2.2. Statistical analysisThe data w

2.2. Statistical analysis

The data were expressed as the mean ± S.D. Applicable analysis weights, Stata 11.0, were applied, to adjust the design
variables for clustering and stratification. The Cox proportional hazards model was used to identify the influence of baseline characteristics on diabetic subjects.

The results of all tests with p < 0.05 were considered to be statistically significant.
The incidence of CKD based on Kaplan–Meier
curves was used in diabetic subjects with/without physical
activity

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2.2 สถิติวิเคราะห์ข้อมูลถูกแสดงเป็นการเฉลี่ย± S.D. ใช้วิเคราะห์น้ำหนัก Stata 11.0 ถูกนำไปใช้ การปรับปรุงการออกแบบตัวแปรสำหรับคลัสเตอร์และสาระ แบบสัดส่วนอันตรายค็อกซ์ถูกใช้เพื่อระบุอิทธิพลของลักษณะพื้นฐานในเรื่องโรคเบาหวานผลการทดสอบทั้งหมดมี p < 0.05 ได้ถือได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ อุบัติการณ์ของ CKD ตาม Kaplan – มุนเช่นใช้เส้นโค้งในเรื่องโรคเบาหวานที่มี/ไม่ มีจริงกิจกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2.2 การวิเคราะห์ทางสถิติข้อมูลที่ได้แสดงเป็นค่าเฉลี่ย± SD น้ำหนักการวิเคราะห์ที่ใช้บังคับ Stata 11.0, ถูกนำไปใช้เพื่อปรับการออกแบบตัวแปรสำหรับการจัดกลุ่มและการแบ่งชั้น Cox อันตรายสัดส่วนรูปแบบถูกนำมาใช้เพื่อระบุอิทธิพลของลักษณะพื้นฐานในเรื่องโรคเบาหวาน. ผลการทดสอบทั้งหมดที่มี p <0.05 ได้รับการพิจารณาให้เป็นนัยสำคัญทางสถิติ. อุบัติการณ์ของโรคไตวายเรื้อรังขึ้นอยู่กับ Kaplan-Meier โค้งถูกนำมาใช้ในวิชาที่เป็นโรคเบาหวานด้วย / ไม่มีทางกายภาพกิจกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2.2 . สถิติวิเคราะห์

ข้อมูลแสดงเป็นค่าเฉลี่ย± S.D . ใช้วิเคราะห์น้ำหนัก Language 11.0 ถูกใช้เพื่อปรับเปลี่ยนตัวแปรการออกแบบ
สำหรับการแบ่งกลุ่ม และ . ผู้ป่วยที่สำคัญต่อรูปแบบเพื่อศึกษาอิทธิพลของลักษณะพื้นฐานของผู้ป่วยเบาหวานในคน

ผลการทดสอบทั้งหมด ( p < 0.05 ) ถือว่ามีนัยสำคัญทางสถิติ
อุบัติการณ์ของ CKD จาก Kaplan – Meier
โค้งใช้ในคนเบาหวานมี / ไม่มีกิจกรรมทางกาย