Henry Bessemer worked on the proble

Henry Bessemer worked on the problem of manufacturing cheap steel for ordnance production from 1850 to 1855 when he patented his method.[6] On 24 August 1856 Bessemer first described the process to a meeting of the British Association in Cheltenham which he titled "The Manufacture of Iron Without Fuel." It was published in full in The Times. The Bessemer process involved using oxygen in air blown through molten pig iron to burn off the impurities and thus create steel.[7] James Nasmyth had been working on a similar idea for some time prior to this. A reluctant patentor, and in this instance still working through some problems in his method, Nasmyth abandoned the project after hearing Bessemer at the meeting. Bessemer acknowledged the efforts of Nasmyth by offering him a one-third share of the value of his patent. Nasmyth turned it down as he was about to retire.[8]
Many industries were constrained by the lack of steel, being reliant on cast iron and wrought iron alone. Examples include railway structures such as bridges and tracks, where the treacherous nature of cast iron was keenly felt by many engineers and designers. There had been many accidents when cast iron beams collapsed suddenly, such as the Dee bridge disaster of May 1847, the Wooton bridge collapse and the Bull bridge accident of 1860. The problem recurred at the Tay Bridge disaster of 1879, and failures continued until all cast iron under-bridges were replaced by steel structures. Wrought iron structures were much more reliable with very few failures.
Though this process is no longer commercially used, at the time of its invention it was of enormous industrial importance because it lowered the cost of production steel, leading to steel being widely substituted for cast iron.
Bessemer's attention was drawn to the problem of steel manufacture in the course of an attempt to improve the construction of guns.
Implementation[edit]
Bessemer licensed the patent for his process to five Ironmasters, but from the outset, the companies had great difficulty producing good quality steel.[9] Mr Göransson, a Swedish ironmaster, using the purer charcoal pig iron of that country, was the first to make good steel by the process, but only after many attempts. His results prompted Bessemer to try a purer iron obtained from Cumberland hematite, but even with this he had only limited success because the quantity of carbon was difficult to control. Robert Forester Mushet, had carried out thousands of experiments at Darkhill Ironworks, in the Forest of Dean, and had shown that the quantity of carbon could be controlled by removing almost all of it from the iron and then adding an exact amount of carbon and manganese, in the form of spiegeleisen. This improved the quality of the finished product and increased its malleability.[10][11][12]
When Bessemer tried to induce makers to take up his improved system, he met with general rebuffs and was eventually driven to undertake the exploitation of the process himself. He erected steelworks in Sheffield in a business partnership with others, such as W & J Galloway & Sons, and began to manufacture steel. At first the output was insignificant, but gradually the magnitude of the operations was enlarged until the competition became effective, and steel traders generally became aware that the firm of Henry Bessemer & Co. was underselling them to the extent of UK£10-£15 a ton. This argument to the pocket quickly had its effect, and licences were applied for in such numbers that, in royalties for the use of his process, Bessemer received a sum in all considerably exceeding a million pounds sterling.
However Mushet received nothing and by 1866 was destitute and in ill-health. In that year his 16 year old daughter, Mary, travelled to London alone, to confront Bessemer at his offices, arguing that his success was based on the results of her father’s work.[13] Bessemer decided to pay Mushet an annual pension of £300, a very considerable sum, which he paid for over 20 years; possibly with a view to keeping the Mushets from legal action.[13]
W M Lord has said with regard to this success that "Sir Henry Bessemer was somewhat exceptional. He had developed his process from an idea to a practical reality in his own lifetime and he was sufficiently of a businessman to have profited by it. In so many cases, inventions were not developed quickly and the plums went to other persons than the inventors."[14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เฮนรี่ Bessemer ทำงานกับปัญหาของการผลิตเหล็กราคาถูกในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ 1850-1855 เมื่อเขาจดสิทธิบัตรวิธีการของเขา. [6] เมื่อ 24 สิงหาคม 1856 Bessemer แรกที่อธิบายขั้นตอนการประชุมของสมาคมอังกฤษใน Cheltenham ซึ่งเขาชื่อ "การผลิต ของเหล็กโดยไม่ต้องเชื้อเพลิง. " มันถูกตีพิมพ์ในเต็มรูปแบบในช่วงเวลาที่กระบวนการ Bessemer เกี่ยวข้องโดยใช้ออกซิเจนในอากาศพัดผ่านเหล็กหลอมเหลวที่จะเผาไหม้ออกจากสิ่งสกปรกและทำให้การสร้างเหล็ก. [7] james nasmyth ได้ทำงานกับความคิดที่คล้ายกันบางครั้งก่อนหน้านี้ ผู้ให้สิทธิบัตรไม่เต็มใจและในกรณีที่ยังคงทำงานผ่านปัญหาบางอย่างในวิธีการของเขานี้ nasmyth ทิ้งโครงการหลังจากได้ยินเสียงเบสที่ประชุมBessemer รับการยอมรับในความพยายามของ nasmyth เขาโดยนำเสนอหุ้นหนึ่งในสามของมูลค่าของสิทธิบัตรของเขา nasmyth มันกลับลงมาขณะที่เขากำลังจะเกษียณ. [8]
อุตสาหกรรมหลายคนถูก จำกัด จากการขาดเหล็ก, พึ่งพาเหล็กและเหล็กดัดเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างรวมถึงโครงสร้างทางรถไฟเช่นสะพานและแทร็ค,ที่ทรยศธรรมชาติของเหล็กเป็นความรู้สึกอย่างดีที่สุดโดยวิศวกรและนักออกแบบจำนวนมาก มีการเกิดอุบัติเหตุมากเมื่อคานเหล็กทรุดตัวลงอย่างกระทันหันเช่นภัยพิบัติสะพานดีของพฤษภาคม 1847, สะพานพัง wooton และอุบัติเหตุสะพานวัว 1860 ปัญหาซ้ำซากที่เกิดภัยพิบัติสะพาน Tay 1879,และความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องจนถึงเหล็กทั้งหมดภายใต้สะพานถูกแทนที่ด้วยโครงสร้างเหล็ก โครงสร้างเหล็กดัดเป็นน่าเชื่อถือมากขึ้นกับความล้มเหลวน้อยมาก.
แม้ว่ากระบวนการนี​​้จะไม่ถูกนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ในช่วงเวลาของการประดิษฐ์ของมันมีความสำคัญในอุตสาหกรรมอย่างมากเพราะมันลดค่าใช้จ่ายของการผลิตเหล็กที่นำไปสู่​​เหล็กถูกแทนที่อย่างกว้างขวางสำหรับ เหล็กหล่อ.
ความสนใจ Bessemer ถูกดึงไปที่ปัญหาของการผลิตเหล็กในหลักสูตรของการพยายามที่จะปรับปรุงการก่อสร้างของปืน.
ดำเนินการ [แก้ไข]
Bessemer รับใบอนุญาตสิทธิบัตรสำหรับกระบวนการของเขาถึงห้า ironmasters แต่ตั้งแต่เริ่มแรก บริษัท มีความลำบาก ผลิตเหล็กที่มีคุณภาพดี. [9] นายgöransson, เหมืองเหล็กสวีเดนบริสุทธิ์โดยใช้ถ่านหมูเหล็กของประเทศนั้นเป็นครั้งแรกที่จะทำให้เหล็กที่ดีโดยกระบวนการ แต่หลังจากที่หลายคนพยายาม ผลของเขาได้รับแจ้ง Bessemer จะลองเหล็กบริสุทธิ์ที่ได้จากออกไซด์คัมเบอร์แลนด์ แต่นี้แม้จะมีเขามีเพียง จำกัด ประสบความสำเร็จเพราะปริมาณของคาร์บอนเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม โรเบิร์ตป่าไม้ Mushet ได้ดำเนินการหลายพันของการทดลองที่หลอม Darkhill ในป่าของคณบดี,และได้แสดงให้เห็นว่าปริมาณของคาร์บอนสามารถควบคุมโดยการลบเกือบทั้งหมดของมันออกมาจากเหล็กแล้วเพิ่มจำนวนเงินที่แน่นอนของคาร์บอนและแมงกานีสในรูปแบบของ spiegeleisen นี้ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปและเพิ่มการดัดแปลงของ. [10] [11] [12]
เมื่อ Bessemer พยายามที่จะก่อให้เกิดการผลิตจะใช้ระบบที่ดีขึ้นของเขาเขาได้พบกับ rebuffs ทั่วไปและในที่สุดก็จะถูกผลักดันเพื่อดำเนินการแสวงหาผลประโยชน์จากกระบวนการของตัวเอง เขาสร้างโรงงานเหล็กกล้าในเชฟฟิลด์ในความร่วมมือทางธุรกิจกับคนอื่น ๆ เช่น w & J ​​Galloway ลูกชาย&และเริ่มที่จะผลิตเหล็ก ในตอนแรกที่เอาท์พุทเป็นนัยสำคัญ แต่ค่อยๆสำคัญของการดำเนินงานก็ขยายจนกระทั่งการแข่งขันได้กลายเป็นที่มีประสิทธิภาพ,และผู้ค้าเหล็กโดยทั่วไปก็รู้ว่า บริษัท ของเฮนรี่ Bessemer &ร่วม ถูกตัดราคาพวกเขาไปยังขอบเขตของ UK £ 10 - £ 15 ตัน อาร์กิวเมนต์กระเป๋านี้ได้อย่างรวดเร็วมีผลของมันและใบอนุญาตที่ถูกนำมาใช้สำหรับในจำนวนดังกล่าวว่าในค่าลิขสิทธิ์สำหรับการใช้งานของกระบวนการของเขา Bessemer ได้รับผลบวกในทุกมากเกินล้านปอนด์สเตอร์ลิง.
แต่ Mushet ได้รับอะไรและโดย 1866 เป็นยากจนและป่วยสุขภาพ ในปีที่ว่าลูกสาวของเขาอายุ 16 ปีแมรี่เดินทางไปลอนดอนเพียงอย่างเดียวที่จะเผชิญหน้ากับ Bessemer ที่สำนักงานของเขาเถียงว่าเขาประสบความสำเร็จก็ขึ้นอยู่กับผลงานของพ่อของเธอ. [13] Bessemer ตัดสินใจที่จะจ่าย Mushet บำเหน็จประจำปีของ£ 300 ผลรวมมากมากซึ่งเขาจ่ายมานานกว่า 20 ปีอาจจะมีมุมมองในการรักษา mushets จากดำเนินการตามกฎหมาย. [13]
วชิรเมตรลอร์ดได้กล่าวเกี่ยวกับการประสบความสำเร็จว่า "เซอร์เฮนรี่ Bessemer เป็นพิเศษค่อนข้างนี้. เขาได้พัฒนากระบวนการความคิดของเขาจากการปฏิบัติจริงในชีวิตของเขาเอง และเขาก็เป็นพอของนักธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากมัน. ในหลายกรณีดังนั้นสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วและพลัมไปบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้คิดค้น. "[14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แผนกวิศวกรรมวัสดุ Henry ทำงานเกี่ยวกับปัญหาของการผลิตเหล็กราคาถูกสำหรับผลิตสรรพาวุธจาก 1850 1855 เมื่อเขาจดสิทธิบัตรวิธีการของเขา[6] ใน 24 1856 สิงหาคม แผนกวิศวกรรมวัสดุก่อนอธิบายกระบวนการการประชุมสมาคมอังกฤษในเชลเท็นฮาร์นซึ่งเขาชื่อว่า "การผลิตเหล็กโดยไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง" ได้ถูกเผยแพร่ในเวลา แผนกวิศวกรรมวัสดุกระบวนการเกี่ยวข้องกับการใช้ออกซิเจนในอากาศที่พัดผ่านหมูเหล็กหลอมละลาย การเขียนปิดที่สิ่งสกปรกจึง สร้างเหล็ก[7] เจมส์ Nasmyth มีการทำงานบนความคิดที่คล้ายกันในบางเวลาก่อนหน้านี้ Patentor งี่ และในกรณีเช่นนี้ยังคง ทำงานผ่านปัญหาในวิธีของเขา Nasmyth ละทิ้งโครงการหลังจากได้ยินแผนกวิศวกรรมวัสดุในการประชุม แผนกวิศวกรรมวัสดุรับทราบความพยายามของ Nasmyth โดยนำเสนอเขาใช้ร่วมกันหนึ่งในสามของค่าของสิทธิบัตรของเขา Nasmyth เปิดลง ตามจะถอน[8]
อุตสาหกรรมจำนวนมากถูกจำกัดจากการขาดเหล็ก การพึ่งพาการหล่อเหล็กและเหล็กดัดเพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่นโครงสร้างทางรถไฟสะพานและแทร็ค ซึ่งลักษณะภูมิประเทศของเหล็ก keenly รู้สึก โดยวิศวกรและนักออกแบบจำนวนมาก มีได้หลายอุบัติเหตุเมื่อคานเหล็กยุบทันที เช่นภัยพิบัติสะพานดีของ 1847 พฤษภาคม ยุบสะพาน Wooton และอุบัติเหตุสะพานวัวของ 1860 ปัญหา recurred ที่เกิดเหตุสะพานเทของ 1879 และความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องจนกว่าสะพานน้อยเหล็กทั้งหมดถูกแทนที่ ด้วยโครงสร้างเหล็ก งานเหล็กโครงสร้างได้มากขึ้นน่าเชื่อถือกับความล้มเหลวน้อยมาก.
ว่ากระบวนการนี้จะพยายามไม่ใช้ เวลาของสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นอุตสาหกรรมสำคัญอย่างมาก เพราะมันลดลงทุนผลิตเหล็ก นำให้เหล็กอยู่มากทดแทนเหล็ก
สนใจแผนกวิศวกรรมวัสดุของการผลิตเหล็กในหลักสูตรของความพยายามในการปรับปรุงการก่อสร้างของปืนออก
งาน [แก้ไข]
แผนกวิศวกรรมวัสดุได้รับสิทธิบัตรสำหรับกระบวนการ Ironmasters ห้าของเขา แต่จากมือ บริษัทได้ผลิตเหล็กคุณภาพดียากมาก[9] นาย Göransson, ironmaster สวีเดน ใช้เหล็กหมูถ่าน purer ของประเทศ คนแรกทำเหล็กดีกระบวนการ แต่หลัง จากความพยายามมากมาย แผนกวิศวกรรมวัสดุเหล็ก purer ที่ได้รับจาก hematite คัมเบอร์แลนด์พยายามให้ผลลัพธ์ของเขา แต่แม้จะ มีนี้ เขามีเพียงจำกัดประสบความสำเร็จเพราะยากที่จะควบคุมปริมาณของคาร์บอน โรเบิร์ต Forester Mushet ได้ดำเนินการทดลองที่ดาร์กฮิล Ironworks ในป่าคณบดี พัน และได้แสดงว่า สามารถควบคุมปริมาณของคาร์บอน ด้วยการเอาเกือบหมดจากเหล็กแล้ว เพิ่มจำนวนคาร์บอนและแมงกานีส แน่นอนในรูปแบบของ spiegeleisen นี้ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป และเพิ่ม malleability เป็น[10][11][12]
แผนกวิศวกรรมวัสดุเมื่อพยายามที่จะก่อให้เกิดผู้นำขึ้นระบบของเขาดีขึ้น เขาได้พบกับ rebuffs ทั่วไป และในที่สุดได้ขับเพื่อแสวงหาประโยชน์ของกระบวนการเอง เขาเกร็ง steelworks ที่ร่วมธุรกิจกับผู้อื่น เช่นบุตร&& J Galloway W และเริ่มการผลิตเหล็ก ในตอนแรกผลลัพธ์สำคัญ แต่ค่อย ๆ มีขยายขนาดการดำเนินงานจนกระทั่งการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และผู้ค้าเหล็กโดยทั่วไปได้ทราบว่า บริษัทของบริษัท& Henry แผนกวิศวกรรมวัสดุเป็น underselling พวกเขาขอบเขตราชอาณาจักร 10 ปอนด์ - ปอนด์15 ตัน อาร์กิวเมนต์นี้กระเป๋าอย่างรวดเร็วมีผลของมัน และใบถูกนำไปใช้สำหรับตัวเลขดังกล่าว ว่า ในค่าภาคหลวงสำหรับการใช้กระบวนการของเขา แผนกวิศวกรรมวัสดุรับผลทุกอย่างมากเกินล้านปอนด์สเตอร์ลิง
อย่างไรก็ตาม Mushet ได้รับ และ โดย 1866 เป็นสถานบำบัด และป่วยเป็นโรค ในปีที่ ลูกสาวของเขาอายุ 16 ปี แมรี่ เดินทางไปลอนดอนเพียงอย่างเดียว การเผชิญหน้าแผนกวิศวกรรมวัสดุในสำนักงานของเขา โต้เถียงว่า ความสำเร็จของเขาขึ้นอยู่กับผลของการทำงานของพ่อของเธอ[13] แผนกวิศวกรรมวัสดุการตัดสินใจที่จะจ่ายเงินบำนาญประจำปีเป็น £ 300 ผลมากมาก ซึ่งเขาจ่าย 20 ปี Mushet อาจจะมุมมองทำให้ Mushets ที่จากการดำเนินการตามกฎหมาย[13]
W M พระเจ้าตรัสกับความสำเร็จครั้งนี้ว่า "Sir Henry แผนกวิศวกรรมวัสดุได้ค่อนข้างยอดเยี่ยม เขาได้พัฒนากระบวนการของเขาจากความคิดการปฏิบัติจริงในชีวิตของเขาเอง และเขาก็พอของพ่อค้าจะมี profited เป็น ในหลายกรณี สิ่งประดิษฐ์ที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว และพลัมไปกับผู้อื่นมากกว่าการนักประดิษฐ์"[14]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เฮนรีเบซ - เซะเมอะซทีลทำงานในที่เกิดปัญหาในการผลิตราคาถูกเหล็กสำหรับปืนใหญ่การผลิตจาก 1850 ถึง 1855 เมื่อเขาได้จดสิทธิบัตรแล้วของเขาวิธีการ.[ 6 ]ในวันที่ 24 สิงหาคมปี 1856 เบซ - เซะเมอะซทีลครั้งแรกที่อธิบายขั้นตอนในการที่การประชุมของอังกฤษการเชื่อมโยงใน Cheltenham ซึ่งเขามีชื่อว่า"การผลิตของเตารีดโดยไม่ต้องใช้น้ำมัน"มันก็มีการตีพิมพ์ในอย่างเต็มที่ในช่วงเวลา.กระบวนการเบซ - เซะเมอะซทีลที่เกี่ยวข้องกับการใช้ออกซิเจนที่อยู่ในอากาศพัดผ่านเตารีดหมูหล่อเพื่อจะกำจัดสิ่งสกปรกและสร้างเหล็ก.[ 7 ]เจมส์ nasmyth ได้รับการดำเนินการตามแนวคิดความเหมือนในบางครั้งก่อนนี้ ไม่เต็มใจ patentor และในกรณีนี้ยังคงทำงานผ่านปัญหาบางประการในวิธีการของเขา nasmyth ที่ถูกทอดทิ้งโครงการนี้หลังจากได้ยินเบซ - เซะเมอะซทีลในที่ประชุมเบซ - เซะเมอะซทีลก็ยอมรับแล้วว่าความพยายามของ nasmyth โดยเขาใช้ร่วมกันจัดให้บริการหนึ่งในสามของมูลค่าของสิทธิบัตรของเขา nasmyth หันมาลงให้เขากำลังจะออกจากตำแหน่ง.[ 8 ]
อุตสาหกรรมหลายคนโดยการขาดเหล็กเป็นต้องพึ่งพาเหล็กดัดและเหล็กหล่อคนเดียว ตัวอย่างรวมถึงโครงสร้างรถไฟเช่นเพลงและสะพานที่ธรรมชาติใจคดของเหล็กหล่อรู้สึกว่าโดยวิศวกรและนักออกแบบของคม มีการเกิดอุบัติเหตุจำนวนมากเมื่อคานเหล็กหล่อถูกยุบก็เช่นสะพานดีที่เกิด ภัยพิบัติ ของสะพานพังทลายลงเมื่อปี 1847 อาจ wooton และอุบัติเหตุสะพานจังหวัดปราจีนบุรีปี 1860 ปัญหาที่ผุดขึ้นมาที่ไปยัง Tay สะพานความหายนะของ 1879และความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องจนกว่าเหล็กหล่อตาม - สะพานทั้งหมดถูกแทนด้วยโครงสร้างเหล็ก โครงสร้างเหล็กดัดกันมากน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้นพร้อมด้วยความสะดวกสบายเป็นอย่างมากไม่กี่ความล้มเหลว.
แม้ว่ากระบวนการนี้จะไม่มีอีกต่อไปแล้วใช้ในช่วงเวลาของการประดิษฐ์ของมันมีความสำคัญมากเพราะเป็นอุตสาหกรรมลดค่าใช้จ่ายในการผลิตเหล็กเหล็กกล้านำไปสู่การนำมาใช้แทนเหล็กหล่อ.
เบซ - เซะเมอะซทีลของความสนใจก็ไปที่ปัญหาของการผลิตเหล็กกล้าในความพยายามในการปรับปรุงโครงสร้างของปืน.
การนำไปใช้งาน[แก้ไข]
เบซ - เซะเมอะซทีลถูกต้องที่สิทธิบัตรสำหรับของเขาการถึงห้า ironmasters ,แต่จากที่เริ่มต้น,ที่บริษัทมีความยากที่ดีเยี่ยมการผลิตที่มี คุณภาพ ดีเหล็ก.[ 9 ]นาย göransson ,ที่สวีเดน ironmaster ,การใช้ตัวเลขยิ่งสูงสัญญาณสีเทาเข้มหมูเตารีดของแต่ละประเทศ,เป็นครั้งแรกที่จะทำให้เหล็กที่เหมาะสมโดยกระบวนการที่แต่หลังจากความพยายามจำนวนมาก ผลการค้นหาของเขาได้รับพรอมต์ให้เบซ - เซะเมอะซทีลเพื่อลองเตารีดตัวเลขยิ่งสูงสัญญาณที่ได้รับจากแม่กุญแจคริสตัลเฮมาไทต์ความ Cumberland แต่ถึงแม้จะมีโรงแรมแห่งนี้เขามีความสำเร็จจำกัด(มหาชน)เท่านั้นเนื่องจากปริมาณของผงถ่านกัมมันต์เป็นเรื่องยากที่จะควบคุม Robert พนักงานป่าไม้ mushet ไปหลายพันคนออกจากการทดลองที่ darkhill โรงทำเหล็กในป่าที่ได้รับการ Deanและก็แสดงให้เห็นว่าปริมาณของผงถ่านกัมมันต์จะถูกควบคุมโดยการถอดเกือบทั้งหมดจากเตารีดแล้วการเพิ่มจำนวนเงินที่แน่นอนของแมงกานีส,และถ่านคาร์บอนกัมมันต์ในรูปแบบของ spiegeleisen . โรงแรมแห่งนี้ได้รับการปรับปรุง คุณภาพ ของ ผลิตภัณฑ์ ที่เสร็จสมบูรณ์และเพิ่มขึ้นดัดแปลงได้ง่ายของ.[ 10 ][ 11 ][ 12 ]
เมื่อเบซ - เซะเมอะซทีลพยายามที่จะทำให้เครื่องทำให้ได้ระบบของเขาดีขึ้นเขาได้พบกับ rebuffs ทั่วไปและถูกขับรถพาไปยังดำเนินการตักตวงประโยชน์ของกระบวนการที่ตัวเองในที่สุด เขาเกิด steelworks ใน Sheffield , the ในห้างหุ้นส่วนทางธุรกิจที่พร้อมด้วยผู้อื่นเช่น W & J Dumfries และ Galloway พร้อม&บุตรชายและเริ่มการผลิตเหล็กกล้า ในครั้งแรกผลที่ได้ก็ไม่มีความหมายอย่างค่อยเป็นค่อยไปแต่ความสำคัญของการทำงานที่มีขนาดใหญ่จนกว่าการแข่งขันที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่และผู้ค้าเหล็กกล้าโดยทั่วไปแล้วก็รู้ตัวว่าที่บริษัทของเฮนรี่เบซ - เซะเมอะซทีล&. co . th เป็น underselling ให้ขอบเขตของสหราชอาณาจักรตลาด! 10 - 15 ล้านปอนด์ตัน อาร์กิวเมนต์นี้กับกระเป๋าได้อย่างรวดเร็วมีผลของมันและการอนุญาตซึ่งได้ถูกนำมาใช้สำหรับในหมายเลขที่เก็บค่า ภาค หลวงสำหรับการใช้งานในกระบวนการของเขาเบซ - เซะเมอะซทีลได้รับเงินในทั้งหมดอย่างมากเกินล้านปอนด์ซึ่งเงิน.
แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังไม่มีอะไรและได้รับ mushet โดยปี 1866 เป็นอนาถาและใน สุขภาพ ในบุตรสาวปีที่ 16 ปีของเขาเก่าแมรี่ออกเดินทางไปยังกรุงลอนดอนตามลำพังในการเผชิญหน้ากับเบซ - เซะเมอะซทีลที่สำนักงานของเขาให้เหตุผลว่าความสำเร็จของเขาก็ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่จะใช้ในงานของพ่อของเธอ.[ 13 ]เบซ - เซะเมอะซทีลมีมติให้จ่ายเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการ mushet ประจำปีของปอนด์จำนวน 300 เป็นอย่างมากซึ่งเขาได้จ่ายเงินมากกว่า 20 ปีเป็นไปได้ว่าอาจเป็นพร้อมด้วยวิวทิวทัศน์ที่ให้การรักษา mushets จากการดำเนินการทางกฎหมาย.[ 13 ]ม.พระ
W มีกล่าวว่า"ด้วยโดยคำนึงถึงความสำเร็จนี้ว่า" Sir Henry เบซ - เซะเมอะซทีลเป็นที่ดีเยี่ยมบางส่วน เขามีการพัฒนากระบวนการของเขามาจากความคิดที่เป็นความจริงที่ใช้งานได้จริงในชีวิตของเขาเองและเขามีความเหมาะสมของนักธุรกิจที่จะมีประโยชน์อะไรแก่โดย ในหลายกรณีสิ่งประดิษฐ์ก็ไม่ได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วและลูกพลัมก็ไปหาบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ชมรมรถเมอร์เซเดส"[ 14 ]