can move on to become competitive in
some other goods or services. This is normally a gradual process.
TRUE AND NON-TRIVIAL?
Nobel laureate Paul Samuelson was once
challenged by the mathematician
Stanislaw Ulam to “name me one proposition
in all of the social sciences which is
both true and non-trivial.”
Samuelson’s answer? Comparative advantage.
“That it is logically true need not be
argued before a mathematician; that it is
not trivial is attested by the thousands of
important and intelligent men who have
never been able to grasp the doctrine for
themselves or to believe it after it was
explained to them.”
World trade and production
have accelerated
Both trade and GDP fell in the late 1920s,
before bottoming out in 1932. After World
War II, both have risen exponentially, most
of the time with trade outpacing GDP.
(1950 = 100. Trade and GDP: log scale)
2000
1000
200
100
1929/32 38 48 60 70 80 90 1995
50
GATT
created
WTO
created
GDP
Merchandise trade
MORE ON THE WEBSITE:
www.wto.org > resources >
WTO research and analysis
14
Nevertheless, the temptation to ward off the challenge of competitive imports is
always present. And richer governments are more likely to yield to the siren call of
protectionism, for short term political gain — through subsidies, complicated red
tape, and hiding behind legitimate policy objectives such as environmental preservation
or consumer protection as an excuse to protect producers.
Protection ultimately leads to bloated, inefficient producers supplying consumers
with outdated, unattractive products. In the end, factories close and jobs are lost
despite the protection and subsidies. If other governments around the world pursue
the same policies, markets contract and world economic activity is reduced. One of
the objectives that governments bring to WTO negotiations is to prevent such a selfdefeating
and destructive drift into protectionism.
Comparative advantage
This is arguably the single most powerful
insight into economics.
Suppose country A is better than country
B at making automobiles, and country B is
better than country A at making bread. It
is obvious (the academics would say “trivial”)
that both would benefit if A specialized
in automobiles, B specialized in bread
and they traded their products. That is a
case of absolute advantage.
But what if a country is bad at making
everything? Will trade drive all producers
out of business? The answer, according to
Ricardo, is no. The reason is the principle
of comparative advantage.
It says, countries A and B still stand to
benefit from trading with each other even
if A is better than B at making everything.
If A is much more superior at making
automobiles and only slightly
superior at making bread, then A should
still invest resources in what it does best
— producing automobiles — and export
the product to B. B should still invest in
what it does best — making bread — and
export that product to A, even if it is not
as efficient as A. Both would still benefit
from the trade. A country does not have
to be best at anything to gain from trade.
That is comparative advantage.
The theory dates back to classical economist
David Ricardo. It is one of the most
widely accepted among economists. It is
also one of the most misunderstood
among non-economists because it is confused
with absolute advantage.
It is often claimed, for example, that some
countries have no comparative advantage
in anything. That is virtually impossible.
Think about it ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. กรณีเปิดการค้ากรณีเศรษฐกิจในระบบการค้าเปิดตามกฎ multilaterally ตกลงง่ายพอและสามัญสำนึกการค้าที่ได้ส่วนใหญ่ในคราบ แต่มันยังสนับสนุนโดยหลักฐาน: ประสบการณ์ของการค้าโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจตั้งแต่สองสงครามโลก ภาษีศุลกากรในสินค้าอุตสาหกรรมได้ลดลงอย่างสูง และขณะนี้เฉลี่ยน้อยกว่า5% ในประเทศอุตสาหกรรม ในช่วง 25 ปีแรกหลังจากสงคราม เศรษฐกิจโลกเติบโตประมาณ 5% ต่อปี อัตราความเร็วที่บางส่วนผลค้าล่าง averagedอุปสรรค ค้าโลกขยายตัวได้เร็ว หาค่าเฉลี่ยประมาณ 8% ในช่วงเวลาข้อมูลแสดงการเชื่อมโยงทางสถิติแน่นอนระหว่างอิสระทางการค้าและเศรษฐกิจทฤษฎีทางเศรษฐกิจไปเหตุผลแข็งแกร่งสำหรับการเชื่อมโยง ทุกประเทศ รวมทั้งการจนที่สุด มีสินทรัพย์ — มนุษย์ อุตสาหกรรม ธรรมชาติ การเงิน — ซึ่งพวกเขาสามารถใช้ใน การผลิตสินค้าและบริการของประเทศ หรือ การแข่งขันต่างประเทศเศรษฐศาสตร์บอกว่า เราได้รับประโยชน์เมื่อซื้อขายสินค้าและบริการเหล่านี้เพียงแค่ใส่ หลักการของ "เปรียบเทียบประโยชน์" กล่าวว่า ประเทศเจริญก่อนโดยใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินเพื่อเน้นสิ่งที่พวกเขาสามารถผลิตส่วน กโดยขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้สำหรับสินค้าที่ประเทศผลิตส่วนในคำอื่น ๆ นโยบายการค้าเสรีคือนโยบายที่ทำให้กระแสที่จำกัดสินค้าและบริการ – คมชัดแข่งขัน จูงใจนวัตกรรม และสายพันธุ์ประสบความสำเร็จพวกเขาคูณรางวัลที่ได้จากการผลิตผลิตภัณฑ์ดีที่สุด มีการสุดการออกแบบ ที่สุดในราคาแต่ความสำเร็จในการค้าไม่คงที่ ความสามารถในการแข่งขันในผลิตภัณฑ์สามารถเปลี่ยนจากบริษัทบริษัทเมื่อตลาดเปลี่ยนแปลงหรือเทคโนโลยีใหม่ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ดีกว่า และถูกกว่าได้ ผู้ผลิตได้ปรับเปลี่ยนทีละน้อย และค่อนข้างเจ็บปวด พวกเขาสามารถมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ค้นหาการใหม่ "นิช" ในพื้นที่ของตนปัจจุบัน หรือขยายเข้าไปในพื้นที่ใหม่ประสบการณ์แสดงว่า ศักยภาพในการแข่งขันสามารถเลื่อนยังระหว่างประเทศทั้งหมด Aประเทศที่อาจมีความสุขเปรียบเนื่องจากต้นทุนแรงงานต่ำ หรือเพราะมันมีอุปกรณ์ดีทรัพยากรธรรมชาติบางอย่าง อาจเป็น uncompetitiveในบางสินค้าหรือบริการเป็นเศรษฐกิจของประเทศพัฒนา อย่างไรก็ตาม ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจของเศรษฐกิจเปิด ประเทศสามารถไปบนกลายเป็นการแข่งขันในบางสินค้าหรือบริการอื่น ๆ นี้โดยปกติเป็นกระบวนการที่ค่อย ๆความจริง และไม่ใช่เล็กน้อยโนเบลผู้ได้รับ Paul Samuelson เคยท้าทาย โดยนักคณิตศาสตร์ที่Stanislaw Ulam "ชื่อฉันหนึ่งเสนอในสังคมวิทยา ซึ่งเป็นทั้งจริง และไม่ใช่เล็กน้อย"คำตอบของ Samuelson เปรียบเทียบได้"ว่า เป็นจริงเหตุผลไม่จำเป็นต้องโต้เถียงก่อนนักคณิตศาสตร์ ที่เป็นเล็กน้อยไม่มีราเดอร์พันคนสำคัญ และชาญฉลาดที่มีไม่ได้เข้าใจหลักคำสอนในตัวเองหรือเชื่อหลังจากนั้นได้อธิบายให้พวกเขา"ผลิตและการค้าโลกมีเร่งค้าและ GDP ลดลงในช่วงปลายปี 1920ก่อน bottoming ออกในปี 1932 หลังจากโลกสงคราม II ทั้งสองได้เกิดขึ้นขยายตัวอย่างมาก มากที่สุดเวลากับการค้าส.ค. GDP(1950 = 100 ค้าและ GDP: ระบบมาตราส่วน)200010002001001929/32 38 48 60 70 80 90 199550แกตต์สร้างองค์การสร้างGDPสินค้าค้าเพิ่มเติมบนเว็บไซต์:www.wto.org > ทรัพยากร >องค์การวิจัยและการวิเคราะห์14อย่างไรก็ตาม จะไล่ความท้าทายในการนำเข้าแข่งขันเป็นแสดงเสมอ และรัฐบาลขึ้นมีแนวโน้มการศิโรราบเรียกไซเรนปกป้อง สำหรับกำไรระยะสั้นทางการเมืองโดยผ่านเงินอุดหนุน สีแดงที่มีความซับซ้อนเทป และซ่อนอยู่เบื้องหลังวัตถุประสงค์นโยบายกฎหมายเช่นอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหรือคุ้มครองผู้บริโภคเป็นข้อแก้ตัวเพื่อปกป้องผู้ผลิตป้องกันในที่สุดนำไปสู่การบวม ไม่ผลิตขายผู้บริโภคผลิตภัณฑ์ล้าสมัย ว่าขี้เหร่ ในสุด ปิดโรงงาน และงานจะหายไปแม้ มีการคุ้มครองและเงินอุดหนุน ถ้าไล่รัฐบาลอื่น ๆ ทั่วโลกเดียวกันนโยบาย ตลาดสัญญาและโลกกิจกรรมทางเศรษฐกิจจะลดลง หนึ่งวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลเจรจาองค์การคือเพื่อ ป้องกันการ selfdefeating เช่นและทำลายดริฟท์เข้าปกป้องเปรียบโดยเปรียบเทียบนี้เป็นเดียวที่มีประสิทธิภาพที่สุดเข้าใจในเศรษฐศาสตร์สมมติว่าประเทศ A จะสูงกว่าประเทศB ที่ทำให้รถยนต์ และประเทศ B คือดีว่าประเทศที่ทำ ขนมปัง มันเป็นที่ชัดเจน (นักวิชาการพูด "เล็กน้อย")ว่า ทั้งสองจะได้ประโยชน์ถ้า A ความในรถยนต์ B ความในขนมปังและจะซื้อขายผลิตภัณฑ์ของตน นั่นคือการกรณีของประโยชน์แน่นอนแต่ถ้าประเทศไม่ดีที่ทำทุกอย่าง ค้าจะขับผู้ผลิตทั้งหมดหรือไม่ออกจากธุรกิจ ตอบ ตามRicardo จะไม่ เหตุผลเป็นหลักความได้เปรียบเปรียบเทียบกล่าวว่า ประเทศ A และ B ยังคงยืนเพื่อได้รับประโยชน์จากการค้าขายกันได้ถ้า A ดีกว่า B ที่ทำทุกอย่างได้ถ้าเป็นมากขึ้นเหนือกว่าที่ทำรถยนต์ และเพียงเล็กน้อยห้องซูพีเรียที่ทำขนมปัง แล้ว A ควรยัง ลงทุนทรัพยากรในสิ่งที่มันสุดซึ่งผลิตรถยนต์ — และส่งออกผลิตภัณฑ์เพื่อ B. B ควรยังคงลงทุนในอะไรที่มันไม่ดีที่สุดเช่นทำขนมปัง — และส่งออกผลิตภัณฑ์ที่ A แม้มันจะไม่ที่มีประสิทธิภาพเป็นอ. ทั้งยังจะได้ประโยชน์จากการค้าขาย ไม่มีประเทศมีดีที่อะไรที่จะได้รับจากการค้าที่ได้เปรียบโดยเปรียบเทียบวันทฤษฎีนักเศรษฐศาสตร์คลาสสิกไปDavid Ricardo เป็นหนึ่งในสุดยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ มันเป็นนอกจากนี้หนึ่ง misunderstood มากที่สุดนี่ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ เพราะจะสับสนมีประโยชน์แน่นอนมีมักจะอ้างว่า เช่น ที่บางประเทศได้ประโยชน์ไม่เปรียบเทียบอะไร ที่เป็นไปไม่ได้จริงคิดถึง...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. กรณีการค้าที่เปิดกว้าง
ทางเศรษฐกิจสำหรับกรณีที่ระบบการซื้อขายที่เปิดตามกฎที่ตกลงกันพหุภาคีเป็น
ง่ายพอและอยู่ส่วนใหญ่ในความรู้สึกร่วมกันในเชิงพาณิชย์ แต่ก็ยังได้รับการสนับสนุน
จากหลักฐาน: ประสบการณ์ของการค้าโลกและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจตั้งแต่สอง
สงครามโลกครั้งที่ ภาษีผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้ลดลงสูงชันและตอนนี้เฉลี่ยน้อยกว่า
5% ในประเทศอุตสาหกรรม ในช่วง 25 ปีแรกหลังสงครามเศรษฐกิจโลก
การเติบโตเฉลี่ยประมาณ 5% ต่อปีในอัตราที่สูงว่าส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการค้าที่ลดลง
อุปสรรค การค้าโลกขยายตัวได้เร็วขึ้นเฉลี่ยประมาณ 8% ในช่วงเวลา.
ข้อมูลที่แสดงการเชื่อมโยงทางสถิติที่ชัดเจนระหว่างการค้าเสรีและการเติบโตทางเศรษฐกิจ.
จุดทฤษฎีเศรษฐกิจเหตุผลที่ดีสำหรับการเชื่อมโยง ทุกประเทศรวมทั้ง
ที่ยากจนที่สุดมีสินทรัพย์ - มนุษย์อุตสาหกรรม, ธรรมชาติ, การเงิน - การที่พวกเขาสามารถจ้าง
. ในการผลิตสินค้าและบริการสำหรับตลาดในประเทศหรือต่างประเทศที่จะแข่งขัน
เศรษฐศาสตร์บอกเราว่าเราจะได้ประโยชน์เมื่อสินค้าและบริการเหล่านี้มีการซื้อขาย .
ใส่เพียงแค่หลักการของ "ความได้เปรียบ" กล่าวว่าประเทศที่ประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรก
โดยการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ของพวกเขาเพื่อที่จะมีสมาธิกับสิ่งที่พวกเขาสามารถผลิต
ที่ดีที่สุดแล้วโดยการซื้อขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ประเทศอื่น ๆ ในการผลิตที่ดีที่สุด.
ในคำอื่น ๆ นโยบายการค้าเสรี - นโยบายที่ช่วยให้การไหลเวียนไม่ จำกัด ของ
สินค้าและบริการ -. ความคมชัดของการแข่งขันกระตุ้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมและความสำเร็จผสมพันธุ์
พวกเขาคูณผลตอบแทนที่เกิดจากการผลิตสินค้าที่ดีที่สุดที่มีการ
ออกแบบที่ดีที่สุดในราคาที่ดีที่สุด.
แต่ความสำเร็จใน การค้าไม่คงที่ ความสามารถในการแข่งขันกันในผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
สามารถเปลี่ยนจาก บริษัท บริษัท เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการตลาดหรือเทคโนโลยีใหม่
ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ถูกกว่าและดีกว่าที่เป็นไปได้ ผู้ผลิตได้รับการสนับสนุนที่จะปรับตัว
และค่อยๆในทางที่ค่อนข้างเจ็บปวด พวกเขาสามารถมุ่งเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ใหม่หา
ใหม่ "เฉพาะ" ในพื้นที่ปัจจุบันของพวกเขาหรือขยายไปสู่พื้นที่ใหม่.
ประสบการณ์แสดงให้เห็นศักยภาพในการแข่งขันที่ยังสามารถสลับสับเปลี่ยนระหว่างประเทศทั้ง
ประเทศที่อาจจะมีความสุขที่ได้เปรียบเพราะการลดค่าใช้จ่ายแรงงานหรือ
เพราะมันมีวัสดุที่ดีของทรัพยากรทางธรรมชาติบางอย่างยังสามารถกลายเป็น uncompetitive
ในสินค้าหรือบริการบางอย่างที่เศรษฐกิจของประเทศพัฒนา แต่ด้วยการกระตุ้น
ของเศรษฐกิจแบบเปิดของประเทศสามารถย้ายไปกลายเป็นการแข่งขันใน
บางสินค้าหรือบริการอื่น ๆ นี้เป็นปกติกระบวนการที่ค่อยๆ.
TRUE และไม่น่ารำคาญ?
รางวัลโนเบลพอลแซมวลเคยถูก
ท้าทายโดยนักคณิตศาสตร์
Stanislaw Ulam ที่ "ชื่อฉันหนึ่งโจทย์
ในทุกสังคมศาสตร์ซึ่งเป็น
ทั้งจริงและไม่น่ารำคาญ. "
คำตอบแซมวลหรือไม่? ได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ.
"นั่นมันเป็นความจำเป็นที่แท้จริงมีเหตุผลไม่ได้รับการ
ถกเถียงกันอยู่ก่อนที่นักคณิตศาสตร์; ว่ามันเป็นเรื่อง
เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้มีส่วนร่วมโดยนับพันของ
คนที่สำคัญและมีความคิดสร้างสรรค์ที่ได้
รับไม่สามารถที่จะเข้าใจหลักคำสอนด้วย
ตัวเองหรือจะเชื่อว่ามันหลังจากที่มันถูก
อธิบายให้พวกเขา. "
การค้าโลกและการผลิต
มีการเร่ง
การค้าทั้งสองและ GDP ลดลงใน ปลาย 1920s,
ก่อนที่จะออกจากจุดต่ำสุดในปี 1932 หลังสงครามโลก
ครั้งที่สองทั้งสองได้เพิ่มขึ้นชี้แจงส่วนใหญ่
ของเวลากับการค้าแซงหน้าจีดีพี.
(1950 = 100 การค้าและ GDP: เข้าสู่ระบบมาตราส่วน)
2,000
1,000
200
100
1929/32 38 48 60 70 80 90 1,995
50
แกตต์
สร้าง
องค์การการค้าโลก
สร้าง
จีดีพี
การค้าสินค้า
เพิ่มเติมในเว็บไซต์:
www.wto.org> ทรัพยากร>
วิจัยองค์การการค้าโลกและการวิเคราะห์
14
อย่างไรก็ตามสิ่งล่อใจที่จะปัดความท้าทายของการนำเข้าแข่งขันที่เป็น
ปัจจุบันอยู่เสมอ และรัฐบาลที่ดียิ่งขึ้นมีแนวโน้มที่จะยอมจำนนต่อการเรียกไซเรนของ
การปกป้องสำหรับผลประโยชน์ทางการเมืองในระยะสั้น - ผ่านเงินอุดหนุน, สีแดงที่มีความซับซ้อน
เทปและซ่อนอยู่หลังวัตถุประสงค์ของนโยบายที่ถูกต้องเช่นการรักษาสิ่งแวดล้อม
หรือการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นข้ออ้างเพื่อปกป้องผู้ผลิต.
คุ้มครองในท้ายที่สุด นำไปสู่การป่องผลิตไม่มีประสิทธิภาพจัดหาผู้บริโภค
ที่มีความล้าสมัยผลิตภัณฑ์ขี้เหร่ ในท้ายที่สุดโรงงานใกล้และงานที่จะหายไป
แม้จะมีการป้องกันและเงินอุดหนุน ถ้ารัฐบาลอื่น ๆ ทั่วโลกไล่ตาม
นโยบายเดียวกันตลาดสัญญาและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกจะลดลง หนึ่งใน
วัตถุประสงค์ที่รัฐบาลนำมาใช้กับการเจรจา WTO คือการป้องกันดังกล่าว selfdefeating
และดริฟท์ทำลายลงในการปกป้อง.
ได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ
นี้เป็นเนื้อหาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเดียว
ลึกเข้าไปในเศรษฐศาสตร์.
สมมติว่าประเทศจะดีกว่าประเทศ
B ที่ทำให้รถยนต์และประเทศ B เป็น
ดีกว่าประเทศที่ทำขนมปัง มัน
เห็นได้ชัด (นักวิชาการจะพูดว่า "น่ารำคาญ")
ว่าทั้งสองจะได้รับประโยชน์ถ้าเฉพาะ
ในรถยนต์, B เชี่ยวชาญในขนมปัง
และพวกเขาซื้อขายผลิตภัณฑ์ของตน นั่นคือ
กรณีที่มีประโยชน์แน่นอน.
แต่ถ้าเป็นประเทศที่ไม่ดีที่จะทำให้
ทุกอย่าง? จะค้าขับรถผู้ผลิตทั้งหมด
ออกจากธุรกิจ? คำตอบตามที่
ริคาร์โด้เป็นไม่มี เหตุผลก็คือหลักการ
ของการได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบ.
มันบอกว่าประเทศ A และ B ยังคงยืนที่จะ
ได้รับประโยชน์จากการซื้อขายกับแต่ละอื่น ๆ แม้กระทั่ง
ถ้าจะดีกว่า B ที่จะทำให้ทุกอย่าง.
ถ้าเป็นมากดีกว่าที่จะทำให้
รถยนต์และเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ที่เหนือกว่า ทำขนมปังแล้วควรจะ
ยังคงลงทุนทรัพยากรในสิ่งที่มันไม่ดีที่สุด
- การผลิตรถยนต์ - และการส่งออก
สินค้าไป B. B ยังคงควรลงทุนใน
สิ่งที่มันไม่ดีที่สุด - ทำขนมปัง - และ
ส่งออกผลิตภัณฑ์ที่จะถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้
เป็นที่มีประสิทธิภาพเป็น A. ทั้งยังจะได้รับประโยชน์
จากการค้า ประเทศไม่ได้
ที่จะเป็นที่ดีที่สุดในสิ่งที่จะได้รับจากการค้า.
นั่นคือความได้เปรียบ.
ทฤษฎีวันที่กลับไปเศรษฐศาสตร์คลาสสิก
เดวิดริคาร์โด้ มันเป็นหนึ่งในที่สุด
ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ มันเป็น
หนึ่งในเข้าใจผิดมากที่สุด
ในหมู่นักเศรษฐศาสตร์ไม่ใช่เพราะมันจะสับสน
กับประโยชน์แน่นอน.
มันก็มักจะอ้างเช่นว่าบาง
ประเทศไม่มีความได้เปรียบโดยเปรียบเทียบ
ในสิ่งที่ นั่นคือความจริงเป็นไปไม่ได้.
คิดเกี่ยวกับมัน ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . กรณีเปิดการค้า
กรณีเศรษฐกิจเปิดระบบการซื้อขายขึ้นอยู่กับหลายด้าน ตกลงกฎ
ง่ายพอและพักผ่อนไปในเชิงพาณิชย์ สามัญสำนึก แต่ก็ยังได้รับการสนับสนุนโดยหลักฐาน
: ประสบการณ์ของการค้าโลกและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ตั้งแต่สงคราม
โลกครั้งที่สอง ผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้ลดลงสูงชันและตอนนี้เฉลี่ยน้อยกว่า
5 % ในประเทศอุตสาหกรรมในช่วง 25 ปีแรกหลังสงคราม การเติบโตทางเศรษฐกิจ
โลกเฉลี่ยประมาณ 5% ต่อปี ในอัตราสูงที่เป็นส่วนหนึ่งเป็นผลของอุปสรรคทางการค้า
ต่ำกว่า การค้าโลกเติบโตได้เร็วขึ้น เฉลี่ยประมาณ 8 % ในช่วงระยะเวลา .
ข้อมูลที่แสดงการเชื่อมโยงระหว่างเสรีทางการค้าที่ชัดเจนทางสถิติ และการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์จุดเหตุผลที่แข็งแกร่งสำหรับลิงค์ ทุกประเทศรวมทั้ง
ยากจนที่สุดมีทรัพย์สินของมนุษย์ , อุตสาหกรรม , ธรรมชาติ , การเงิน - ซึ่งพวกเขาสามารถจ้าง
เพื่อผลิตสินค้าและบริการในตลาดในประเทศของตน หรือไปแข่งขันในต่างประเทศ .
เศรษฐศาสตร์บอกเราว่า เราได้ประโยชน์ เมื่อสินค้าและบริการเหล่านี้มีการซื้อขาย .
เอาง่ายๆ หลักการของ " ประโยชน์ " เปรียบเทียบบอกว่าประเทศเจริญก่อน
โดยการใช้ประโยชน์ของทรัพย์สินของพวกเขาเพื่อสมาธิในสิ่งที่พวกเขาสามารถผลิต
ที่ดีที่สุดแล้ว โดยการซื้อขายผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศอื่น ๆที่ดีที่สุด .
ในคำอื่น ๆเสรีการค้านโยบาย - นโยบายที่อนุญาตให้มีการไหลของสินค้าและบริการได้ไม่จำกัด
- คมชัดการแข่งขัน กระตุ้นนวัตกรรมและสายพันธุ์
สำเร็จแล้วพวกเขาคูณผลตอบแทนที่เกิดจากการผลิต ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด ด้วยการออกแบบที่ดีที่สุด

ในราคาที่ดีที่สุด แต่ความสำเร็จในการค้าจะไม่คงที่ ความสามารถในการแข่งขันได้ดี
ผลิตภัณฑ์เฉพาะ สามารถเปลี่ยน จาก บริษัท บริษัท เมื่อตลาดมีการเปลี่ยนแปลง หรือเทคโนโลยีใหม่
ให้ราคาถูกกว่าและดีกว่าผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปได้ ผู้ผลิตควรที่จะปรับตัว
ค่อยๆและในวิธีที่ค่อนข้างยุ่ง