Occupational Injury Mortality Rates

Occupational Injury Mortality Rates in the United States:
Changes from 1980 to 1989

To identify worker groups that have experienced the greatest reduction in risk of death on the job and those for which occupational injury prevention efforts are most needed, this study examines changes in occupational injury mortality rates over the 1980s by demographic characteristics, industry, and cause of death.

Rates for each characteristic by year are displayed in tables to facilitate assessment and interpretation of rate magnitude and differentials. Death certificates capture an average of 81% of fatal occupational injuries,9 so both the numbers and the rates of deaths presented here are conservative.

The National Traumatic Occupational Fatalities surveillance system, a nationwide, death certificate-based census of deaths resulting from injuries at work, was the source of data for this study. Case subjects in the surveillance system meet the following criteria: 16 years of age or older, an external cause of death, and the injury-at-work item on the certificate marked "yes." Methods and details of this surveillance system have been well described. Because no single source of employment data provides information on demographic, geographic, and employment characteristics of workers, occupational mortality rates were computed with several different sources of denominator data. Rates for demographic characteristics (sex, race, age) were calculated with annual average employment data published by the Bureau. of Labor Statistics from household surveys.Rates for Standard Industrial Classification industry sectors and cause-of-death groups were computed with data from County Business Pattems, supplemented with data from the Census of Agriculture for agricultural production and from the Bureau of Labor Statistics household survey for public administration. Military cases were excluded because comparable denominator data were lacking. All rates presented here are annual average rates per 100000 civilian workers ([annual number of deaths/annual number employed] x 100000). Percentage of change in rates from 1980 to 1989 are presented for demographic, employment, and cause-of-death groups.

Rates for each characteristic by year are displayed in tables to facilitate assessment and interpretation of rate magnitude and differentials. Death certificates capture an average of 81% of fatal occupational injuries, so both the numbers and the rates of deaths presented here are conservative.

Discussion

In nearly every demographic and employment sector of the US workforce,the rate at which workers were killed on the job decreased over the 1980s. Unfortunately, surveillance data cannot specify which of various factors contributed to this decline. Many changes have taken place in the workforce over the decade. In addition to changes in work practices and environments, including increased regulations and hazard awareness, other factors, such as new technology and mechanization, and changes in the economy, the industrial mix, and the distribution of the workforce, may also affect rates. For example, as employment shifts toward retail and service industries, which have inherently lower fatality rates, overall and demographic-specific fatality rates would be expected to decline. However, we also see declining industry-specific rates, which control for sectoral shifts, so it appears that workplaces are becoming safer, whether by design or by chance. Among the total US population, the rate of deaths from injury declined by 16% from 1980 to 1989,10 compared with a 37% decrease in the work-related injury death rate. We must continue to monitor these trends and design studies that identify correlates and causal factors contributing to them. This study provides data that are useful for the efficient targeting of prevention resources. Prevention of workplace injuries and deaths should capitalize on efforts both within and outside the occupational safety arena. For example, injury prevention measures that have been developed by public safety organizations are often applicable to, and have been implemented in, the workplace. Such measures include motor vehicle injury prevention efforts such as requiring seat belt use, providing vehicles with airbags and antilock brakes, and prohibiting alcohol or illicit drug use; educational campaigns designed to alert the public to safety hazards, such as efforts by power companies and other groups to warn the general population about the dangers of overhead power lines; and crime prevention efforts developed by the criminology community, which are applicable because the vast majority of workplace homicides are related to other crimes such as robbery. In fact, current studies of crime prevention through environmental design in retail settings show promise in the prevention of workplace homicide. In short, efficientand successful occupational injury prevention programs should take advantage of prevention strategies developed for public safety.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัตราการตายบาดเจ็บอาชีวในสหรัฐอเมริกา:
เปลี่ยนจากปี 1980 ถึงปี 1989

ระบุกลุ่มผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ลดเสี่ยงตายในงานและผู้ที่บาดเจ็บอาชีวพยายามที่สุดจำเป็นที่สุด การศึกษานี้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในอัตราการตายบาดเจ็บอาชีวผ่านไฟต์ โดยลักษณะทางประชากร อุตสาหกรรม และสาเหตุของความตาย

ราคาสำหรับแต่ละลักษณะตามปีจะแสดงในตารางเพื่อให้ง่ายต่อการประเมินและตีความ differentials และขนาดอัตราการ รับรองตายจับเฉลี่ย 81% ของการบาดเจ็บอาชีวร้ายแรง 9 ดังนั้นจำนวนและอัตราตายที่นำเสนอมีความคิดอนุรักษ์นิยม

ระบบการเฝ้าระวังที่ชาติผู้อาชีวเจ็บปวด การทั่วประเทศ บ้านใบรับรองตายตายเกิดจากบาดเจ็บที่ทำงาน เป็นแหล่งของข้อมูลสำหรับการศึกษานี้ เรื่องกรณีในระบบเฝ้าระวังตามเกณฑ์ต่อไปนี้: 16 ปีอายุ สาเหตุภายนอกการตาย และรายการงานที่บาดเจ็บบนใบรับรองเครื่องหมาย "ใช่" วิธีการและรายละเอียดของระบบรักษาความปลอดภัยนี้ได้อธิบายไว้อย่างดี เนื่องจากไม่มีแหล่งเดียวของข้อมูลการจ้างงานให้ข้อมูลเกี่ยวกับประชากร ภูมิศาสตร์ และลักษณะจ้างแรงงาน อัตราการตายอาชีวถูกคำนวณ ด้วยตัวหารข้อมูลหลายแหล่งแตกต่างกัน มีคำนวณราคาสำหรับลักษณะทางประชากร (เพศ เชื้อชาติ อายุ) กับข้อมูลการจ้างงานเฉลี่ยประจำปีเผยแพร่ โดยสำนัก สถิติแรงงานจากการสำรวจครัวเรือนราคาพิเศษสำหรับการจัดประเภทอุตสาหกรรมมาตรฐานอุตสาหกรรมและกลุ่มของสาเหตุของความตายถูกคำนวณ ด้วยข้อมูลจาก Pattems ธุรกิจเขต เสริม ด้วยข้อมูล จากสำมะโนเกษตรสำหรับการผลิตทางการเกษตร และ จากการสำรวจครัวเรือนสำนักงานสถิติแรงงานการบริหารราชการ กรณีทหารถูกคัดออกเนื่องจากขาดตัวหารสามารถเปรียบเทียบข้อมูลได้ ราคาที่แสดงเป็นราคาเฉลี่ยปีละ 100000 คนพลเรือน ([ปีจำนวนเสียชีวิต/ปีหมายเลข] x 100000) แสดงเปอร์เซ็นต์ของการเปลี่ยนแปลงในราคา 1980 ถึงปี 1989 สำหรับประชากร จ้างงาน และกลุ่มของสาเหตุของความตาย

ราคาสำหรับแต่ละลักษณะตามปีจะแสดงในตารางเพื่อให้ง่ายต่อการประเมินและตีราคาขนาดและ differentials รับรองตายจับเฉลี่ย 81% ของการบาดเจ็บร้ายแรงอาชีว ดังนั้นจำนวนและอัตราตายที่นำเสนอมีความคิดอนุรักษ์นิยม

สนทนา

ในเกือบทุกทางประชากร และภาคการจ้างงานของแรงงานสหรัฐอเมริกาอัตราที่คนถูกฆ่าตายในงานลดลงกว่าไฟต์ ข้อมูลเฝ้าระวังอับ ไม่สามารถระบุปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่วนนี้ลดลง เปลี่ยนแปลงได้นำการในแรงกว่าทศวรรษ นอกจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมและการปฏิบัติงาน รวมทั้งกฎระเบียบเพิ่มขึ้นและตระหนักถึงอันตราย ปัจจัยอื่น ๆ เทคโนโลยีใหม่ และ mechanization และการเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจ ผสมอุตสาหกรรม และการกระจายของแรง อาจมีผลกระทบต่อราคา ตัวอย่าง เป็นงาน กะไปขายปลีก และบริการ อุตสาหกรรม ซึ่งมีอัตราผิวความล่าง โดยรวม และอัตราประชากรเฉพาะผิวจะสามารถคาดว่าจะลดลง อย่างไรก็ตาม เรายังเห็นลดลงราคาเฉพาะอุตสาหกรรม การควบคุมในรายสาขากะ ดังนั้นปรากฏว่า ดังกลายเป็นปลอดภัย ว่า โดยออกแบบ หรือโดยบังเอิญ ในสหรัฐอเมริกาประชากร อัตราการตายจากการบาดเจ็บลดลง 16% จากปี 1980 ถึง 1989,10 เมื่อเทียบกับ 37% ลดในอัตราตายบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เราต้องทำการตรวจสอบแนวโน้มเหล่านี้ และการออกแบบการศึกษาที่ระบุสัมพันธ์กับและปัจจัยเชิงสาเหตุไป การศึกษานี้นำเสนอข้อมูลที่มีประโยชน์มีประสิทธิภาพเป้าหมายป้องกันทรัพยากร ป้องกันการเสียชีวิตและบาดเจ็บที่ทำงานควรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ในความพยายามทั้งภายใน และ นอกเวทีความปลอดภัยอาชีว ตัวอย่าง มาตรการป้องกันการบาดเจ็บที่ได้รับการพัฒนา โดยองค์กรความปลอดภัยมักใช้กับ และใช้ใน สถานทำงาน มาตรการดังกล่าวรวมถึงความพยายามป้องกันการบาดเจ็บรถเช่นต้องใช้เข็มขัด บริการยานพาหนะกับถุงลมนิรภัยเบรค antilock และห้ามแอลกอฮอล์หรือใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย การส่งเสริมการศึกษาที่ออกแบบมาเพื่อเตือนประชาชนถึงอันตราย เช่นความพยายามโดยบริษัทพลังงานและกลุ่มอื่น ๆ เตือนประชากรทั่วไปเกี่ยวกับอันตรายของสายจ่ายไฟฟ้า และความพยายามป้องกันอาชญากรรมพัฒนาชุมชนอาชญาวิทยา ซึ่งจะสามารถใช้ได้เนื่องจาก homicides ที่ทำงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอื่นเช่นปล้น อันที่จริง การศึกษาปัจจุบันของการป้องกันอาชญากรรมโดยออกแบบสิ่งแวดล้อมในการตั้งค่าขายปลีกแสดงสัญญาในการป้องกันการทำฆาตกรรม ในระยะสั้น โปรแกรมป้องกันการบาดเจ็บการอาชีพที่ประสบความสำเร็จ efficientand ควรใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ป้องกันพัฒนาความปลอดภัยสาธารณะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาชีวอนามัยการบาดเจ็บการเสียชีวิตในประเทศสหรัฐอเมริกา:
การเปลี่ยนแปลงจากปี 1980 ถึง 1989

เพื่อระบุคนงานกลุ่มที่มีประสบการณ์ที่มากที่สุดในการลดความเสี่ยงของการเสียชีวิตในงานและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บซึ่งอาชีวอนามัยการป้องกันความพยายามเป็นอย่างมากที่ต้องการให้การศึกษานี้จะตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงในอาชีวอนามัยการบาดเจ็บมากกว่าอัตราการตายที่ 1980 s โดยลักษณะทางประชากร,อุตสาหกรรม,และเป็นสาเหตุให้เกิดการตาย.

อัตราค่าบริการสำหรับลักษณะเฉพาะแต่ละคนโดยปีนี้จะแสดงผลในโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การตีความและการประเมินผลการปฏิบัติงานของความแตกต่างและความสำคัญอัตรา ใบรับรองการตายถ่าย ภาพ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 81% ของการเกิดเหตุอาชีวอนามัย injuries, 9 ดังนั้นหมายเลขที่และอัตราการตายมานำเสนอทั้งสองเป็นแนวอนุรักษ์นิยม.

ระบบการตรวจจับ fatalities อาชีวอนามัยแห่งชาติเป็นแผลที่ใบรับรองการตายทุกสาขาทั่วประเทศ - ใช้การสำรวจสำมะโนประชากรของการเสียชีวิตเกิดจากการบาดเจ็บในที่ทำงานเป็นแหล่งที่มาของข้อมูลสำหรับการศึกษาวิจัยนี้ กรณีวัตถุในระบบการตรวจจับที่มีคุณสมบัติตามเกณฑ์ต่อไปนี้: 16 ปีหรือมากกว่าทำให้ ภายนอก ของความตายและได้รับบาดเจ็บรายการที่ทำงานบนใบรับรองที่ถูกทำเครื่องหมาย"ใช่"วิธีการและรายละเอียดของระบบการตรวจจับแห่งนี้ได้รับการตกแต่งเป็นอย่างดีตามที่อธิบายไว้เนื่องจากไม่มีแหล่งที่มาของข้อมูลการจ้างงานคนเดียวจะให้ข้อมูลในลักษณะการจ้างงานและในทาง ภูมิศาสตร์ ประชากรเชิงสถิติอัตราการตายของคนงานอาชีวอนามัยได้คำนวณด้วยจากแหล่งที่แตกต่างกันหลายตัวหารของข้อมูล อัตราค่าบริการสำหรับลักษณะทางประชากร(อายุการแข่งขันทางเพศ)ได้คำนวณด้วยข้อมูลการจ้างงานโดยเฉลี่ยเผยแพร่โดยสำนักจากสถิติของแรงงานในครัวเรือนจากการสำรวจ.อัตราดอกเบี้ยสำหรับมาตรฐานอุตสาหกรรมการแบ่ง ประเภท อุตสาหกรรม ภาค ธุรกิจและเป็นสาเหตุให้เกิด - ของความตายกลุ่มได้คำนวณด้วยข้อมูลจากเขตธุรกิจ pattems ,และเสริมด้วยข้อมูลจากการสำรวจสำมะโนประชากรของการเกษตรเพื่อการผลิตสินค้าเกษตรและจากสำนักของแรงงานในครัวเรือนสถิติการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนการบริหารงาน.กรณีทหารถูกแยกออกเนื่องจากข้อมูลมีส่วนเท่ากันก็ขาด อัตราค่าบริการทั้งหมดมานำเสนอเป็นอัตราเฉลี่ยต่อปีต่อ 100000 คนงานพลเรือน([หมายเลขประจำปีของจำนวนการเสียชีวิต/ใช้] x 100000 ) เปอร์เซ็นต์ของการเปลี่ยนแปลงในอัตราค่าบริการจากปี 1980 ถึงปี 1989 มีการแสดงสำหรับการจ้างงานประชากรเชิงสถิติและกลุ่มทำให้มีการตาย.

อัตราค่าบริการสำหรับลักษณะเฉพาะแต่ละคนโดยปีนี้จะแสดงผลในโต๊ะเพื่ออำนวยความสะดวกแก่การตีความและการประเมินผลการปฏิบัติงานของความแตกต่างและอัตราดอกเบี้ย ใบรับรองการตายถ่าย ภาพ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 81% ของการบาดเจ็บของอาชีวอนามัยร้ายแรงดังนั้นตัวเลขที่และอัตราการตายมานำเสนอทั้งสองเป็นแนวอนุรักษ์นิยม.



ชุดประชุมในเกือบทุก ภาค การจ้างงานประชากรและพนักงานของเราได้อัตราที่คนงานถูกฆ่าตายในการทำงานลดลงมากกว่า 1980 s เป็นที่น่าเสียดายว่าข้อมูลการตรวจจับไม่สามารถระบุซึ่งจากปัจจัยต่างๆทำให้การลดลงนี้ การเปลี่ยนแปลงจำนวนมากเกิดขึ้นในที่ทำงานในช่วงสิบปีที่ ในการเพิ่มการเปลี่ยนแปลงใน สภาพแวดล้อม และการปฏิบัติงานรวมถึงการตระหนักถึงอันตรายจากการและกฎระเบียบเพิ่มขึ้นปัจจัยอื่นๆเช่นเทคโนโลยีใหม่และ mechanization และการเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจที่อุตสาหกรรมแบบผสมผสานและการกระจายของพนักงาน ภาค สนามได้อาจจะส่งผลกระทบต่ออัตราดอกเบี้ยยัง ตัวอย่างเช่นในการจ้างงานกะไปทางอุตสาหกรรมค้าปลีกและการบริการที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยหมายความว่าคนตายโดยเหตุวิบัติคนตายโดยเหตุวิบัติโดยรวมและประชากรเฉพาะคาดว่าจะลดลง แต่ถึงอย่างไรก็ตามนอกจากนั้นเรายังดูอัตราดอกเบี้ยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ลดลงสำหรับการควบคุมเคลื่อนย้ายสาขาต่างๆดังนั้นจึงปรากฏว่าพนักงานชั่วคราวมีการเพิ่มความ ปลอดภัย มากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะโดยการออกแบบหรือโดยบังเอิญ ในประชากรเราทั้งหมดที่อัตราการตายจากการได้รับบาดเจ็บลดลง 16% จากปี 1980 ถึง 1989,10 เมื่อเทียบกับการลดลง 37% ในอัตราการตายได้รับบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับงานนั้นเราจะต้องดำเนินการต่อเพื่อติดตามแนวโน้มนี้และการศึกษาการออกแบบซึ่งระบุว่าปัจจัยแบบสบายๆและเชื่อมโยงการสนับสนุนเขา การศึกษานี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างมี ประสิทธิภาพ ของทรัพยากรการป้องกัน การป้องกันการเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บในที่ทำงานจะทำให้ตัวอักษรเป็นตัวพิมพ์ใหญ่ในความพยายามทั้ง ภายใน และนอกสนามด้านความ ปลอดภัย อาชีวอนามัยได้ ตัวอย่างเช่นมาตรการการป้องกันการบาดเจ็บที่ได้รับการพัฒนาขึ้นโดยองค์กรความ ปลอดภัย ในที่สาธารณะมักเป็นที่มีผลบังคับใช้และมีการนำมาใช้ในการทำงานได้ มาตรการดังกล่าวรวมถึงความพยายามในการป้องกันการเกิดการบาดเจ็บรถยนต์เช่นต้องใช้เข็มขัดนิร ภัย แบบให้รถที่มีถุงลมนิร ภัย ระบบเบรกและ antilock และห้ามใช้ยาเถื่อนหรือแอลกอฮอล์แคมเปญการศึกษาการออกแบบมาเพื่อเตือนประชาชนให้ทราบถึงความ ปลอดภัย เช่นว่านั้นเป็นความพยายามของบริษัทพลังงานและกลุ่มอื่นๆในการเตือนประชาชนโดยทั่วไปเกี่ยวกับอันตรายที่สายไฟฟ้าแรงสูงและความพยายามในการป้องกันการก่ออาชญากรรมซึ่งพัฒนาโดยชุมชนอาชญาวิทยาซึ่งมีผลบังคับใช้เพราะส่วนใหญ่จะ homicides สถานที่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมอื่นๆเช่นการปล้นชิงทรัพย์ ในความเป็นจริงแล้วการศึกษาในปัจจุบันของการป้องกันอาชญากรรมผ่านการออกแบบทางด้านสิ่งแวดล้อมในการตั้งค่าการค้าปลีกแสดงสัญญาในการป้องกันของฆาตกรรมในที่ทำงาน ในระยะสั้นหลักสูตรการป้องกันการบาดเจ็บอาชีวอนามัย efficientand ประสบความสำเร็จควรจะได้รับประโยชน์จากการพัฒนากลยุทธ์การป้องกันเพื่อความ ปลอดภัย สาธารณะ