By studying the peaks of nuclear ma

By studying the peaks of nuclear magnetic resonance spectra, chemists can determine the structure of many compounds. It can be a very selective technique, distinguishing among many atoms within a molecule or collection of molecules of the same type but which differ only in terms of their local chemical environment. NMR spectroscopy is used to unambiguously identify known and novel compounds, and as such, is usually required by scientific journals for identity confirmation of synthesized new compounds. See the articles on carbon-13 NMR and proton NMR for detailed discussions.
By studying T2 information, a chemist can determine the identity of a compound by comparing the observed nuclear precession frequencies to known frequencies. Further structural data can be elucidated by observing spin-spin coupling, a process by which the precession frequency of a nucleus can be influenced by the magnetization transfer from nearby chemically bound nuclei. Spin-spin coupling is observed in NMR of hydrogen-1 (1H NMR), since its natural abundance is nearly 100%; isotope enrichment is required for most other elements.
Because the nuclear magnetic resonance timescale is rather slow, compared to other spectroscopic methods, changing the temperature of a T2*experiment can also give information about fast reactions, such as the Cope rearrangement or about structural dynamics, such as ring-flipping in cyclohexane. At low enough temperatures, a distinction can be made between the axial and equatorial hydrogens in cyclohexane.
An example of nuclear magnetic resonance being used in the determination of a structure is that of buckminsterfullerene (often called "buckyballs", composition C60). This now famous form of carbon has 60 carbon atoms forming a sphere. The carbon atoms are all in identical environments and so should see the same internal H field. Unfortunately, buckminsterfullerene contains no hydrogen and so 13C nuclear magnetic resonance has to be used. 13C spectra require longer acquisition times since carbon-13 is not the common isotope of carbon (unlike hydrogen, where 1H is the common isotope). However, in 1990 the spectrum was obtained by R. Taylor and co-workers at the University of Sussex and was found to contain a single peak, confirming the unusual structure of buckminsterfullerene.[11]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยการศึกษายอดสเปกตรัมแม่เหล็กนิวเคลียร์เคมีสามารถตรวจสอบโครงสร้างของสารประกอบหลายที่ มันอาจจะเป็นเทคนิคการเลือกมากแตกต่างในหลายอะตอมภายในโมเลกุลหรือคอลเลกชันของโมเลกุลชนิดเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกันเพียง แต่ในแง่ของสภาพแวดล้อมทางเคมีในท้องถิ่นของตน สเปคโทร NMR จะใช้ในการระบุสารมั่นที่รู้จักและนวนิยายและเป็นเช่นนี้มักจะถูกต้องตามวารสารทางวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันตัวตนของสารสังเคราะห์ใหม่ ดูบทความในคาร์บอน 13 NMR และโปรตอน NMR สำหรับการอภิปรายรายละเอียด.
โดยการศึกษาข้อมูล T2, นักเคมีสามารถระบุตัวตนของสารประกอบโดยเปรียบเทียบที่สังเกตความถี่ precession นิวเคลียร์ความถี่ที่รู้จักกัน โครงสร้างข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอธิบายโดยการสังเกตการมีเพศสัมพันธ์ปั่นปั่นกระบวนการที่ความถี่ precession ของนิวเคลียสสามารถได้รับอิทธิพลจากการถ่ายโอนดึงดูดจากนิวเคลียสผูกพันใกล้ทางเคมี การมีเพศสัมพันธ์ปั่นปั่นเป็นที่สังเกตใน NMR ไฮโดรเจน-1 (1H NMR) เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติของมันเป็นเกือบ 100%; การตกแต่งไอโซโทปเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์ประกอบอื่น ๆ มากที่สุด.
เพราะ timescale แม่เหล็กนิวเคลียร์ค่อนข้างช้าเมื่อเทียบกับวิธีสเปกโทรสโกอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ T2 ที่ทดลอง * ยังสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยาอย่างรวดเร็วเช่นการปรับปรุงใหม่รับมือหรือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เช่นแหวนพลิกใน cyclohexane ที่อุณหภูมิต่ำพอความแตกต่างสามารถทำระหว่างแกนและเส้นศูนย์สูตรไฮโดรเจนใน cyclohexane.
ตัวอย่างของแม่เหล็กนิวเคลียร์ถูกนำมาใช้ในการกำหนดโครงสร้างเป็นที่ของ Buckminsterfullerene (มักเรียกว่า "บัคกี้บอล" องค์ประกอบ C60) นี้รูปแบบที่มีชื่อเสียงในขณะนี้มีคาร์บอน 60 อะตอมคาร์บอนขึ้นรูปทรงกลม อะตอมของคาร์บอนที่มีทั้งหมดในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกันและอื่น ๆ จะเห็นสนามภายใน H เดียวกัน แต่น่าเสียดายที่ไม่มี Buckminsterfullerene ไฮโดรเจนและอื่น 13C นิวเคลียร์ด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กจะต้องมีการใช้ สเปกตรัม 13C อีกต่อไปจำเป็นต้องมีการเข้าซื้อกิจการครั้งตั้งแต่คาร์บอน-13 ไม่ได้เป็นไอโซโทปที่พบบ่อยของคาร์บอนไดออกไซด์ (ซึ่งแตกต่างจากไฮโดรเจนที่ 1H เป็นไอโซโทปที่พบบ่อย) อย่างไรก็ตามในปี 1990 คลื่นความถี่ที่ได้รับจากอาร์เทย์เลอร์และเพื่อนร่วมงานที่มหาวิทยาลัยซัสเซ็กซ์และพบว่ามียอดเดียวยืนยันโครงสร้างที่ผิดปกติของ Buckminsterfullerene. [11]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยศึกษาจากยอดของนิวเคลียร์แมกเนติกเรโซแนนซ์ Spectra นักเคมีสามารถศึกษาโครงสร้างของสารประกอบหลาย . มันอาจจะเป็นเทคนิคที่เลือกมากแยกแยะระหว่างอะตอมภายในโมเลกุลหรือหลายคอลเลกชันของโมเลกุลชนิดเดียวกัน แต่ที่แตกต่างกันเพียง แต่ในแง่ของสิ่งแวดล้อมทางเคมีของพวกเขาในท้องถิ่น NMR สเปกโทรสโกปีใช้ในการระบุที่รู้จักกันและสารประกอบนวนิยายและเป็นเช่นมักจะต้องโดยวารสารทางวิทยาศาสตร์หลักฐานยืนยันสังเคราะห์สารประกอบใหม่ เห็นบทความที่คุณ carbon-13 โปรตอน NMR และอภิปราย โดยศึกษาข้อมูลรายละเอียด .
2 นักเคมีสามารถตรวจสอบเอกลักษณ์ของสารประกอบโดยการเปรียบเทียบตรวจสอบนิวเคลียร์ดาวนิวตรอนที่เรียกว่าความถี่ความถี่ข้อมูลโครงสร้างเพิ่มเติม สามารถอธิบายโดยการสังเกตปั่นปั่น coupling , กระบวนการที่การหมุนควงความถี่ของนิวเคลียสได้อิทธิพลมาจากเกาะใกล้เคียงเคมีจำกัดรับจากนิวเคลียส . ปั่นปั่นคู่เป็นที่สังเกตในคุณของ hydrogen-1 ( 1H NMR ) เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติเกือบ 100% ; เสริมไอโซโทปเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับองค์ประกอบอื่น ๆ มากที่สุด
.นิวเคลียร์เรโซแนนซ์แม่เหล็ก เพราะเวลาค่อนข้างช้า เมื่อเทียบกับวิธีอื่น ๆคือ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของ T2 * ทดลองยังสามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับปฏิกิริยาอย่างรวดเร็ว เช่น รับมือใหม่หรือเกี่ยวกับพลศาสตร์ของโครงสร้าง เช่น แหวนพลิกในไซโคลเฮกเซน . ในอุณหภูมิพอต่ำความแตกต่างได้ระหว่างเส้นศูนย์สูตรและไฮโดรเจนในแกนไซโคลเฮกเซน .
ตัวอย่างแม่เหล็กนิวเคลียร์ถูกใช้ในการกำหนดโครงสร้างที่บูกมินสเตอร์ฟูลเลอรีน ( มักจะเรียกว่า " buckyballs " องค์ประกอบ C60 ) รูปแบบนี้ตอนนี้ที่มีชื่อเสียงของคาร์บอน 60 อะตอมของคาร์บอนขึ้นรูปมีทรงกลมคาร์บอนอะตอมทั้งหมดในสภาพแวดล้อมที่เหมือนกันและดังนั้นจะเห็นเขตข้อมูลเดียวกัน ) ภายใน ขออภัย บูกมินสเตอร์ฟูลเลอรีนประกอบด้วยไม่มีไฮโดรเจนและ 13C นิวเคลียร์แมกเนติกเรโซแนนซ์ได้ต้องใช้ ต้องการซื้อสเปกตรัม 13C อีกต่อไปครั้งตั้งแต่ carbon-13 ไม่ใช่ไอโซโทปคาร์บอน ( ซึ่งแตกต่างจากทั่วไปของไฮโดรเจน ที่ 1 เป็นไอโซโทปที่พบ ) อย่างไรก็ตามในปี 1990 สเปกตรัมได้โดย R . Taylor และเพื่อนร่วมงานที่มหาวิทยาลัยซัสเซ็กซ์และพบว่ามียอดเดียว ยืนยันโครงสร้างที่ผิดปกติของบูกมินสเตอร์ฟูลเลอรีน . [ 11 ]