” เราจะครอง แผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม ”
พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งเสด็จขึ้นครองราชย์ในปีพุทธศักราช 2489 ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการไว้ว่าดังนี้ และจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลากว่า70ปีแล้ว ท่านทรงตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรมอย่างมิเคยเสื่อมคลาย
นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของความเป็นประเทศไทย มีช่วงเวลาแห่งความมั่นคงอันนำมาซึ่งความสุขเกษมเปรมปรีดิ์ของปวงชนชาวไทย และช่วงเวลาแห่งภาวะวิกฤตของปัญหา อันนมาซึ่งความโศกเศร้าและสิ้นหวัง แต่ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาใด บุคคลหนึ่งซึ่งไม่เคยไหวหวั่นไปตามสถานกรณ์ต่างๆ นั่นก็คือ พระยาทสวมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช หรือในหลวงของเรานั่นเอง ทุกหย่อมหญ้าแห่งความขาดแคลน ทุกพื้นที่อันไร้ซึ่งความเจริญ ไม่มีที่ใดที่พระองค์เสด็จไปเยี่ยมเยียนแล้วจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง
ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปี ไม่มีใครสามารถจำได้ว่าพระองค์เสด็จไปยังที่แห่งใดบ้าง แต่สิ่งหนึ่งที่ประชาชนทุกคนจำได้คือ ไม่ว่าพระองค์จะเสด็จไปไหน ณ ที่แห่งใด จะต้องเห็นสิ่งของสามสิ่งอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์คือแผนที่ และอีกสิ่งหนึ่งคือดินสอ แต่พระองค์มิได้ทรงใช้สามสิ่งนั้นเพื่อการนันทนาการท่องเที่ยว หากแต่ใช้เป็นอุปกรณ์ในการคิด และหาทางพัฒนาพื้นที่ที่ประทับอยู่นั้นในการคิด และหาทางพัฒนาพื้นที่ที่ประทับอยู่นั้นให้พบกับความเจริญ ที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในภูมิประเทศ และภูมิอากาศอย่างไร ฟ้าฝนฤดูกาลเป็นเช่นไร พระองค์ทรงทราบได้จากแผนที่ รายละเอียดของพื้นที่และปัญหาต่างๆ ที่ต้องแก้ไขมีอะไรบ้าง พระองค์ทรงจำได้จากการจดบันทึกและการถ่ายภาพ พระองค์คือตัวอย่างของนักพัฒนาอย่างแท้จริง ซึ่งต้องเตรียมพร้อมและรับรุ้แก้ไขปัญหาต่างๆ เสมอ การทำที่ดินอันแห้งแล้งแตกระแหงให้เป็นผืนนาอันอุดมสมบูรณ์ การทำภูเขาหัวโล้นให้เป็นยอดเขาอันเขียวขจี การทำให้ข้าที่เหี่ยวเฉากลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทุกสิ่งล้วนไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครก็สามารถทำได้ หากแต่ในหลวงของเราสามารถทำได้
พ่อหลวงของเรา นั้นเปรียบเสมือนครูอาจารย์ที่เป็นผู้วางแนวทางต่างๆและความรู้ให้พวกเราชาว ไทยมากตลอด และได้เรียนรู้แล้วปฏิบัติตามในแนวทางทางที่ถูกต้องและสุจริต แล้วพ่อหลวงของเราไม่เคยที่จะทำสิ่งที่ผิดเลย แล้วยังคิดแนวทางเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ทุกยากและขาดแคน ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ เรื่องเศรษฐกิจ หรือเรื่องการออม ได้แก่ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้คนรู้จักอดออม โครงการแก้มลิง เพื่อจะได้ชะลอน้ำเพื่อเก็บไว้ในหน้าแล้ง โครงการฝนหลวง เพื่อให้มีน้ำทำนา โครงการกันหันน้ำชัยพัฒนา เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำ หญ้าแฝก เพื่อทำให้ป่าชายเลนสมบูรณ์ แล้วยังมีพระราชกรณียกิจอื่นๆ ที่พ่อหลวงของเราได้ทำเอาไว้เพื่อประชาชนชาวไทยทุกคน. พระองค์ยังไม่สนพระทัยกับความเหน็ดเหนื่อย และหยาดเหงื่อที่ไหลออกมา แล้วเหตุใดข้าพเจ้าจะต้องกลัวความเหน็ดเหนื่อย พระองค์ไม่ทรงกลัวความยากลำบาก แล้วเหตุใดข้าพเจ้าจึงจะต้องแสวงหาแต่ความสุขสบาย สิ่งที่พระองค์สนพระทัยคือชีวิตที่ดีกว่าของปวงชน ภายใต้ร่มพระบารมีและสิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าสนใจ ก็คือการพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพที่ดีกว่านี้ เพื่อที่ว่าจะสามารถทำประโยชน์ตอบแทนแผ่นดินเกิดของข้าพเจ้าได้ในอนาคต ข้าพเจ้าไม่ใช่คนร่ำรวย ดังนั้นสิ่งเดียวที่ข้าพเจ้าจะสามารถให้แผ่นดินนี้ได้ ก็คือการตั้งใจเรียนเพื่อเป็นพลเมืองที่มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นภาระต่อสังคม หนึ่งในเป้าหมายชีวิตของข้าพเจ้าที่อยากจะกระทำให้ได้นั่นก็คือ ข้าพเจ้าอยากเข้าเฝ้าในหลวงแค่สักครั้งหนึ่ง ได้เห็นพระพักตร์อันเปี่ยมด้วยความเมตตาของพระองค์ ข้าพเจ้าจะเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในการเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้ประเทศชาติเจริญ เพื่อตอบแทนแผ่นดินเกิด เพื่อตอบแทนบุญคุณของในหลวง เพื่อที่พระองค์จะได้ไม่ผิดหวังกับแรงกายแรงใจที่ทุ่มเทให้กับพสกนิกร
นับจากวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 นับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศ นั้นคือวันที่พ่อหลวงสวรรคต พ่อหลวงรับสั่งว่าพ่อจะอยู่ถึงอายุ120ปีแต่วันนี้พ่อจากไปเพียงอายุ89ปี ข้าพเจ้าอยากบอกว่าพ่อไม่ได้ผิดสัญญาแต่พ่อแค่เหนื่อยมามากแล้วตั้งแต่นี้ขอให้พ่อหลวงพักผ่อนให้สบาย ต่อให้เกิดอีกกี่ชาติก้ไม่มีอีกแล้วมหาราชที่ชื่อ "ภูมิพล" ข้าพเจ้าขอสัญญาว่าข้าพเจ้าจะจงรักภักดีและยกให้ท่านเป็นบุคคลตัวอย่างในชีวิตข้าพเจ้า