art2and art.3 could impose postive

art2and art.3 could impose postive obligations on the authorties o takemeasures to protect individuals at risk of serious harm from thecriminal acts of others. When considering whether those obligationshad been complied with, account had to be taken of the difficultiesคoง.t)วลขากinvolved in policing modern societies, the unpredictability of humanconduct, and the resource and priority-driven operational choicesthat had to be made. The police had to be afforded a degree ofdiscretion in taking operational decisions. Police forces facedchallenges that had perhaps been unforeseen when the Conventionwas drafted, and they had developed techniques, such as "kettling",to deal with them. Article 5 could not be interpreted in such a way asto make it impracticable for the police to fufil their duties, providedthat they complied with its underlying principle, which was to protectthe individual from arbitrariness. Nor was it concerned with mererestrictions on liberty of movement. The difference between adeprivation of liberty and a restriction upon it was one of degree, andtherefore the type, duration, effects and manner of implementationof the measure used had to be considered.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

art2
และ art.3 สามารถกำหนดภาระหน้าที่ postive บน authorties o การใช้เวลา
มาตรการเพื่อป้องกันบุคคลที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายร้ายแรงจาก
ความผิดทางอาญาการกระทำของคนอื่น ๆ เมื่อพิจารณาว่าภาระหน้าที่ของผู้ที่
ได้รับการปฏิบัติตามบัญชีจะต้องมีการดำเนินการในความยากลำบากค o ง. t) วลขาก
มีส่วนร่วมในการรักษาสังคมสมัยใหม่, ความผันผวนของมนุษย์
ดำเนินการและทรัพยากรและการจัดลำดับความสำคัญที่ขับเคลื่อนด้วยทางเลือกในการดำเนินงาน
ว่า จะต้องทำ ตำรวจจะต้องมีการศึกษาระดับปริญญาอึดของ
ดุลยพินิจในการตัดสินใจในการดำเนินงาน กองกำลังตำรวจที่ต้องเผชิญกับ
ความท้าทายที่ได้รับอาจจะไม่คาดฝันเมื่อการประชุม
ถูกเกณฑ์ทหารและพวกเขาได้พัฒนาเทคนิคเช่น "kettling"
จัดการกับพวกเขา ข้อ 5 ไม่สามารถตีความในลักษณะเช่น
ที่จะทำให้มันเป็นไปไม่ได้สำหรับตำรวจที่จะ fufil หน้าที่ของตนให้
เห็นว่าพวกเขาปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของมันซึ่งก็เพื่อเป็นการปกป้อง
บุคคลจากความเด็ดขาด หรือมันเป็นเพียงความกังวลกับ
ข้อ จำกัด ในเสรีภาพของการเคลื่อนไหว ความแตกต่างระหว่าง
การลิดรอนเสรีภาพและข้อ จำกัด เมื่อมันเป็นหนึ่งในการศึกษาระดับปริญญาและ
ดังนั้นจึงประเภทระยะเวลาผลกระทบและลักษณะของการดำเนินงาน
ของการวัดที่ใช้จะต้องได้รับการพิจารณา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

art2
และศิลปะ3สามารถกำหนดภาระผูกพัน postive
เพื่อปกป้องบุคคลที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายร้ายแรงจาก
การกระทำผิดทางอาญาของผู้อื่น เมื่อพิจารณาว่าภาระผูกพันเหล่านั้น
เป็นไปตามบัญชีที่ต้องดำเนินการจาก difficultiesคoง) วลขาก
มีส่วนร่วมในสังคมสมัยใหม่ที่ไม่ได้คาดการณ์ของมนุษย์
และทรัพยากรและตัวเลือกในการดำเนินงานที่มีความสำคัญ
ที่ต้องทำ ตำรวจจะต้องได้รับการใช้ระดับของ
ดุลยพินิจในการตัดสินใจในการดำเนินงาน กองกำลังตำรวจต้องเผชิญ
ความท้าทายที่อาจจะไม่ได้คาดการณ์เมื่อการประชุม
ถูกร่างและพวกเขาได้พัฒนาเทคนิคเช่น "kettling "
เพื่อจัดการกับพวกเขา ข้อ5ไม่สามารถตีความในลักษณะเช่น
ที่จะทำให้มันเป็นไปอย่างต่อเนื่องสำหรับตำรวจที่จะดำเนินหน้าที่ของพวกเขาให้
ว่าพวกเขาปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของมันซึ่งก็คือการปกป้อง
บุคคลจากการเก็งกำไร ไม่เป็นห่วง
ข้อจำกัดของเสรีภาพในการเคลื่อนไหว ความแตกต่างระหว่าง
ของเสรีภาพและข้อจำกัดในการเป็นหนึ่งในระดับ
ดังนั้นประเภทระยะเวลาผลกระทบและลักษณะของการดำเนินงาน
ของมาตรการที่ใช้ในการพิจารณา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทความที่สอง
บทความที่สามอาจกำหนดหน้าที่บวกกับผู้เขียน
ใช้ขั้นตอนเพื่อปกป้องบุคคลที่อาจได้รับบาดเจ็บสาหัส
อาชญากรรมของผู้อื่น ในการพิจารณาหน้าที่เหล่านี้
ได้ปฏิบัติตามปัญหาที่ต้องพิจารณา
ความไม่แน่นอนของมนุษย์ในสังคมสมัยใหม่
พฤติกรรมเช่นเดียวกับทรัพยากรและลำดับความสำคัญขับเคลื่อนการเลือกปฏิบัติการ
นั่นคือสิ่งที่ต้องทำ ตำรวจต้องได้รับระดับหนึ่ง
ข้อควรระวังในการตัดสินใจทางธุรกิจ เผชิญหน้ากับตำรวจ
ความท้าทายที่คาดไม่ถึงเมื่ออนุสัญญามีผลบังคับใช้
ใช่พวกเขาได้พัฒนาเทคนิคบางอย่างเช่นตะกร้าสุทธิ
จัดการกับพวกเขา ข้อห้าไม่สามารถอธิบายได้
ป้องกันตำรวจจากการปฏิบัติหน้าที่
พวกเขาปฏิบัติตามหลักการพื้นฐานของ
โดยพลการของแต่ละบุคคล ไม่ใช่แค่นั้น
จำกัดเสรีภาพในการกระทำ ความแตกต่างระหว่างสอง
การกีดกันเสรีภาพและจำกัดเสรีภาพเป็นระดับและ
ดังนั้นชนิดระยะเวลาผลและวิธีการดำเนินการ
มาตรการที่ใช้ต้องพิจารณา