3.1 Theoretical BackgroundIn compar

3.1 Theoretical Background
In comparative studies for knowledge management frameworks, many researchers suggested three major components for
knowledge management [4, 8, 19, 26 ]. The first component is knowledge management enablers (or influencing factors)
which are defined as organizational mechanisms for intentionally and consistently developing knowledge [22]. The second
component is knowledge management processes (or knowledge management activities) such as creation, sharing, store, and
use. The third component is organizational performance such as market share and profitability [8]. The relationship of these
three components can be interpreted by the input-process-output model that was suggested by Hackman and Morris [16]. The
fundamental assumption underlying this model is that the input factors affect performances through some kind of
interaction process. Based on this model, we can assume that knowledge management enablers affect organizational
performance through knowledge management processes.
In spite of considerable discussion of knowledge management processes and organizational performance, there is no clear
link between them. To establish the relationship between them, we must consider the fourth component for knowledge
management. The fourth component is the intermediate measure such as knowledge worker capability, specific process,
innovation, or organizational creativity [11]. Based on four components, we propose our empirical research model as follow.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง 3.1 ทฤษฎีในการศึกษาเปรียบเทียบกรอบสำหรับการจัดการความรู้นักวิจัยหลายคนแนะนำสามองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการจัดการความรู้
[4, 8, 19, 26] ส่วนแรกคือการรองรับการจัดการความรู้ (หรือปัจจัย)
ซึ่งจะถูกกำหนดเป็นกลไกขององค์กรสำหรับการพัฒนาความรู้อย่างรู้เท่าทันและสม่ำเสมอ [22]
ที่สององค์ประกอบที่เป็นกระบวนการการจัดการความรู้ (หรือกิจกรรมการจัดการความรู้) เช่นการสร้างร่วมกันจัดเก็บและการใช้
องค์ประกอบที่สามคือการปฏิบัติงานขององค์กรเช่นส่วนแบ่งการตลาดและ [8] การทำกำไร ความสัมพันธ์ของทั้งสามองค์ประกอบ
สามารถตีความตามรูปแบบการป้อนข้อมูลขั้นตอนการส่งออกที่ได้รับการแนะนำโดยคนขับรถแท็กซี่และมอร์ริส [16]
สมมติฐานพื้นฐานต้นแบบรุ่นนี้คือปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานการป้อนข้อมูลผ่านชนิดของกระบวนการปฏิสัมพันธ์
บาง ตามรูปแบบนี้เราสามารถสมมติว่ารองรับการจัดการความรู้ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร
ผ่านกระบวนการจัดการความรู้.
ทั้งๆที่มีการอภิปรายของกระบวนการจัดการความรู้และผลงานขององค์กรไม่มีความชัดเจน
การเชื่อมโยงระหว่างพวกเขา เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาเราจะต้องพิจารณาองค์ประกอบที่สี่สำหรับการจัดการความรู้
องค์ประกอบที่สี่คือวัดกลางเช่นความสามารถในการใช้งานความรู้กระบวนการเฉพาะนวัตกรรม
หรือความคิดสร้างสรรค์ขององค์กร [11] ขึ้นอยู่กับสี่องค์ประกอบเรานำเสนอรูปแบบการวิจัยเชิงประจักษ์ของเราดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.1 ทฤษฎีพื้น
ในการศึกษาเปรียบเทียบในกรอบการจัดการความรู้ นักวิจัยมากแนะนำสามส่วนประกอบสำคัญสำหรับ
จัดการความรู้ [4, 8, 19, 26] ส่วนประกอบแรกคือ enablers จัดการความรู้ (หรือปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ)
ซึ่งกำหนดเป็นกลไกขององค์กรอย่างสม่ำเสมอ และตั้งใจพัฒนาความรู้ [22] ที่สอง
ส่วนประกอบคือ กระบวนการจัดการความรู้ (หรือกิจกรรมการจัดการความรู้) การสร้าง ร่วม ร้าน ค้า และ
ใช้ ส่วนประกอบที่สามคือ ประสิทธิภาพองค์กรเช่นส่วนแบ่งตลาดและผลกำไร [8] ความสัมพันธ์เหล่านี้
โพเนนต์สามารถตีความตามรูปแบบอินพุตประมวลผลเอาท์พุตที่แนะนำ โดย Hackman และมอร์ริส [16] ใน
พื้นฐานต้นแบบรุ่นนี้เป็นที่ที่ป้อนปัจจัยมีผลต่อสมรรถนะบางอย่างของ
กระบวนการโต้ตอบ ขึ้นอยู่กับรุ่นนี้ เราสามารถสมมติว่า enablers จัดการความรู้มีผลต่อองค์กร
ประสิทธิภาพผ่านกระบวนการจัดการความรู้.
แม้สนทนามากของกระบวนการจัดการความรู้และประสิทธิภาพองค์กร ไม่ล้างไม่
เชื่อมโยงระหว่าง เพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เราต้องพิจารณาถึงส่วนประกอบ 4 ความรู้
จัดการ ส่วนประกอบสี่คือ วัดกลางเช่นผู้ปฏิบัติงานความรู้ความสามารถ กระบวนการ,
นวัตกรรม หรือความคิดสร้างสรรค์องค์กร [11] เราเสนอตามแบบจำลองของเราวิจัยประจักษ์ตามองค์ประกอบที่ 4

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.1 ในทางทฤษฎีพื้นหลัง
ซึ่งจะช่วยในการศึกษาเชิงเปรียบเทียบสำหรับกรอบการจัดการความรู้นักวิจัยจำนวนมากที่แนะนำสามส่วนประกอบสำคัญสำหรับการจัดการความรู้
[ 4 , 81926 ] คอมโพเนนต์ enablers เป็นครั้งแรกที่มีการบริหารจัดการความรู้(หรือปัจจัยด้าน)
ซึ่งจะกำหนดเป็นกลไกขององค์กรโดยเจตนาสำหรับการพัฒนาความรู้อย่างต่อเนื่องและ[ 22 ]
ตามมาตรฐานที่สองที่คอมโพเนนต์คือกระบวนการจัดการความรู้(หรือด้านการบริหารจัดการความรู้)เช่นการใช้งานร่วมกันการสร้างและจัดเก็บ
การใช้ คอมโพเนนต์ที่สามคือ ประสิทธิภาพ การทำงานขององค์กรเช่นความสามารถในการทำกำไรและส่วนแบ่งการตลาด[ 8 ] ความสัมพันธ์ของ
สามส่วนประกอบเหล่านี้จะได้รับการตีความตามรุ่นของอินพุต - กระบวนการผลิตที่เป็นที่แนะนำโดย hackman และเทศบาลเมืองแอตแลนตา[ 16 ] ที่
ตามมาตรฐานตั้งสมมุติฐานเบื้องต้นพื้นฐานของรุ่นนี้คือปัจจัยอินพุตที่ส่งผลกระทบต่อการแสดงผ่านบางชนิดของกระบวนการ
การโต้ตอบ ซึ่งใช้ในรุ่นนี้เราสามารถสันนิษฐานได้ว่า enablers การจัดการความรู้ส่งผลกระทบต่อองค์กร
ซึ่งจะช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพ โดยผ่านกระบวนการการบริหารจัดการความรู้.
ในแม้จะมีการประชุมพิจารณาของกระบวนการจัดการความรู้และ ประสิทธิภาพ ขององค์กรไม่มีล้าง
เชื่อมโยงระหว่างเขา. ในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างเราจะต้องพิจารณาองค์ประกอบที่สี่ให้ความรู้การบริหารจัดการ
คอมโพเนนต์ที่สี่คือการวัดระดับกลางเช่นความสามารถในงานความรู้กระบวนการเฉพาะ
นวัตกรรมหรือองค์กรเพื่อการสร้างสรรค์[ 11 ] ซึ่งใช้ส่วนประกอบที่เราเสนอรุ่นงานวิจัยในเชิงประจักษ์ของเราและทำตาม