The Moon does not completely disapp

The Moon does not completely disappear as it passes through the umbra because of the refraction of sunlight by the Earth’s atmosphere into the shadow cone; if the Earth had no atmosphere, the Moon would be completely dark during an eclipse.[5] The red coloring arises because sunlight reaching the Moon must pass through a long and dense layer of the Earth’s atmosphere, where it is scattered. Shorter wavelengths are more likely to be scattered by the air molecules and the small particles, and so by the time the light has passed through the atmosphere, the longer wavelengths dominate. This resulting light we perceive as red. This is the same effect that causes sunsets and sunrises to turn the sky a reddish color; an alternative way of considering the problem is to realize that, as viewed from the Moon, the Sun would appear to be setting (or rising) behind the Earth.

The amount of refracted light depends on the amount of dust or clouds in the atmosphere; this also controls how much light is scattered. In general, the dustier the atmosphere, the more that other wavelengths of light will be removed (compared to red light), leaving the resulting light a deeper red color. This causes the resulting coppery-red hue of the Moon to vary from one eclipse to the next. Volcanoes are notable for expelling large quantities of dust into the atmosphere, and a large eruption shortly before an eclipse can have a large effect on the resulting color.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดวงจันทร์ไม่สมบูรณ์หายไปผ่านชิฟเฟรมเนื่องจากการหักเหของแสงแดด ด้วยบรรยากาศของโลกลงในกรวยเงา ถ้าโลกมีบรรยากาศไม่ ดวงจันทร์จะมืดอย่างสมบูรณ์ระหว่างคราส[5] สีแดงที่เกิดขึ้นเนื่องจากแสงแดดถึงดวงจันทร์ต้องผ่านชั้นยาว และหนาแน่นของบรรยากาศของโลก ที่กระจัดกระจาย ความยาวคลื่นที่สั้นมักจะกระจายอยู่ตามโมเลกุลของอากาศและอนุภาคขนาดเล็ก และดังนั้นการแสงผ่านผ่านบรรยากาศ ความยาวคลื่นยาวขึ้นครอง แสงได้นี้เจ้าเป็นสีแดง นี้เป็นผลดีที่ทำให้พระอาทิตย์ตกและอาทิตย์เปิดฟ้าสีน้ำตาล ทางเลือกที่พิจารณาปัญหาจะรู้ว่า ตามดูจากดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์จะปรากฏค่า (หรือขึ้น) อยู่เบื้องหลังโลกจำนวนไฟ refracted ขึ้นอยู่กับจำนวนของฝุ่นหรือก้อนเมฆในบรรยากาศ นี้ยังควบคุมปริมาณแสงจะกระจาย ทั่วไป ที่ dustier บรรยากาศ การเพิ่มเติมอื่น ๆ ที่ความยาวคลื่นของแสงจะถูก (เมื่อเทียบกับแสงสีแดง) ออกจากเกิดแสงสีแดงลึก ทำให้เว้ coppery แดงผลของดวงจันทร์ที่แตกต่างไปจากคราสหนึ่งไป ภูเขาบรรยากาศเพิ่มจำนวนมากของฝุ่นละอองในชั้นบรรยากาศ และปะทุใหญ่เร็ว ๆ ก่อนคราสสามารถมีผลขนาดใหญ่สีผลลัพธ์ที่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดวงจันทร์ไม่ได้หายไปเมื่อมันผ่านเงามืดเพราะการหักเหของแสง โดยชั้นบรรยากาศโลกในเงากรวย ถ้าโลกไม่มีชั้นบรรยากาศดวงจันทร์จะมืดไปหมดระหว่างจันทรคราส . [ 5 ] สีแดงสีเกิดขึ้นเพราะแสงแดดถึงดวงจันทร์ต้องผ่านยาวและหนา ชั้นของบรรยากาศโลก ซึ่งจะกระจายความยาวคลื่นที่สั้นกว่ามีแนวโน้มที่จะกระจายไปตามอากาศ โมเลกุล และอนุภาคขนาดเล็กและดังนั้นเมื่อแสงได้ผ่านบรรยากาศ ความยาวคลื่นยาวครอบงํา ผลแสงที่เรารับรู้สีแดงเป็น นี่คือผลเช่นเดียวกันว่าสาเหตุที่พระอาทิตย์ขึ้นและตก เปลี่ยนท้องฟ้าสีแดง ; ทางเลือกของการพิจารณาปัญหา ก็คือ การตระหนักว่าเมื่อมองจากดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์จะปรากฏที่จะตั้งค่า ( หรือเพิ่มขึ้น ) หลังโลก

ปริมาณของแสงที่หักเหขึ้นอยู่กับปริมาณของฝุ่นหรือเมฆในบรรยากาศ ; นี้ยังควบคุมเท่าใดแสงจะกระจาย โดยทั่วไป dustier บรรยากาศ เพิ่มเติมที่ความยาวคลื่นของแสงจะถูกเอาออก ( เทียบกับแสงแดง ) ออกจากที่เกิดแสงลึกสีแดงนี่เป็นสาเหตุที่เป็นผลที่มีสีทองแดงแดงสีสันของดวงจันทร์ที่จะแตกต่างไปจากคราสให้ต่อไป ภูเขาไฟเด่นเพื่อขับไล่ขนาดใหญ่ปริมาณของฝุ่นละอองในบรรยากาศ และปะทุใหญ่ไม่นานก่อนที่จันทรคราสจะได้ผลใหญ่ ผลสี