AbstractIn the present study, modif

Abstract
In the present study, modification of cassava starch was carried out by carboxy methyl cellulose along with sodium alginate followed by dry heating at 130 °C for 2–4 h. The purpose of starch modification using natural ingredients was to study the characteristics which are indicators of broader application of starch otherwise achieved by chemical modifications of being considered non-natural. Physicochemical, pasting, thermal and morphological characteristics are chosen to explore the effect of modification on starch. Water and oil binding capacities as well as paste clarity increased whereas solubility and swelling power decreased significantly due to modification with hydrocolloids and dry heating. Pasting characteristics such as peak and final viscosities increased significantly with carboxy methyl cellulose and dry heating both, whereas with sodium alginate similar effect was admitted only after dry heating. The setback and breakdown of starch was also controlled significantly due to modification. Modification had a negative significant effect on thermal properties of starch such as To, Tp, Te and ΔH. Scanning electron micrographs revealed some surface cracking due to heat treatment which got diminished after prolonged heating and gum addition. Starch granules got agglomerated as a result of gum addition and initial heating because of leaching of amylose as well as due to decreased granule interspacing but the effect was reversed upon further heating. Granules cluster formation and agglomeration was more pronounced in carboxy methyl cellulose modification as compared to sodium alginate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อในการศึกษา เปลี่ยนแปลงของแป้งมันสำปะหลังถูกดำเนินการ โดยเซลลูโลสเมทิลคาร์บ๊อกซี่พร้อมกับโซเดียมแอลจิเนตด้วยความร้อนแห้งที่ 130 ° C สำหรับ 2 – 4 ชั่วโมง วัตถุประสงค์ของการปรับเปลี่ยนแป้งที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติคือการ ศึกษาลักษณะซึ่งเป็นตัวชี้วัดของการประยุกต์ใช้แป้งอย่างอื่น ทำได้ โดยการปรับเปลี่ยนสารเคมีถูกถือว่าไม่ธรรมชาติกว้าง ลักษณะทางเคมีกายภาพ วาง ความร้อน และสัณฐานจะเลือกที่จะสำรวจผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงบนแป้ง น้ำ และน้ำมันรวมกำลังการผลิต ตลอดจนวางความคมชัดเพิ่มขึ้นใน ขณะที่ละลายและบวมพลังงานลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกับเจ้าแห้งร้อน วางลักษณะเช่นจุดสูงสุดและความหนืดสุดท้ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับเซลลูโลสเมทิลคาร์บ๊อกซี่ และแห้งร้อนทั้งสอง ในขณะที่กับโซเดียมแอลจิเนต คล้ายผลเข้าโรงพยาบาลหลังจากแห้งร้อน ความล้มเหลวและแบ่งแป้งถูกถูกควบคุมอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้วย เปลี่ยนแปลงมีผลสำคัญคุณสมบัติทางความร้อนของแป้งเช่นการ Tp, Te และ ΔH การสแกน micrographs อิเล็กตรอนเผยผิวบางแตกเนื่องจากความร้อนที่ได้ลดลงหลังนอกเหนือจากความร้อนและเหงือกเป็นเวลานาน เม็ดแป้งมี agglomerated ผลฝรั่งแห่งนี้ และเริ่มต้นความร้อนเนื่องจากการละลายของอมิ เป็นหนี้ลดลง interspacing เม็ด แต่ผลกลับรายเมื่อความร้อนเพิ่มเติม เม็ดกลุ่มก่อตัว และรวมตัวกันได้เด่นชัดมากขึ้นในคาร์บ๊อกซี่เมธิลเซลลูโลสเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับโซเดียมแอลจิเนต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
ในการศึกษาในปัจจุบันการเปลี่ยนแปลงของแป้งมันสำปะหลังได้ดำเนินการโดยเมธิลเซลลูโลส Carboxy พร้อมกับโซเดียมอัลจิเนตตามด้วยความร้อนแห้งที่ 130 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 2-4 ชั่วโมง วัตถุประสงค์ของการปรับเปลี่ยนแป้งโดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อศึกษาลักษณะซึ่งเป็นตัวชี้วัดของการประยุกต์ใช้ในวงกว้างของแป้งที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างอื่นโดยการปรับเปลี่ยนทางเคมีของการพิจารณาที่ไม่ใช่ธรรมชาติ ทางเคมีกายภาพ, วาง, ความร้อนและสัณฐานวิทยาลักษณะได้รับการคัดเลือกในการสำรวจผลกระทบของการปรับเปลี่ยนในแป้ง น้ำและน้ำมันความจุที่มีผลผูกพันเช่นเดียวกับการวางความชัดเจนเพิ่มขึ้นในขณะที่อำนาจการละลายและบวมลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการปรับเปลี่ยนด้วยไฮโดรคอลลอยด์และความร้อนแห้ง ลักษณะเช่นการวางสูงสุดและสุดท้ายความหนืดเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับเมธิลเซลลูโลส Carboxy และความร้อนแห้งทั้งในขณะที่มีโซเดียมอัลจิเนตผลที่คล้ายกันเป็นที่ยอมรับเฉพาะหลังจากที่ความร้อนแห้ง ความล้มเหลวและความล้มเหลวของแป้งยังถูกควบคุมอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการปรับเปลี่ยน การปรับเปลี่ยนมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญในทางลบต่อสมบัติทางความร้อนของแป้งเช่น, TP, Te และΔH กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกนเผยให้เห็นพื้นผิวที่แตกบางส่วนเนื่องจากการรักษาความร้อนที่ได้ลดลงหลังจากที่ความร้อนเป็นเวลานานและนอกจากเหงือก เม็ดแป้งที่ได้ agglomerated เป็นผลมาจากการเพิ่มเหงือกและทำความร้อนเริ่มต้นเนื่องจากการชะล้างของอะไมโลสเช่นเดียวกับการลดลงเนื่องจากเม็ด interspacing แต่ผลที่ได้กลับความร้อนต่อไป การก่อตัวของเม็ดคลัสเตอร์และการรวมตัวกันได้เด่นชัดมากขึ้นในการปรับเปลี่ยนเมธิลเซลลูโลส Carboxy เมื่อเทียบกับโซเดียมอัลจิเนต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อในการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของแป้งคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส ทำโดยพร้อมกับโซเดียมอัลจิเนตตามความร้อนแห้งที่ 130 องศา C 2 – 4 ชั่วโมง วัตถุประสงค์ของการปรับเปลี่ยนแป้ง โดยใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อศึกษาลักษณะที่เป็นตัวชี้วัดของการใช้แป้งอย่างอื่นที่กว้างขึ้นโดยการดัดแปรทางเคมีของการพิจารณา ไม่ธรรมชาติ . เคมีฟิสิกส์ , วาง , ความร้อนและลักษณะจะถูกเลือกเพื่อศึกษาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงของแป้ง น้ำกับน้ำมันผูกความสามารถตลอดจนวางความชัดเจนเพิ่มขึ้นในขณะที่การละลายและกำลังการพองตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากการปรับเปลี่ยนด้วยไฮโดรคอลลอยด์และความร้อนแห้ง ลักษณะ เช่น ความหนืดสูงสุดและความหนืดสุดท้ายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญกับคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสและแห้งความร้อนทั้งสอง ส่วนโซเดียมอัลจิเนตที่คล้ายกันผลเป็นที่ยอมรับเท่านั้น หลังจากความร้อนแห้ง ความล้มเหลวและการแบ่งแป้งยังควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการปรับเปลี่ยน การเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อสมบัติทางความร้อนของแป้งเช่น , TP , Te . กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบสแกน และΔเปิดเผยบางพื้นผิวแตกร้าวเนื่องจากการรักษาความร้อนที่ได้ลดลงหลังจากความร้อนเป็นเวลานาน นอกจากเหงือก เม็ดแป้งมี agglomerated เป็นผลบวกเหงือกและความร้อนเบื้องต้นเพราะการละลายของอะไมโลส เช่นเดียวกับ เนื่องจากเม็ด interspacing ลดลงแต่ผลก็กลับเมื่อความร้อนต่อไป กลุ่มการพัฒนาและการเม็ดเด่นชัดมากขึ้นในคาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลสดัดแปลง เมื่อเปรียบเทียบกับโซเดียมอัลจิเนต .