Prohibit Privacy-Invasive Uses or D

Prohibit Privacy-Invasive Uses or Disclosures
An HSNS must carefully weigh the risks and benefits of uses or disclosures of health data, giving special attention to legal constraints and ethical considerations. HSNS administrators might find it necessary to prohibit certain privacy-invasive uses or disclosures of health data regardless of user consent.7 We know that users are concerned about employers, insurers, or credit card companies having access to their medical records. Therefore, health data must not be exposed for purposes of discrimination in the context of employment, insurance, or credit. Moreover, if an HSNS doesn’t prevent inappropriate use or disclosure of personal information, the Federal Trade Commission (FTC) can bring action against the company for engaging in a “fraudulent, deceptive, and unfair business practices” (http://ftc.gov/opa/2011/11/ privacysettlement.shtm). More importantly, privacy protection makes good business sense because it increases users’ trust in the system and reduces costs for data breaches.
Greater exchange of information would result, benefitting both the site and users.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ห้ามใช้รุกรานความเป็นส่วนตัวหรือเปิดเผยข้อมูลHSNS ต้องรอบคอบมีน้ำหนักความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลสุขภาพ ให้ความสำคัญกับข้อจำกัดทางกฎหมายและจริยศาสตร์ HSNS ผู้ดูแลอาจพบว่ามันจำเป็นต้องห้ามไม่ให้ใช้รุกรานความเป็นส่วนตัวหรือเปิดเผยข้อมูลสุขภาพโดยไม่คำนึงถึงผู้ใช้ consent.7 เรารู้ว่า ผู้ใช้มีความกังวลเกี่ยวกับนายจ้าง บริษัทประกัน บริษัทบัตรเครดิตที่มีการเข้าถึงเวชระเบียนของตน หรือบาง ดังนั้น ข้อมูลสุขภาพต้องไม่โดนวัตถุประสงค์ของการเลือกปฏิบัติในบริบทของการจ้างงาน ประกันภัย หรือเครดิต นอกจากนี้ ถ้า HSNS การไม่ป้องกันการใช้ไม่เหมาะสมหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง (FTC) สามารถนำมาดำเนินการกับบริษัทใน "ดำเนินธุรกิจหลอกลวง หลอกลวง และไม่เป็นธรรม" (http://ftc.gov/opa/2011/11/ privacysettlement.shtm) สำคัญ การป้องกันความเป็นส่วนตัวทำให้รู้สึกทางธุรกิจที่ดีเนื่องจากมันเพิ่มความน่าเชื่อถือของผู้ใช้ในระบบ และลดค่าใช้จ่ายการละเมิดข้อมูลแลกเปลี่ยนข้อมูลมากขึ้นจะส่งผล ฟิตทั้งเว็บไซต์และผู้ใช้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ห้ามมิให้ใช้สิทธิส่วนบุคคลรุกรานหรือการเปิดเผยข้อมูล
HSNs อย่างระมัดระวังจะต้องชั่งน้ำหนักความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้งานหรือการเปิดเผยข้อมูลสุขภาพให้ความสนใจเป็นพิเศษกับข้อ จำกัด ทางกฎหมายและการพิจารณาจริยธรรม ผู้ดูแลระบบ HSNs อาจพบว่าจำเป็นต้องห้ามบางอย่างใช้ความเป็นส่วนตัวรุกรานหรือการเปิดเผยข้อมูลโดยไม่คำนึงถึงสุขภาพของผู้ใช้ consent.7 เรารู้ว่าผู้ใช้มีความกังวลเกี่ยวกับนายจ้างผู้ประกันตนหรือ บริษัท บัตรเครดิตที่มีการเข้าถึงเวชระเบียนของพวกเขา ดังนั้นข้อมูลสุขภาพต้องไม่สัมผัสสำหรับวัตถุประสงค์ของการเลือกปฏิบัติในบริบทของการจ้างงาน, การประกันหรือบัตรเครดิต นอกจากนี้ถ้า HSNs ไม่ได้ป้องกันการใช้งานที่ไม่เหมาะสมหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล, คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง (FTC) ที่สามารถนำมาดำเนินการกับ บริษัท สำหรับการมีส่วนร่วมใน "ฉ้อโกงหลอกลวงและไม่เป็นธรรมในการดำเนินธุรกิจ" (http: // FTC .gov / Opa / 2011/11 / privacysettlement.shtm) ที่สำคัญกว่าป้องกันความเป็นส่วนตัวทำให้ความรู้สึกทางธุรกิจที่ดีเพราะมันจะเพิ่มความไว้วางใจของผู้ใช้ในระบบและช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับการละเมิดข้อมูล.
แลกเปลี่ยนมหานครของข้อมูลที่จะส่งผลให้ฟิตทั้งสถานที่และผู้ใช้