Fabricated holes can be found on so

Fabricated holes can be found on some nonwoven cocoons, as shown in Fig. 6. Fibres are densely packed into concentric structures around the holes for supporting the cocoon frames. C. trifenestrata ( Fig. 6A) and A. mimosae cocoons have a fibre mesh structure on the large proportion of the cocoon surface, while Cricula andrei and O. eucalypti ( Fig. 6D) cocoons only have some small holes on the surface not attaching to the substrate. The holes of O. eucalypti cocoon are found to be arranged along the supporting twig. The rest of the cocoon wall is a nonwoven structure with low porosity, and the fibres are strongly bonded ( Fig. 6A and B, D and E for comparison of morphologies between cocoon holes and free surface Figure). C. simla and Caligula cachara cocoons have a lattice structure without any nonwoven cocoon wall ( Fig. 6C and F). Fibres with higher diameters up to 100 μm (Table 3) interweave with each other for supporting the cocoon structure. These cocoons can also be found covered by leaves, and the sericin flows along the attaching surface for bonding the cocoons.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สามารถพบหลุมประกอบในบางรังนอนวูฟเวน ดังที่แสดงใน Fig. 6 เส้นใยหนาแน่นไปบรรจุลงในโครงสร้าง concentric รอบ ๆ หลุมสำหรับสนับสนุนเฟรมโคคูน C. trifenestrata (Fig. 6A) และรัง A. mimosae มีใยตาข่ายโครงสร้างในสัดส่วนใหญ่ของผิวรัง ในขณะที่แอนดรูว์ Cricula และรัง eucalypti โอ (Fig. 6D) มีเพียงบางหลุมเล็ก ๆ บนพื้นผิวที่ไม่แนบกับพื้นผิว พบหลุมรังโอ eucalypti จัดเรียงตาม twig สนับสนุน ส่วนเหลือของผนังรังโครงสร้างวูฟกับ porosity ต่ำ และน้อย ๆ ขอผูก (Fig. 6A และ B, D และ E สำหรับการเปรียบเทียบของ morphologies ระหว่างหลุมรังและรูปผิวฟรี) ซิมลา C. และรัง cachara คาลิกูลามีโครงสร้างแบบโครงตาข่ายประกอบโดยไม่มีผนังรังนอนวูฟเวน (Fig. 6C และ F) เนื่อง ด้วยปัจจุบันสูงถึง 100 μm (ตาราง 3) interweave กันเพื่อสนับสนุนโครงสร้างโคคูน รังเหล่านี้ยังสามารถพบได้ครอบคลุม โดยใบ และทองบริสุทธิ์ไหลตามผิว attaching สำหรับยึดรัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลุมประดิษฐ์สามารถพบได้ในรังนอนวูฟเวนบางอย่างดังแสดงในรูป 6. Fibres จะแน่นขนัดเป็นโครงสร้างศูนย์กลางรอบหลุมสำหรับสนับสนุนเฟรมรัง C. trifenestrata (รูป. 6A) และ A. รัง mimosae มีโครงสร้างตาข่ายใยในสัดส่วนขนาดใหญ่ของพื้นผิวรังในขณะที่อังเดรและ Cricula eucalypti ทุม (รูป. 6D) รังไหมมีเพียงรูเล็ก ๆ บาง ๆ บนพื้นผิวไม่ติด กับพื้นผิว หลุมของ eucalypti รังทุมจะพบว่ามีการจัดไปตามกิ่งสนับสนุน ส่วนที่เหลือของผนังรังเป็นโครงสร้างนอนวูฟเวนที่มีความพรุนต่ำและเส้นใยจะถูกผูกมัดอย่างยิ่ง (รูป. 6A และ B, D และ E สำหรับการเปรียบเทียบรูปร่างลักษณะระหว่างหลุมรังและพื้นผิวรูปฟรี) ซีศิมลาและคาลิกูลา cachara รังไหมมีโครงสร้างตาข่ายโดยไม่มีผนังรังนอนวูฟเวนใด ๆ (รูป. 6C และ F) Fibres มีขนาดสูงถึง 100 ไมโครเมตร (ตารางที่ 3) คลุกเคล้ากับแต่ละอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนโครงสร้างรัง รังไหมเหล่านี้ยังสามารถพบปกคลุมด้วยใบและเซริซินที่ไหลไปตามพื้นผิวยึดสำหรับพันธะรังไหม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สร้างหลุมสามารถพบได้ในบางนอนดักแด้ดังแสดงในรูปที่ 6 เส้นใยหนาแน่นเป็นโครงสร้างที่ศูนย์กลางรอบหลุมเพื่อสนับสนุนรังเฟรม C . trifenestrata ( รูปที่ 6 ) และ mimosae ดักแด้มีเส้นใยตาข่ายโครงสร้างสัดส่วนขนาดใหญ่ของพื้นผิวรัง ขณะที่ อังเดร eucalypti ( ภาพและ cricula O6 ) รังไหมมีบางหลุมเล็ก ๆบนพื้นผิวที่ไม่ได้แนบกับพื้นผิว หลุมของ O eucalypti รัง มีการจัดเรียงตามสนับสนุน กิ่งไม้ ส่วนที่เหลือของโคคูน ผนังเป็นโครงสร้าง nonwoven ที่มีรูพรุนต่ำ และเส้นใยขอผูกมัด ( รูปที่ 6 และ B , D และ E สำหรับการเปรียบเทียบโครงสร้าง ระหว่างหลุมรังและฟรีรูปพื้นผิว ) C .และ cachara Simla Caligula ดักแด้มีโครงสร้างตาข่าย ไม่มีผนังรังนอนใด ๆ ( รูปที่ 6C และ F ) เส้นใยที่มีขนาดสูงถึง 100 μ M ( ตารางที่ 3 ) คลุกเคล้ากับแต่ละอื่น ๆเพื่อสนับสนุนโครงสร้างรังไหม ดักแด้เหล่านี้ยังสามารถพบปกคลุมด้วยใบไม้ และเซริซินที่ไหลตามผิวหน้า สำหรับดักแด้ เชื่อม