Previous research on the origins of

Previous research on the origins of double star astronomy in the early nineteenth century emphasized the role mathematical methods and instrumentation played in motivating early observations of these objects. The work of the British astronomer John Herschel, however, shows that questions regarding the physical nature of double stars were also important. In particular, an analysis of John Herschel’s early work on double stars illustrates the way in which speculations regarding these objects were shaped by assumptions of the properties of stars themselves. For Herschel, a major consideration in double star astronomy was distinguishing between types of double stars. Optical doubles were useful in determining parallax while binary doubles were not. In practice, classification of a specific double star pair into one of these categories was based on the assumption that stars were of approximately the same luminosity and thus differences in relative brightness between stars were caused by difference in distances. Such assumptions, though ultimately abandoned, would lead Herschel in the 1830s to advance the possibility that the dim companion stars in certain double star pairs were not stars at all but in fact planets.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลงานวิจัยเกี่ยวกับต้นกำเนิดของดาวคู่ดาราศาสตร์ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 เน้นบทบาทวิธีการทางคณิตศาสตร์และเครื่องมือวัดเล่นสังเกตต้นสร้างแรงจูงใจของวัตถุเหล่านี้ การทำงานของนักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษจอห์นเฮอร์เชล แสดงอย่างไรก็ตาม คำถามเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของดาวคู่ก็สำคัญ โดยเฉพาะ การวิเคราะห์งานก่อนจอห์นเฮอร์เชลดาวคู่แสดงวิธีการ speculations เกี่ยวกับวัตถุเหล่านี้มีรูป โดยสมมติฐานของคุณสมบัติของดาว สำหรับเฮอร์เชล พิจารณาหลักดาราศาสตร์ดาวคู่ถูกแยกระหว่างชนิดของคู่ดาว คู่ผสมแสงมีประโยชน์ในการกำหนด parallax ในขณะที่คู่ผสมไบนารีไม่ได้ ในทางปฏิบัติ ประเภทคู่เฉพาะคู่ดาวเป็นหนึ่งในประเภทเหล่านี้ขึ้นอยู่กับสมมติฐาน ที่ดาวของประมาณความสว่างเดียวกันจึง เกิดความแตกต่างในความสว่างสัมพัทธ์ระหว่างดาวจากความแตกต่างในระยะทาง สมมติฐานดังกล่าว แต่ ในที่สุดทิ้ง จะนำไปเฮอร์เชลในยุค 1830 เพื่อความก้าวหน้าความเป็นไปได้ว่า ดาวสหายติ่มซำในดาวคู่บางคู่ก็ไม่ดาวทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงดาวเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิจัยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของดาวดาราศาสตร์สองครั้งในช่วงต้นศตวรรษที่สิบเก้าเน้นบทบาทวิธีการทางคณิตศาสตร์และเครื่องมือการสร้างแรงจูงใจในการเล่นการสังเกตในช่วงต้นของวัตถุเหล่านี้ การทำงานของนักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษจอห์นเฮอร์เชล แต่แสดงให้เห็นว่าคำถามเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของดาวคู่ก็มีความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการวิเคราะห์การทำงานในช่วงต้น John Herschel บนดาวคู่แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่เกี่ยวกับการคาดเดาวัตถุเหล่านี้มีรูปร่างโดยสมมติฐานของคุณสมบัติของดาวตัวเอง สำหรับเฮอร์เชลการพิจารณาที่สำคัญในดาราศาสตร์ดาวคู่ได้รับการแยกความแตกต่างระหว่างประเภทของดาวคู่ คู่ผสม Optical เป็นประโยชน์ในการกำหนด Parallax ขณะที่คู่ผสมไบนารีไม่ได้ ในทางปฏิบัติการจำแนกประเภทของคู่ดาวเฉพาะคู่เป็นหนึ่งในประเภทเหล่านี้มีพื้นฐานอยู่บนสมมติฐานที่ว่าดาวเป็นของประมาณส่องสว่างเหมือนกันและแตกต่างในความสว่างความสัมพันธ์ระหว่างดาวจึงเกิดจากความแตกต่างในระยะทางที่ไกล สมมติฐานดังกล่าว แต่ถูกทิ้งร้างในที่สุดจะนำไปสู่​​เฮอร์เชลในยุค 1830 จะก้าวไปสู่​​ความเป็นไปได้ว่าดาวสหายสลัวในบางคู่ดาวคู่ไม่ได้ดาวที่ทุกคน แต่ในความเป็นจริงดาวเคราะห์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับต้นกำเนิดของดาราศาสตร์ดาวคู่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เน้นบทบาททางคณิตศาสตร์วิธีการและเครื่องมือเล่นใน motivating ก่อนการสังเกตของวัตถุเหล่านี้ การทำงานของนักดาราศาสตร์ชาวอังกฤษจอห์น เฮอร์เชล อย่างไรก็ตาม แสดงว่า คำถามเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพของดาวคู่ยังสำคัญ โดยเฉพาะการวิเคราะห์ของจอห์น เฮอร์เชลก่อนทำงานบนดาวคู่แสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ speculations เกี่ยวกับวัตถุเหล่านี้มีรูปร่างตามสมมติฐานของ คุณสมบัติของดาวเอง สำหรับ เฮอร์เชล ปัจจัยทางดาราศาสตร์ดาวคู่คือความแตกต่างระหว่างประเภทของดาวซ้อน แสงจะเป็นประโยชน์ในการกําหนด parallax ในขณะที่คู่ไบนารีได้ ในการปฏิบัติการของคู่ดาวคู่ที่เฉพาะเจาะจงเป็นหนึ่งในประเภทเหล่านี้ตั้งอยู่บนสมมุติฐานว่า ดาวประมาณเดียวกันความสว่างและทำให้ความแตกต่างในความสว่างสัมพัทธ์ระหว่างดาวเกิดจากความแตกต่างของระยะทาง สมมติฐานดังกล่าว แม้ว่าในที่สุดแล้วทิ้ง จะทำให้ เฮอร์เชลใน 1810 ล่วงหน้าเป็นไปได้ว่ามัวสหายดาวคู่ดาวคู่บางไม่ได้ดาวที่ดาวเคราะห์ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริง