The effects of CFSMIP on both perce

The effects of CFSMIP on both perceived usefulness (H6) and continuance intention (H7) are surprising, as these results contradict with the past literature reviewed. CFSMIP was found to have significant positive effect on perceived usefulness, which is against the hypothesis developed. This suggests that one's privacy concern in mobile social commerce environment increases his or her perceived usefulness on mobile social commerce. Besides, the result also implies that for those users with higher privacy concern, they would perceive mobile social commerce to be more useful, in contrast with those with lower privacy concern. Tan, Qin, Kim, and Hsu (2012), who found that privacy concern moderates the effect of perceived usefulness on behaviour intention to use social networking sites has provided some relevant insights to this result. They discovered that the effect of perceived usefulness on behavior intention is stronger for the group with higher privacy concern, and they explained that the decision for this group to use social networking sites is mainly depending on perceived usefulness, so as to justify the potential loss of privacy. In addition, CFSMIP was also found to have no significant influence over continuance intention to use mobile social commerce, which is again against with the past studies reviewed. However, this result conforms to the study done by Tan et al. (2012) and Zhou (2012). Tan et al. (2012) reasoned that this result might explain why SNS users are still continuing their usage, even after some reports and incidents of privacy violations have been exposed. All the evidences indicate that social media users nowadays are inseparable from social media use, and this study has made extra confirmation to this phenomenon. Concisely, as social media has blended into our daily living, CFSMIP is unable to stop users from using mobile social commerce. In spite of potential privacy loss, users with higher privacy concern tend to value perceived usefulness higher, with the purpose of justifying their continued usage. Moreover, this also explains the partial mediating effect of perceived usefulness in the linkage between CFSMIP and continuance intention.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลกระทบของ CFSMIP รับรู้ประโยชน์ (H6) และความต่อเนื่องความตั้งใจ (H7) เป็นน่าแปลกใจ ผลลัพธ์เหล่านี้ขัดแย้งกับเอกสารประกอบการผ่านการตรวจสอบ CFSMIP ถูกพบว่ามีผลบวกรับรู้ประโยชน์ ซึ่งขัดกับสมมติฐานที่ได้รับการพัฒนา นี้แสดงให้เห็นว่า หนึ่งส่วนร่วมในสภาพแวดล้อมพาณิชย์สังคมมือถือเพิ่มของเขา หรือเธอมองเห็นประโยชน์จากพาณิชย์สังคมมือถือ ผลยังหมายถึงที่สำหรับผู้ใช้มีส่วนร่วมสูงขึ้น พวกเขาจะสังเกตมือถือสังคมพาณิชย์จะมีประโยชน์ สีที่มีส่วนร่วมต่ำกว่า ตาล ฉิน คิม Hsu (2012), ที่พบว่า ส่วนร่วม moderates ผลของประโยชน์ที่รับรู้ในพฤติกรรมความตั้งใจที่จะใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ และมีข้อมูลเชิงลึกบางอย่างที่เกี่ยวข้องเพื่อผล พวกเขาค้นพบว่า ผลของการรับรู้ประโยชน์ในลักษณะการทำงานความตั้งใจ และแข็งแรงกว่าสำหรับกลุ่มที่มีส่วนร่วมสูงขึ้น พวกเขาอธิบายว่า การตัดสินใจสำหรับกลุ่มนี้จะใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับประโยชน์ที่มองเห็น เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสูญเสียศักยภาพของความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ CFSMIP พบว่ามีอิทธิพลต่อความตั้งใจต่อเนื่องการใช้พาณิชย์สังคมมือถือ ซึ่งเป็นอีกครั้งกับกับการศึกษาที่ผ่านมาทานไม่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ผลสอดคล้องกับการศึกษาทำ โดย Tan et al. (2012) และโจว (2012) Tan et al. (2012) จึงให้เหตุผลว่า ผลนี้อาจอธิบายทำไมผู้ใช้ SNS จะยังคงต่อเนื่องการใช้งานของพวกเขา แม้หลังจากที่รายงานและปัญหาด้านการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลบางอย่างได้รับการสัมผัส หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่า ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในปัจจุบันจะแยกออกจากการใช้สื่อสังคม และการศึกษานี้ได้ทำเพิ่มเติมยืนยันปรากฏการณ์นี้ เร้น ตามที่มีผสมสื่อสังคมเป็นชีวิตประจำวันของเรา CFSMIP ไม่สามารถหยุดผู้ใช้จากการใช้มือถือสังคมพาณิชย์ แม้สูญเสียศักยภาพในความเป็นส่วนตัว ผู้ใช้ที่ มีส่วนร่วมสูงมักให้ คุณค่าการรับรู้ประโยชน์สูง ประสงค์ justifying การใช้งานอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ นี้ยังอธิบายผล mediating บางส่วนของการรับรู้ประโยชน์ในการเชื่อมโยงระหว่างความตั้งใจ CFSMIP และต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของการ CFSMIP ทั้งรับรู้ถึงประโยชน์ (H6) และความตั้งใจต่อเนื่อง (H7) เป็นที่น่าแปลกใจเป็นผลเหล่านี้ขัดแย้งกับวรรณกรรมที่ผ่านมาการตรวจสอบ CFSMIP ก็พบว่ามีผลในเชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญในการรับรู้ถึงประโยชน์ซึ่งเป็นกับสมมติฐานที่ได้รับการพัฒนา นี้แสดงให้เห็นว่าความกังวลความเป็นส่วนตัวของคนในสภาพแวดล้อมสังคมการค้ามือถือเพิ่มขึ้นรับรู้ถึงประโยชน์ของเขาหรือเธอในการค้าทางสังคมมือถือ นอกจากนี้ผลที่ได้ก็หมายความว่าสำหรับผู้ใช้เหล่านั้นด้วยความห่วงใยความเป็นส่วนตัวสูงขึ้นพวกเขาจะรับรู้การค้าทางสังคมมือถือที่จะเป็นประโยชน์มากขึ้นในทางตรงกันข้ามกับผู้ที่มีความกังวลความเป็นส่วนตัวลดลง ตาลฉินคิมและฮ (2012) ที่พบว่ามีความกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวกลางผลกระทบของการรับรู้ถึงประโยชน์บนความตั้งใจที่พฤติกรรมการใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมที่มีการให้ข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องบางอย่างเพื่อผลนี้ พวกเขาค้นพบว่าผลของการรับรู้ถึงประโยชน์บนความตั้งใจพฤติกรรมที่แข็งแกร่งสำหรับกลุ่มที่มีความกังวลความเป็นส่วนตัวสูงและพวกเขาอธิบายว่าการตัดสินใจสำหรับกลุ่มนี้จะใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการรับรู้ถึงประโยชน์เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจาก ความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ CFSMIP ยังพบว่ามีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าความตั้งใจที่จะใช้ต่อเนื่องพาณิชย์สังคมมือถือซึ่งเป็นอีกครั้งกับกับการศึกษาที่ผ่านมาการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามผลนี้สอดคล้องกับการศึกษาที่ทำโดย Tan et al, (2012) และโจว (2012) Tan et al, (2012) ให้เหตุผลว่าผลนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไม SNS ผู้ใช้จะยังคงดำเนินการต่อการใช้งานของพวกเขาแม้หลังจากที่มีรายงานบางอย่างและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นของการละเมิดความเป็นส่วนตัวได้รับการสัมผัส หลักฐานทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สื่อสังคมในปัจจุบันจะแยกออกจากการใช้สื่อสังคมและการศึกษาครั้งนี้ได้ทำหนังสือยืนยันการพิเศษเพื่อปรากฏการณ์นี้ รัดกุมเป็นสื่อสังคมได้ผสมลงในชีวิตประจำวันของเรา CFSMIP ไม่สามารถที่จะหยุดผู้ใช้จากการใช้โทรศัพท์มือถือพาณิชย์สังคม ทั้งๆที่มีการสูญเสียความเป็นส่วนตัวผู้ใช้ที่มีความกังวลความเป็นส่วนตัวสูงมีแนวโน้มที่จะรับรู้คุณค่าประโยชน์ที่สูงขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งานอย่างต่อเนื่องเหตุผลของพวกเขา นอกจากนี้ยังได้อธิบายถึงผลกระทบของการไกล่เกลี่ยบางส่วนรับรู้ถึงประโยชน์ในการเชื่อมโยงระหว่าง CFSMIP และความตั้งใจต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของ cfsmip ทั้งการรับรู้ประโยชน์ ( H6 ) และความตั้งใจความต่อเนื่อง ( H7 ) เป็นที่น่าแปลกใจที่ผลลัพธ์เหล่านี้ขัดแย้งกับอดีตทบทวนวรรณกรรม . cfsmip พบผลเป็นบวกที่สำคัญในการรับรู้ประโยชน์ ซึ่งขัดกับสมมติฐานการพัฒนา นี้แสดงให้เห็นว่ามีความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวในสภาพแวดล้อมสังคมพาณิชย์มือถือเพิ่ม ของเขาหรือเธอ การรับรู้ประโยชน์ในสังคมพาณิชย์มือถือ นอกจากนี้ ผลการวิจัยยังพบว่า สำหรับผู้ใช้ที่เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวสูง พวกเขาจะรับรู้สังคมพาณิชย์มือถือมีประโยชน์มากขึ้นในทางตรงกันข้ามกับผู้ที่มีลดความกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว ตัน ฉิน คิม และ ซู ( 2012 ) ที่พบว่าปัญหาส่วนตัวสบายๆ ผลของการรับรู้ประโยชน์ในความตั้งใจพฤติกรรมการใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมได้ให้ข้อมูลเชิงลึกบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับผลนี้ พวกเขาพบว่าผลของการรับรู้ประโยชน์ต่อความตั้งใจที่จะมีพฤติกรรมที่แข็งแกร่งสำหรับกลุ่มที่มีความกังวลส่วนบุคคลที่สูงขึ้นและพวกเขาอธิบายว่า การตัดสินใจของกลุ่มนี้เพื่อใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคมเป็นหลักขึ้นอยู่กับการรับรู้ประโยชน์ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นถึงการสูญเสียศักยภาพของความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ ยังพบว่ามี cfsmip ไม่พบอิทธิพลเหนือความตั้งใจระยะเวลาที่จะใช้สังคมพาณิชย์มือถือ ซึ่งเป็นอีกครั้งที่ต่อต้านกับอดีตศึกษาทบทวน อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้นี้สอดคล้องกับการศึกษาทำโดย Tan et al . ( 2012 ) และ โจว ( 2012 ) ตาล et al . ( 2012 ) ให้เหตุผลว่าผลนี้อาจอธิบายได้ว่าทำไมผู้ใช้ SNS ยังใช้ของพวกเขาแม้หลังจากที่ข่าวและเหตุการณ์ของการละเมิดความเป็นส่วนตัวได้ถูกเปิดเผย หลักฐานทั้งหมดบ่งชี้ว่า ผู้ใช้สื่อสังคมทุกวันนี้จะแยกออกจากการใช้สื่อสังคมและการศึกษานี้ได้ยืนยันเพิ่มเติมกับปรากฏการณ์นี้ สั้นๆ สื่อทางสังคมได้ผสมลงในชีวิตประจำวันของเรา cfsmip ไม่สามารถที่จะหยุดผู้ใช้จากการใช้สังคมพาณิชย์มือถือ แม้ว่าการสูญเสียความเป็นส่วนตัวที่อาจเกิดขึ้น ผู้ใช้มีความกังวลความเป็นส่วนตัวสูงมักจะสูงกว่ามูลค่าการรับรู้ประโยชน์ กับวัตถุประสงค์ของการอธิบายการใช้งานต่อเนื่องของพวกเขา นอกจาก นี้ยังได้อธิบายถึงผลของการรับรู้ประโยชน์ในการเป็นตัวกลางเชื่อมระหว่าง cfsmip และความตั้งใจต่อไป .