AbstractObjectives: The objective w

Abstract
Objectives: The objective was to determine the association between asthma severity as measured by the
Pediatric Respiratory Assessment Measure (PRAM) score and the likelihood of admission for pediatric
patients who present to the emergency department (ED) with moderate-to-severe asthma exacerbations
and who receive intensive asthma therapy.
Methods: This was a secondary analysis of a prospective study of triage nurse-initiated steroid therapy
in pediatric asthma. Children aged 2 to 17 years inclusive, presenting with moderate-to-severe acute
asthma exacerbations (defined as PRAM ≥ 4), were included. To be eligible for inclusion in the study,
children must have received “intensive asthma therapy,” defined as nurse-initiated initial bronchodilator
and oral steroid therapy at arrival to triage. PRAM scores were measured hourly as per ED protocol. The
primary outcome was inpatient hospitalization; secondary outcome was ED stay greater than 8 hours.
Logistic regression models were used to predict admission based on PRAM score at triage and then
hourly thereafter. The area under the receiver operating characteristic curve (AUC) was calculated for
each hour.
Results: A total of 297 patients were included in the analysis, with an admission rate of 11.4% for
patients receiving intensive therapy. The 3-hour PRAM (AUC = 0.85) significantly improved prediction of
admission compared to PRAM at triage (p = 0.04).
Conclusions: The 3-hour PRAM scores best predicts the need for hospitalization. These results may be
applied in clinical settings to facilitate the decision to admit or initiate more aggressive adjunctive
therapy to decrease the need for hospitalization.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์: วัตถุประสงค์เป็นการ กำหนดความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของโรคหืดโดยการกุมารวัดประเมินทางเดินหายใจ (PRAM) คะแนนและโอกาสของการเข้าชมสำหรับเด็กผู้ป่วยที่มีแผนกฉุกเฉิน (ED) มีการกำเริบของโรคหืดปานกลางถึงรุนแรงและผู้รับบำบัดหอบหืดแบบเร่งรัดวิธีการ: นี้เป็นการวิเคราะห์การศึกษาอนาคตพยาบาลเริ่มต้นรักษาเตียรอยด์ triage รองในเด็กโรคหอบหืด เด็กอายุ 2-17 ปีรวม กับปานกลางถึงรุนแรงเฉียบพลันโรคหอบหืดกำเริบ (กำหนดเป็นรถเข็น≥ 4), มาพร้อม จะมีสิทธิ์ในการศึกษาเด็กต้องได้รับการ "รักษาด้วยโรคหอบหืดจำนวนมาก กำหนดเป็นพยาบาลเริ่มต้นอุดและปากเตียรอยด์บำบัดที่ถึงซ้ำ คะแนนรถเข็นถูกวัดเป็นรายชั่วโมงตามโพรโทคอล ED การผลหลักถูกรักษาในโรงพยาบาลห้องคลอด ผลรองถูกเอ็ดอยู่มากกว่า 8 ชั่วโมงใช้โมเดลถดถอยโลจิสติกทำนายตามรถเข็นคะแนนที่ triage เข้าแล้วชั่วโมงหลังจากนั้น คำนวณพื้นที่ใต้รับปฏิบัติการโค้งงอ (AUC) สำหรับแต่ละชั่วโมงผลลัพธ์: รวมอยู่ในการวิเคราะห์ มีอัตราเข้าชม 11.4% ของผู้ป่วยที่ 297ผู้ป่วยที่ได้รับเร่งรัดบำบัด รถเข็น 3 ชั่วโมง (AUC = 0.85) ช่วยประมาณการเข้าชมเทียบกับรถเข็นที่ triage (p = 0.04)บทสรุป: คะแนน 3 ชั่วโมงรถเข็นที่สุดทำนายต้องรักษาในโรงพยาบาล ผลลัพธ์เหล่านี้อาจใช้ในการตั้งค่าทางการแพทย์เพื่อความสะดวกในการตัดสินใจยอมรับ หรือเริ่มสูง adjunctiveการรักษาเพื่อลดความต้องการรักษาในโรงพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์: มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างโรคหอบหืดรุนแรงโดยวัดจาก
วัดกุมารประเมินระบบทางเดินหายใจ (เปรม) คะแนนและความน่าจะเป็นของการรับสมัครสำหรับเด็ก
ผู้ป่วยที่นำเสนอให้กับแผนกฉุกเฉิน (ED) ที่มีปานกลางถึงรุนแรงกำเริบของโรคหอบหืด
และผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยโรคหอบหืดอย่างเข้มข้น.
วิธีการ: นี่คือการวิเคราะห์ที่สองของการศึกษาในอนาคตของ triage พยาบาลริเริ่มการรักษาด้วยเตียรอยด์
ในโรคหอบหืดในเด็ก เด็กอายุ 2-17 ปีรวมการนำเสนอที่มีปานกลางถึงรุนแรงเฉียบพลัน
กำเริบของโรคหอบหืด (หมายถึงรถเข็น≥ 4) ถูกรวม จึงจะมีสิทธิ์สำหรับการรวมในการศึกษา
เด็กต้องได้รับ "การรักษาด้วยโรคหอบหืดอย่างเข้มข้น" ที่กำหนดไว้เป็นพยาบาลที่ริเริ่ม bronchodilator เริ่มต้น
และการรักษาเตียรอยด์ในช่องปากที่เดินทางมาถึงเพื่อ triage คะแนนเปรมวัดรายชั่วโมงตามโปรโตคอล ED
ผลหลักเป็นโรงพยาบาลผู้ป่วย; การได้รับยา ED อยู่มากกว่า 8 ชั่วโมง.
แบบจำลองการถดถอยโลจิสติกถูกนำมาใช้ในการทำนายการเข้ารับการรักษาขึ้นอยู่กับคะแนนที่เปรม triage แล้ว
รายชั่วโมงหลังจากนั้น พื้นที่ภายใต้การดำเนินงานรับเส้นโค้งลักษณะ (AUC) ที่ได้รับการคำนวณ
ทุกชั่วโมง.
ผลการศึกษา: ผู้ป่วยทั้งสิ้น 297 ถูกรวมอยู่ในการวิเคราะห์มีอัตราการรับเข้าของ 11.4% สำหรับ
ผู้ป่วยที่ได้รับยาอย่างเข้มข้น เรือท้องแบน 3 ชั่วโมง (AUC = 0.85) ปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญการคาดการณ์ของ
การรับสมัครเมื่อเทียบกับรถเข็นที่ triage (p = 0.04).
สรุปผลการวิจัย: คะแนนเปรม 3 ชั่วโมงที่ดีที่สุดคาดการณ์ความจำเป็นในการรักษาในโรงพยาบาล ผลการเหล่านี้อาจถูก
นำไปใช้ในการตั้งค่าทางคลินิกเพื่ออำนวยความสะดวกในการตัดสินใจที่จะยอมรับหรือเริ่มต้นเสริมก้าวร้าวมากขึ้น
การบำบัดเพื่อลดความจำเป็นในการรักษาในโรงพยาบาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อวัตถุประสงค์ : วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความรุนแรงของโรคหืดเป็นวัดโดยกุมารเวชศาสตร์ระบบทางเดินหายใจการประเมินวัด ( รถเข็น ) คะแนน และโอกาสในการเข้าชมสำหรับเด็กปัจจุบันผู้ป่วยที่แผนกฉุกเฉิน ( ED ) กับข้อมูลผู้ป่วยโรคหอบหืดรุนแรงและผู้ที่ได้รับการรักษาโรคหืดที่เข้มข้นวิธีการนี้คือการวิเคราะห์ข้อมูลทุติยภูมิของผู้ป่วยพยาบาล triage ริเริ่มสเตอรอยด์บำบัดในเด็กที่เป็นหอบหืด เด็กอายุ 2 ถึง รวม 17 ปี การนำเสนอที่มีระดับปานกลางถึงรุนแรงเฉียบพลันผู้ป่วยโรคหืด ( เช่นรถเข็น≥ 4 ) , รวม จะได้รับการรวมไว้ในการศึกษาเด็กต้องได้รับการรักษาหอบหืดเข้มข้น " กำหนดเป็นพยาบาลเริ่มเริ่มต้นบร โชไดเลเตอร์ช่องปากและการรักษาที่เดินทางมาถึงเพื่อคัดแยกผู้ป่วย คะแนนจำนวนชั่วโมงตามรถเข็น เอ็ด โปรโตคอล ที่ผลการศึกษาเป็นคนไข้ในโรงพยาบาล ; ผลรองถูกเอ็ดอยู่มากกว่า 8 ชั่วโมงตัวแบบถดถอยโลจิสติกเพื่อใช้ทำนายการเข้ายึดรถเข็นคะแนนที่สำคัญแล้วชั่วโมงหลังจากนั้น พื้นที่ภายใต้โค้งลักษณะงาน ( รับยา ) คือคำนวณสำหรับในแต่ละชั่วโมงผลการศึกษา : ผู้ป่วยทั้งหมด 297 อยู่ในการวิเคราะห์ ได้แก่ อัตราการเติบโตสำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง ใน 3 ชั่วโมง รถเข็น ( ยา = 0.85 ) การปรับปรุงอย่างมาก การทำนายการเปรียบเทียบกับรถเข็นที่สำคัญ ( p = 0.04 )สรุป : รถเข็นคะแนนที่ดีที่สุด 3 ชั่วโมง คาดการณ์ความต้องการรักษาในโรงพยาบาล ผลลัพธ์เหล่านี้อาจจะใช้ในการตั้งค่าทางคลินิกเพื่อความสะดวกในการตัดสินใจที่จะยอมรับหรือเริ่มต้นเป็นวิธีก้าวร้าวมากขึ้นการลดความต้องการสำหรับการเข้าอยู่