1992–98: Early acting roles and Pre

1992–98: Early acting roles and Prefontaine

Leto at a press conference for My So-Called Life in 1995
In 1992, Leto moved to Los Angeles to pursue a career in directing, intending to take acting roles on the side.[16] He found minor roles on television shows but his first break came in 1994, after he was cast opposite Claire Danes as Jordan Catalano, her love interest, in the short-lived but well-reviewed ABC teen drama My So-Called Life.[7] The show was praised for its portrayal of adolescence and gained a strong cult following, despite being canceled after only one season.[17] The same year, he made his television film debut starring alongside Alicia Silverstone in Cool and the Crazy, and landed his first film role in the 1995 drama How to Make an American Quilt. He later co-starred with Christina Ricci in The Last of the High Kings (1996) and got a supporting role in Switchback (1997).[15]

In 1997, Leto starred in the biopic Prefontaine in which he played the role of Olympic hopeful Steve Prefontaine. For the preparation of the role, Leto immersed himself in the runner's life, training for six weeks and meeting with members of his family and friends.[18] He bore a striking resemblance to the real Prefontaine, also adopting the athlete's voice and upright running style.[19] His portrayal received positive reviews from critics and is often considered his breakthrough role.[20][21] Peter Stack of the San Francisco Chronicle noted how Leto played the athlete with raw vitality; "With hypnotic blue eyes and dirty blond hair, Leto captures the rock-star style Prefontaine affected, and he looks natural in fiery performances on the track, as well as off, where Pre affected a brash, confrontational style."[22]

After landing the lead role of a British aristocrat in the 1998 drama Basil, Leto starred in the horror Urban Legend. The film was poorly received by most movie critics, however, it was a financial success.[23][24] The same year, Terrence Malick cast Leto for a supporting role in the war film The Thin Red Line alongside Sean Penn and Adrien Brody.[25] It garnered mostly positive reviews and was a moderate success in the box office.[26] It received multiple awards and nominations, including seven Academy Award nominations; Leto shared a Satellite Award with the rest of the cast.[27][28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1992 – 98: ก่อนหน้าที่บทบาทและผิดเลโตที่แถลง for My So-Called Life ในปี 1995ในปี 1992 เลโตย้ายไปลอสแองเจลิสอาชีพในกำกับ ตั้งใจที่จะแสดงบทบาททางด้าน [16]พบบทบาทรองในโทรทัศน์ แต่เขาแบ่งแรกมาในปี 1994 หลังจากที่เขาถูกโยนข้ามแคลร์เดนส์เป็นแคจอร์แดน สนใจความรักของเธอ ในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ทานดี ABC ทีละครเรื่องนี้ My So-Called ชีวิต [7] การแสดงถูกยกย่องสำหรับการวาดภาพของวัยรุ่น และรับลัทธิแข็งแรงต่อไปนี้ แม้ มีการยกเลิกเฉพาะฤดูกาล [17] ปีเดียวกัน เขาได้โทรทัศน์ภาพยนตร์นำแสดงโดยอลิเซียซิลเวอร์สโตนในเย็นและบ้า และที่ดินบทบาทภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาในละคร 1995 วิธีทำผ้านวมเป็นอเมริกัน ต่อมาเขาร่วมแสดงกับคริสติน่าริชชี่ในสุดท้ายของกษัตริย์สูง (1996) และมีบทบาทสนับสนุนในเกตุ (1997) [15]ในปี 1997 เรดเลโทติดดาวในผิด biopic ที่ที่เขาเล่นบทบาทของโอลิมปิกหวังผิดสตีฟ สำหรับการเตรียมของบทบาท เลโตแช่ตัวเองในชีวิตของนักวิ่ง การฝึกอบรมสำหรับหกสัปดาห์ และประชุมกับสมาชิกของครอบครัวและเพื่อนของเขา [18]เบื่อโดดเด่นคล้ายคลึงกับผิดจริง ยัง ใช้เสียงของนักกีฬาและตรงลักษณะการทำงาน [19] บวกของเขาวาดภาพได้รับความคิดเห็นจากนักวิจารณ์ และมักจะถือว่าบทบาทของเขาก้าวหน้า [20] [21] ปีเตอร์สแต็คของพงศาวดารซานฟรานซิสโกสังเกตวิธีเลโตเล่นนักกีฬา มีพลังดิบ "ถูกสะกดจิตตาและผมสีบลอนด์ที่สกปรก เลโตจับสไตล์ร็อคดาวผิดผลกระทบ และเขามองธรรมชาติในการแสดงที่ร้อนแรง ในการติดตาม เช่นเดียว กับ ปิด ที่ก่อนได้รับผลกระทบแบบ brash, confrontational" [22]หลังจากเชื่อมโยงไปถึงบทบาทของผู้นำของอริสโตแครทอังกฤษละคร 1998 โหระพา เรดเลโทติดดาวในตำนานเมืองสยองขวัญ นักวิจารณ์ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ไม่รับฟิล์ม อย่างไรก็ตาม มันเป็นความสำเร็จทางการเงิน [23] [24 ปีเดียวกัน] Terrence Malick โยนเลโตสำหรับสนับสนุนบทบาทในภาพยนตร์สงครามเส้นสีแดงบาง ๆ ควบคู่กับฌอนเพนน์และเอเดรียนโบรดี [25]รวบรวมเป็นอย่างดี และเป็นความสำเร็จระดับปานกลางในสำนักงานกล่อง [26] ได้รับหลายรางวัลและการเสนอชื่อ รวมถึงเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ 7 เลโตเป็นรางวัลดาวเทียมที่ใช้ร่วมกันกับส่วนเหลือของนักแสดง [27] [28]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1992-1998: บทบาทในช่วงต้นของการแสดงและ Prefontaine

Leto ในงานแถลงข่าวเพื่อชีวิตที่เรียกว่าของฉันในปี 1995
ในปี 1992 Leto ย้ายไป Los Angeles จะมีอาชีพในการกำกับตั้งใจที่จะใช้การแสดงบทบาทด้านข้าง [16]. เขาพบว่าบทบาทน้อยในรายการโทรทัศน์ แต่เป็นครั้งแรกของเขามาในปี 1994 หลังจากที่เขาถูกโยนตรงข้าม Claire Danes จอร์แดน Catalano, ความรักความสนใจของเธอในละครวัยรุ่น ABC สั้น แต่ดี-reviewed ชีวิตที่เรียกว่าฉัน. [7 ] การแสดงได้รับการยกย่องสำหรับการวาดภาพของวัยรุ่นและได้รับลัทธิที่แข็งแกร่งต่อไปแม้จะถูกยกเลิกหลังจากเพียงหนึ่งฤดูกาล. [17] ในปีเดียวกันเขาทำภาพยนตร์โทรทัศน์ครั้งแรกของเขาที่นำแสดงโดยควบคู่ไปกับอลิเซียซิลเวอร์สโตนในเวลาเย็นและบ้าและที่ดินบทบาทภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาในละคร 1995 วิธีการสร้าง Quilt อเมริกัน หลังจากนั้นเขาก็ร่วมแสดงกับคริสติน่าริชชี่ในช่วงกษัตริย์สูง (1996) และได้มีบทบาทในการสนับสนุน Switchback (1997). [15]

ในปี 1997 Leto มงคลในชีวประวัติ Prefontaine ที่เขาเล่นบทบาทของความหวังโอลิมปิก สตีฟ Prefontaine สำหรับการเตรียมการของบทบาทที่ Leto หมกมุ่นกับตัวเองในชีวิตของนักวิ่งการฝึกอบรมเป็นเวลาหกสัปดาห์และการประชุมกับสมาชิกของครอบครัวและเพื่อน ๆ ของเขา. [18] เขาคล้ายคลึงกับ Prefontaine จริงนอกจากนี้ยังมีการนำเสียงของนักกีฬาและรูปแบบการทำงานตรง. [19] วาดภาพของเขาได้รับการวิจารณ์ในเชิงบวกจากนักวิจารณ์และมักจะคิดว่าบทบาทการพัฒนาของเขา. [20] [21] ปีเตอร์สแต็คของซานฟรานซิสโครนิเคิตั้งข้อสังเกตว่า Leto เล่นนักกีฬาด้วยพลังดิบ "มีตาสีฟ้าสะกดจิตและผมบลอนด์สกปรก Leto จับร็อคดาว Prefontaine สไตล์ได้รับผลกระทบและเขาดูเป็นธรรมชาติในการแสดงคะนองในการติดตามเช่นเดียวกับปิดที่ก่อนได้รับผลกระทบหน้าด้านสไตล์คาดคั้น." [22]

หลังจากที่ เชื่อมโยงไปถึงบทบาทนำของขุนนางอังกฤษในละครเพราปี 1998 Leto แสดงในหนังสยองขวัญตำนานเมือง ภาพยนตร์เรื่องคุณภาพที่ได้รับจากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ แต่มันก็เป็นความสำเร็จทางการเงิน. [23] [24] ในปีเดียวกัน Terrence Malick โยน Leto สำหรับเป็นตัวประกอบในภาพยนตร์สงครามเส้นบาง ๆ สีแดงควบคู่ไปกับฌอนเพนน์และเอเดรียนโบรดี. [25] มันรวบรวมส่วนใหญ่บวกความคิดเห็นและประสบความสำเร็จในระดับปานกลางในบ็อกซ์ออฟฟิศ. [26] มันได้รับรางวัลหลายรางวัลและการเสนอชื่อรวมถึงเจ็ดเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์; Leto แชร์รางวัลดาวเทียมกับส่วนที่เหลือของการโยนได้. [27] [28]