การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดการสอนและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ของเล่นของใช้ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5E (Inquiry cycle) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 80/80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาการเรียนและเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์และหลังใช้ชุดการสอน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนชุมชนเทศบาล3(พินิจพิทยานุสรณ์)กองการศึกษา เทศบาลเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม จำนวน 32 คน ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม ใช้เวลาทดลอง 8 ชั่วโมง หาประสิทธิภาพของชุดการสอน โดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละ หาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ ก่อนและหลังใช้ชุดการสอนโดยใช้สถิติ Pairet-Samples t-Test
ผลการวิจัย พบว่าชุดการสอนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่อง ของเล่นของใช้ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5E (Inquiry cycle) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมามีประสิทธิภาพ 89.93/81.39 และพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดการสอนและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องของเล่นของใช้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5e คือแบบ (สอบถามรอบ) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 80/80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาการเรียนและเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์และหลังใช้ชุดการสอนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา โรงเรียนชุมชนเทศบาล3 2556 (พินิจพิทยานุสรณ์) กองการศึกษาเทศบาลเมืองนครพนมจังหวัดนครพนมจำนวน 32 คนได้จากการสุ่มแบบกลุ่มใช้เวลาทดลอง 8 ชั่วโมงหาประสิทธิภาพของชุดการสอนโดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังใช้ชุดการสอนโดยใช้สถิติ Pairet ตัวอย่าง t-ทดสอบ ผลการวิจัยพบว่าชุดการสอนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องของเล่นของใช้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5e คือแบบ (สอบถามรอบ) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมามีประสิทธิภาพ 89.93/81.39 และพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 เจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรื่องของเล่นของใช้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5E (รอบสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 80/80 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 เทศบาลเมืองนครพนมจังหวัดนครพนมจำนวน 32 คนได้จากการสุ่มแบบกลุ่มใช้เวลาทดลอง 8 ชั่วโมงหาประสิทธิภาพของชุดการสอนโดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละ Pairet-ตัวอย่างทดสอบ t
ผลการวิจัย เรื่องของเล่นของใช้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5E (รอบสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมามีประสิทธิภาพ 89.93 / 81.39 และพบว่า 0.01 0.01

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาชุดการสอนและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องของเล่นของใช้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5E ( วงจรสืบเสาะ )1 ให้มีประสิทธิภาพไม่น้อยกว่า 80 / 80 และเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทาการเรียนและเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์และหลังใช้ชุดการสอนกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556เทศบาลเมืองนครพนมจังหวัดนครพนมจำนวน 32 คนได้จากการสุ่มแบบกลุ่มใช้เวลาทดลอง 8 ชั่วโมงหาประสิทธิภาพของชุดการสอนโดยใช้ค่าเฉลี่ยร้อยละหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์ตัวอย่างการทดสอบ
ไพเรทผลการวิจัยพบว่าชุดการสอนสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรื่องของเล่นของใช้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบ 5E ( วงจรสอบถาม ) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่สร้างขึ้นมามีประสิทธิภาพ 89.93/81 .39 และพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ . 01 01 เจตคติต่อวิชาวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .