การคิดวิพากษ์ หมายถึง ความสามารถในก

การคิดวิพากษ์ หมายถึง ความสามารถในการพิจารณา ประเมินและตัดสินสิ่งต่างๆหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่มีข้อสงสัยหรือ ข้อโต้แย้ง โดย การพยายามแสวงหาคำตอบที่มีความสมเหตุสมผล โดยการคิดวิพากษ์นั้นจะเกิดขึ้น เมื่อมีการเผชิญสถานการณ์แปลกๆ ที่ไม่คาดหวัง การพบปัญหาที่ยากๆ เกิดความสงสัยหรือเกิดข้อโต้แย้ง ในเหตุผลหรือข้ออ้างนั้น การที่ต้องการตรวจสอบ และสืบค้นความจริง

ทฤษฎีด้านการคิดเชิงวิพากษ์มีพื้นฐานมาจากผลงานของ เบนจามิน บลูม (Benjamin Bloom) ในปี 1956 ที่ได้จัดหมวดหมู่พฤติกรรม การเรียนรู้ด้านสติปัญญา โดยพัฒนาวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ให้ชัดเจน และให้ครูทดลองปฏิบัติในการสอนเป็นเวลาสองทศวรรษ แนวความคิดของเขาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง และใช้สอนในโปรแกรมการฝึกหัดครูทั่วสหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบัน ในประเทศอื่นรวมทั้งประเทศไทยก็นำแนวคิดของบลูม มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเช่นเดียวกัน
บลูม ได้แบ่งพฤติกรรมการเรียนรู้ ออกเป็น 6 ประเภท จากระดับแรกที่เรียกว่า ความรู้ จนถึงระดับของการประเมิน แต่ละประเภท เกี่ยวกับ การวิเคราะห์และประเมินข้อมูลที่ซับซ้อน ที่ใช้ความสามารถทางสติปัญญาในระดับสูง และเพื่อให้สอดคล้องกับ พฤติกรรมการเรียนรู้ดังกล่าว บลูมได้แบ่งวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมเป็น 6 ประเภท ดังต่อไปนี้

วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมของบลูม

ความรู้ (Knowledge) – เน้นการจำและการอ้างอิงข้อมูล คำกริยาเชิงพฤติกรรมที่ใช้ เช่น ระบุ บอกรายการ บอกชื่อ ตั้งชื่อ ให้คำจำกัดความ บอกแหล่งที่ตั้ง จับคู่ จำได้ และทำใหม่ความเข้าใจ (Comprehension) – เน้นการเชื่อมโยงและจัดการข้อมูลที่ได้เรียนมา คำกริยาที่ใช้ เช่น อธิบาย เชื่อมโยง กำหนดหลักเกณฑ์ สรุป พูดใหม่ เรียงข้อความใหม่ สาธิตการประยุกต์ใช้ (Application) – เน้นการใช้ข้อมูล โดยการนำเอากฎหรือหลักการมาประยุกต์ใช้ คำกริยาที่เกี่ยวข้องเช่น แก้ปัญหา เลือก ตีความ ทำ สร้าง เอามาไว้ด้วยกัน เปลี่ยน ใช้ ผลิต แปลวิเคราะห์ (Analysis) – เป็นการคิดเชิงวิเคราะห์ส่วนประกอบและหน้าที่ของสิ่งต่างๆ คำกริยาที่ใช้ เช่น วิเคราะห์ เปรียบเทียบ จัดประเภท แยกส่วนประกอบ หาข้อแตกต่าง สำรวจ แบ่งเป็นส่วยย่อย แยกแยะ หาข้อขัดแย้งสังเคราะห์ (Synthesis) – เน้นการคิดในการนำเอาส่วนประกอบปลีกย่อยหรือรายละเอียดมารวมกันสร้างสิ่งใหม่ คำกริยาที่เกี่ยวข้อง เช่น ประดิษฐ์ สร้าง(Create) รวมกัน ตั้งสมมุติฐาน วางแผน ริเริ่ม เพิ่มเติม จิตนาการ ทำนายการประเมิน (Evaluation) – เน้นการประเมินและการตัดสินโดยใช้ข้อมูลเป็นฐาน คำกริยาที่ใช้ เช่นประเมิน(Assess) แนะนำว่าดี (Recommend) วิพากษ์วิจารณ์ หาข้อดีและข้อเสีย ให้น้ำหนัก และตัดสินคุณค่า

Read more: http://www.novabizz.com/NovaAce/Intelligence/Critical_Thinking.htm#ixzz3uq8RCXNe

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การคิดวิพากษ์หมายถึงความสามารถในการพิจารณาประเมินและตัดสินสิ่งต่างๆหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่มีข้อสงสัยหรือข้อโต้แย้งโดยการพยายามแสวงหาคำตอบที่มีความสมเหตุสมผลโดยการคิดวิพากษ์นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเผชิญสถานการณ์แปลก ๆ ที่ไม่คาดหวังการพบปัญหาที่ยาก ๆ เกิดความสงสัยหรือเกิดข้อโต้แย้งในเหตุผลหรือข้ออ้างนั้นการที่ต้องการตรวจสอบและสืบค้นความจริงทฤษฎีด้านการคิดเชิงวิพากษ์มีพื้นฐานมาจากผลงานของเบนจามินบลูม (เบนจามินบลูม) ปี 1956 ในปีที่ได้จัดหมวดหมู่พฤติกรรมการเรียนรู้ด้านสติปัญญาโดยพัฒนาวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ให้ชัดเจนและให้ครูทดลองปฏิบัติในการสอนเป็นเวลาสองทศวรรษแนวความคิดของเขาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและใช้สอนในโปรแกรมการฝึกหัดครูทั่วสหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบันในประเทศอื่นรวมทั้งประเทศไทยก็นำแนวคิดของบลูมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเช่นเดียวกันบลูมได้แบ่งพฤติกรรมการเรียนรู้ออกเป็น 6 ประเภทจากระดับแรกที่เรียกว่าความรู้จนถึงระดับของการประเมินแต่ละประเภทเกี่ยวกับการวิเคราะห์และประเมินข้อมูลที่ซับซ้อนที่ใช้ความสามารถทางสติปัญญาในระดับสูงและเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวบลูมได้แบ่งวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมเป็น 6 ประเภทดังต่อไปนี้วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมของบลูมความรู้ (ความรู้) – เน้นการจำและการอ้างอิงข้อมูลคำกริยาเชิงพฤติกรรมที่ใช้เช่นระบุบอกรายการบอกชื่อตั้งชื่อให้คำจำกัดความบอกแหล่งที่ตั้งจับคู่จำได้และทำใหม่ความเข้าใจ (ความเข้าใจ) –เน้นการเชื่อมโยงและจัดการข้อมูลที่ได้เรียนมาคำกริยาที่ใช้เช่นอธิบายเชื่อมโยงกำหนดหลักเกณฑ์สรุปพูดใหม่เรียงข้อความใหม่สาธิตการประยุกต์ใช้ (โปรแกรมประยุกต์) – เน้นการใช้ข้อมูลโดยการนำเอากฎหรือหลักการมาประยุกต์ใช้คำกริยาที่เกี่ยวข้องเช่นแก้ปัญหาคลุมตีความก่อสร้างเอามาไว้ด้วยกันเปลี่ยนใช้ผลิตแปลวิเคราะห์ (Analysis) เน้นการคิดในการนำเอาส่วนประกอบปลีกย่อยหรือรายละเอียดมา – เป็นการคิดเชิงวิเคราะห์ส่วนประกอบและหน้าที่ของสิ่งต่าง ๆ คำกริยาที่ใช้เช่นวิเคราะห์เปรียบเทียบจัดประเภทแยกส่วนประกอบหาข้อแตกต่างสำรวจแบ่งเป็นส่วยย่อยแยกแยะหาข้อขัดแย้งสังเคราะห์ (สังเคราะห์) -รวมกันสร้างสิ่งใหม่คำกริยาที่เกี่ยวข้องเช่นประดิษฐ์ สร้าง(Create) รวมกันตั้งสมมุติฐานวางแผนริเริ่มเพิ่มเติมจิตนาการทำนายการประเมิน (ประเมิน) – เน้นการประเมินและการตัดสินโดยใช้ข้อมูลเป็นฐานคำกริยาที่ใช้ เช่นประเมิน(Assess) แนะนำว่าดี (แนะนำ) วิพากษ์วิจารณ์หาข้อดีและข้อเสียให้น้ำหนักและตัดสินคุณค่าอ่านเพิ่มเติม: http://www.novabizz.com/NovaAce/Intelligence/Critical_Thinking.htm#ixzz3uq8RCXNe

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การคิดวิพากษ์หมายถึงความสามารถในการพิจารณา ที่มีข้อสงสัยหรือข้อโต้แย้งโดย โดยการคิดวิพากษ์นั้นจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเผชิญสถานการณ์แปลก ๆ ที่ไม่คาดหวังการพบปัญหาที่ยาก ๆ เกิดความสงสัยหรือเกิดข้อโต้แย้งในเหตุผลหรือข้ออ้างนั้นการที่ต้องการตรวจสอบ เบนจามินบลูม (เบนจามินบลูม) ในปี 1956 ที่ได้จัดหมวดหมู่พฤติกรรมการเรียนรู้ด้านสติปัญญา ได้แบ่งพฤติกรรมการเรียนรู้ออกเป็น 6 ประเภทจากระดับแรกที่เรียกว่าความรู้จนถึงระดับของการประเมินแต่ละประเภทเกี่ยวกับ และเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรียนรู้ดังกล่าว 6 ประเภท (ความรู้) - เน้นการจำและการอ้างอิงข้อมูลคำกริยาเชิงพฤติกรรมที่ใช้เช่นระบุบอกรายการบอกชื่อตั้งชื่อให้คำจำกัดความบอกแหล่งที่ตั้งจับคู่จำได้และทำใหม่ความเข้าใจ (เข้าใจ) - คำกริยาที่ใช้เช่นอธิบายเชื่อมโยงกำหนดหลักเกณฑ์สรุปพูดใหม่เรียงข้อความใหม่สาธิตการประยุกต์ใช้ (Application) - เน้นการใช้ข้อมูล คำกริยาที่เกี่ยวข้องเช่นแก้ปัญหาเลือกตีความทำสร้างเอามาไว้ด้วยกันเปลี่ยนใช้ผลิตแปลวิเคราะห์ (Analysis) - คำกริยาที่ใช้เช่นวิเคราะห์เปรียบเทียบจัดประเภทแยกส่วนประกอบหาข้อแตกต่างสำรวจแบ่งเป็นส่วยย่อยแยกแยะหาข้อขัดแย้งสังเคราะห์ (Synthesis) - คำกริยาที่เกี่ยวข้องเช่นประดิษฐ์สร้าง (สร้าง) รวมกันตั้งสมมุติฐานวางแผนริเริ่มเพิ่มเติมจิตนาการทำนายการประเมิน (Evaluation) - คำกริยาที่ใช้เช่นประเมิน (ประเมิน) แนะนำว่าดี (แนะนำ) วิพากษ์วิจารณ์หาข้อดีและข้อเสียให้น้ำหนักและตัดสินคุณค่าอ่านเพิ่มเติม: http://www.novabizz.com/NovaAce/Intelligence/Critical_Thinking.htm#ixzz3uq8RCXNe

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การคิดวิพากษ์ หมายถึงความสามารถในการพิจารณาประเมินและตัดสินสิ่งต่างๆหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่มีข้อสงสัยหรือข้อโต้แย้งโดยการพยายามแสวงหาคำตอบที่มีความสมเหตุสมผลโดยการคิดวิพากษ์นั้นจะเกิดขึ้นที่ไม่คาดหวังการพบปัญหาที่ยากๆเกิดความสงสัยหรือเกิดข้อโต้แย้งในเหตุผลหรือข้ออ้างนั้นการที่ต้องการตรวจสอบและสืบค้นความจริง

ทฤษฎีด้านการคิดเชิงวิพากษ์มีพื้นฐานมาจากผลงานของเบนจามินบลูม ( เบนจามิน บลูม ) สามารถที่ได้จัดหมวดหมู่พฤติกรรมการเรียนรู้ด้านสติปัญญาโดยพัฒนาวัตถุประสงค์ของการเรียนรู้ให้ชัดเจน 1956แนวความคิดของเขาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางและใช้สอนในโปรแกรมการฝึกหัดครูทั่วสหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบันในประเทศอื่นรวมทั้งประเทศไทยก็นำแนวคิดของบลูมมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนเช่นเดียวกัน
บลูมได้แบ่งพฤติกรรมการเรียนรู้ออกเป็น 6 ประเภทจากระดับแรกที่เรียกว่าความรู้จนถึงระดับของการประเมินแต่ละประเภทเกี่ยวกับการวิเคราะห์และประเมินข้อมูลที่ซับซ้อนที่ใช้ความสามารถทางสติปัญญาในระดับสูงพฤติกรรมการเรียนรู้ดังกล่าวบลูมได้แบ่งวัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมเป็นประเภทดังต่อไปนี้
6


วัตถุประสงค์เชิงพฤติกรรมของบลูมความรู้ ( ความรู้ )  –เน้นการจำและการอ้างอิงข้อมูลคำกริยาเชิงพฤติกรรมที่ใช้เช่นระบุบอกรายการบอกชื่อตั้งชื่อให้คำจำกัดความบอกแหล่งที่ตั้งจับคู่จำได้และทำใหม่ความเข้าใจ ( ความเข้าใจ )  –คำกริยาที่ใช้เช่นอธิบายเชื่อมโยงกำหนดหลักเกณฑ์สรุปพูดใหม่เรียงข้อความใหม่สาธิตการประยุกต์ใช้ ( โปรแกรม )  –เน้นการใช้ข้อมูลโดยการนำเอากฎหรือหลักการมาประยุกต์ใช้คำกริยาที่เกี่ยวข้องเช่นแก้ปัญหาเลือกทำสร้างเอามาไว้ด้วยกันเปลี่ยนใช้ผลิตแปลวิเคราะห์ ( การวิเคราะห์ )  –เป็นการคิดเชิงวิเคราะห์ส่วนประกอบและหน้าที่ของสิ่งต่างๆคำกริยาที่ใช้เช่นวิเคราะห์เปรียบเทียบจัดประเภทแยกส่วนประกอบหาข้อแตกต่างสำรวจแยกแยะหาข้อขัดแย้งสังเคราะห์ ( สังเคราะห์ )  –เน้นการคิดในการนำเอาส่วนประกอบปลีกย่อยหรือรายละเอียดมารวมกันสร้างสิ่งใหม่คำกริยาที่เกี่ยวข้องเช่นประดิษฐ์สร้าง ( สร้าง ) รวมกันตั้งสมมุติฐานวางแผนริเริ่มเพิ่มเติมทำนายการประเมิน ( ประเมินผล )  –เน้นการประเมินและการตัดสินโดยใช้ข้อมูลเป็นฐานคำกริยาที่ใช้เช่นประเมิน ( ประเมิน ) แนะนำว่าดี ( แนะนำ ) วิพากษ์วิจารณ์หาข้อดีและข้อเสียให้น้ำหนักและตัดสินคุณค่า

อ่านเพิ่มเติม : ทำไม http : / / www.novabizz . com / novaace / ปัญญา / critical_thinking . htm # ixzz3uq8rcxne