been proposed that other components

been proposed that other components such as vitamins C [28] and E
[29] in tomato have a synergistic antioxidant effect with lycopene,
so it is likely that other nutrients in tomato juice also play a role in
the antioxidant effects that we observed. In this study we selected
tomato juice among the tomato products because its lycopene
content is higher than whole tomato (tomato juice: 9318 mg/100 g
versus raw whole tomato: 3025 mg/100 g) [30] and also tomato
juice consumption is easy. Our study has some limitations,
including a small sample size and a short intervention period. The
disparity in the number of subjects in the overweight and obese
groups may be the cause of different findings between two groups.
So, further clinical studies with a larger sample size or the same
number of the subjects in each group are needed to evaluate the
beneficial effects of tomato juice on oxidative stress. Despite these
limitations, this study is among the few studies that determining
the effects of tomato juice on blood antioxidant parameters in
overweight and obese females.
Our results suggest that tomato juice consumption can reduce
oxidative stress markers in overweight (and possibly obese) females.
Thus, the increase of tomato consumption may be useful for
reducing diseases associated with oxidative stress such as CVD and
diabetes, which are related to obesity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รับการเสนอว่าส่วนประกอบอื่น ๆ เช่นวิตามิน C [28] และอี
[29] ในมะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระมีผลสอดคล้องกับไลโคปีน
ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าสารอาหารอื่น ๆ ในน้ำมะเขือเทศยังมีบทบาทสำคัญใน
ผลกระทบที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่เราตั้งข้อสังเกต ในการศึกษานี้เราเลือก
น้ำมะเขือเทศในผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเพราะไลโคปีนของ
เนื้อหาที่สูงกว่ามะเขือเทศทั้งหมด (น้ำมะเขือเทศ: 9318 mg / 100 กรัม
เมื่อเทียบกับมะเขือเทศดิบทั้งหมด: 3025 mg / 100 กรัม) [30] และมะเขือเทศ
บริโภคน้ำผลไม้เป็นเรื่องง่าย . การศึกษาของเรามีข้อ จำกัด บางอย่าง
รวมทั้งขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเล็กและมีระยะเวลาการแทรกแซงสั้น
ความเหลื่อมล้ำในจำนวนของอาสาสมัครในภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน
กลุ่มอาจจะเป็นสาเหตุของการค้นพบความแตกต่างระหว่างสองกลุ่ม.
ดังนั้นการศึกษาทางคลินิกอีกด้วยขนาดของกลุ่มตัวอย่างขนาดใหญ่หรือเดียวกัน
จำนวนวิชาในแต่ละกลุ่มมีความจำเป็นในการประเมิน
ที่เป็นประโยชน์ ผลกระทบของน้ำมะเขือเทศในความเครียดออกซิเดชัน ถึงแม้ว่าจะมี
ข้อ จำกัด ในการศึกษาครั้งนี้เป็นหนึ่งในการศึกษาไม่กี่แห่งที่กำหนด
ผลกระทบของน้ำมะเขือเทศกับพารามิเตอร์สารต้านอนุมูลอิสระในเลือดใน
เพศหญิงน้ำหนักเกินและโรคอ้วน.
ผลของเราแสดงให้เห็นว่าการบริโภคน้ำมะเขือเทศสามารถลด
เครื่องหมายความเครียดออกซิเดชันในน้ำหนักเกิน (และอาจเป็นโรคอ้วน) หญิง.
ดังนั้น การเพิ่มขึ้นของการบริโภคมะเขือเทศอาจเป็นประโยชน์สำหรับ
การลดโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียด oxidative เช่น CVD และ
โรคเบาหวานโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถูกเสนอที่ส่วนประกอบอื่น ๆเช่นวิตามิน C และ E [ 28 ][ 29 ] ในมะเขือเทศมีไลโคปีนสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มผล ,ดังนั้น มีแนวโน้มว่า สารอาหารในน้ำมะเขือเทศยังมีบทบาทในผลของสารต้านอนุมูลอิสระที่เราสังเกตได้ ในการศึกษานี้เราเลือกมะเขือเทศในผลิตภัณฑ์มะเขือเทศ เพราะไลโคปีนเนื้อหาสูงกว่ามะเขือเทศ ( มะเขือเทศน้ำผลไม้ : 9318 มิลลิกรัม / 100 กรัมเมื่อเทียบกับ RAW ทั้งมะเขือเทศ : 0 มิลลิกรัม / 100 กรัม ) [ 30 ] และมะเขือเทศปริมาณการใช้น้ำได้ง่าย การศึกษาของเรามีข้อ จำกัดรวมทั้งตัวอย่างขนาดเล็ก การแทรกแซงและระยะเวลาสั้นๆ ที่ความต่างในจำนวนวิชาในภาวะน้ำหนักเกินและอ้วนกลุ่มอาจเป็นสาเหตุที่พบความแตกต่างระหว่างสองกลุ่มดังนั้น จากการศึกษาทางคลินิกกับตัวอย่างขนาดใหญ่หรือขนาดเดียวกันจำนวนประชากรในแต่ละกลุ่มจะต้องประเมินประโยชน์ผลของมะเขือเทศต่อความเครียดออกซิเดชัน แม้เหล่านี้ข้อจำกัด การศึกษานี้เป็นหนึ่งในการศึกษาที่ไม่กำหนดผลของมะเขือเทศในเลือดต้านอนุมูลอิสระของภาวะน้ำหนักเกินและอ้วน ผู้หญิงจากผลการศึกษานี้ การบริโภคมะเขือเทศสามารถลดปฏิกิริยาความเครียดเครื่องหมายในคนอ้วน ( และอาจจะอ้วน ) เพศเมียดังนั้น การเพิ่มขึ้นของการบริโภคมะเขือเทศอาจมีประโยชน์สำหรับการลดการเกิดโรคที่เกี่ยวข้องกับความเครียด เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน