Overall, Mexico has grown rich. Its

Overall, Mexico has grown rich. Its $1.578 trillion economy is the world's eleventh-largest, up from fifteenth place 15 years ago. Trade volume has nearly tripled since the NAFTA, from $52 billion to $161 billion in 2003, placing Mexico ahead of Britain, South Korea and Spain as a trading power (Smith and Lindbland, 2003; Jordan and Sullivan, 2003). Over the same time, the number of poor in Mexico has increased.2 Over half (54%) of the Mexican population is
poor, and this proportion is unchanged since the early 1980s. Given the increase in population from 70 to 100 million over the same peri- od, 16 million more Mexicans are living in poverty than 20 years ago. More worrying, about 24 million people, nearly one in every four Mexicans, are classified as extremely poor and unable to afford ade- quate food (Jordan and Sullivan, 2003). Income inequality and pover- ty levels in Mexico remain the highest across the OECD. These poverty and income inequality levels are one and a half times higher than in a typical OECD country and twice as high as in low-inequality coun- tries, such as Denmark (OECD, 2008). Furthermore, most of those who are extremely poor live in rural areas. As a result between 400 and 600 people a day are packing up and migrating to cities or to the United States (Jordan and Sullivan, 2003). The situation is even more dire for those families who are not easily mobile, and the increasing income disparity has arguably led to social unrest (de Palma, 1996).
Economic output varies sharply by region. Following Chiquiar
(2008), we begin by dividing Mexico into 4 regions i) the Border Region, being states that border the United States; ii) the Center; iv) the capital (Mexico City and surroundings); and v) the South (see Fig. 1). Fig. 2 shows the Gross Value Added (GVA) in real pesos by region. In the first year, GVA in Mexico City is higher than in the other regions, with the border states and the south lagging behind. However, we see growth slowing in Mexico City after NAFTA, while other regions continue to expand.
The growth of GVA before and after NAFTA is illustrated in Fig. 3. The map showing growth from 1980 to 85 (panel a) illustrates that a larger number of regionally-diverse municipalities grew more than 100% before NAFTA. By contrast, in 1998 to 2003, high growth is more concentrated in clusters along the US-Mexico Border (panel
b). Some of the clusters that can be seen in the post-NAFTA map are Chihuahua, Saltillo, and Monterrey. One can clearly identify the areas of low growth in the south and more rapid growth in the north. Note that these maps also indicate that growth is by no means homogenous within a state. Therefore, considering these data by mu- nicipality allows us to more accurately discern the patterns of economic activity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยรวม เม็กซิโกจนรวย เศรษฐกิจของ $1.578 ล้านล้านเป็นโลกสิบเอ็ดที่ใหญ่ ขึ้นจาก fifteenth 15 ปีที่ผ่านมา ปริมาณการค้ามีเกือบสามเท่าตั้งแต่ NAFTA จาก 52 พันล้านเหรียญไป 161 พันล้านเหรียญใน 2003 วางเม็กซิโกก่อนสหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และสเปนเป็นพลังงานค้า (สมิธและ Lindbland, 2003 Jordan และซัลลิแวน 2003) ช่วงเวลาเดียวกัน จำนวนคนจนในประเทศเม็กซิโกได้ increased.2 กว่าครึ่งหนึ่ง (54%) ของประชากรเม็กซิกันยากจน และสัดส่วนนี้ได้ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 ให้การเพิ่มขึ้นของประชากรจาก 70 ถึง 100 ล้านเดียว peri od, Mexicans มากกว่า 16 ล้านอาศัยอยู่ในความยากจนกว่า 20 ปีที่ผ่านมา กังวล ประมาณ 24 ล้านคน เกือบหนึ่งใน Mexicans ทุกสี่ อย่างน้อย classified เป็นยากจนมาก และไม่สามารถจ่าย ade quate อาหาร (Jordan และซัลลิแวน 2003) ระดับ pover ty และความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ในเม็กซิโกยังคงสูงสุดอยู่ระหว่างโอ ระดับความไม่เท่าเทียมกันเหล่านี้รายได้และความยากจนเป็นหนึ่ง และครึ่งครั้งสูงกว่าในประเทศ OECD ทั่วไป และสองสูงในอสมการต่ำประเทศและพยายาม เช่นเดนมาร์ก (OECD, 2008) นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ของผู้ที่มีฐานะยากจนมากอาศัยอยู่ในชนบท ดังนั้น ระหว่าง 400 และ 600 วันได้จัดขึ้นและการย้ายเมือง หรือสหรัฐอเมริกา (Jordan และซัลลิแวน 2003) สถานการณ์จะเลวร้ายยิ่งสำหรับครอบครัวเหล่านั้นที่ไม่ได้เคลื่อนที่ได้ และ disparity รายได้เพิ่มได้ว่านำไปสังคม (เดอพาลม่า 1996)ผลทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วโดยเรียงตามภูมิภาคแตกต่างกันไป Chiquiar ต่อไปนี้(2008), เราเริ่มต้น โดยเม็กซิโกแบ่งเป็น 4 ภาคฉัน) บริเวณเส้นขอบ ถูกรัฐที่ชายแดนสหรัฐอเมริกา ii ศูนย์) iv ทุน) (เม็กซิโกซิตีและสภาพแวดล้อม), และ v) ภาคใต้ (ดู Fig. 1) Fig. 2 แสดงการรวมมูลค่าเพิ่ม (เบิร์น) ใน pesos จริงโดยเรียงตามภูมิภาค ในปี first เบิร์นในเม็กซิโกซิตี้ได้สูงกว่าในภูมิภาคอื่น ๆ อเมริกาขอบและใต้ lagging อยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม เราดูช้าเม็กซิโกซิตี้หลังจาก NAFTA ในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ ต่อไปเพื่อขยายการเจริญเติบโตมีแสดงการเจริญเติบโตของเบิร์นก่อน และหลัง จาก NAFTA ใน Fig. 3 แผนที่แสดงการเจริญเติบโตจากปี 1980 ถึง 85 (แผงตัว) แสดงว่า จำนวนที่เทศบาลเรื่องหลากหลายเติบโตมากกว่า 100% ก่อน NAFTA โดยคมชัด ในปี 1998 ถึง 2003 เติบโตสูงจะยิ่งเข้มข้นตลอดแนวชายแดนสหรัฐฯ เม็กซิโก (แผงขการของคลัสเตอร์ที่สามารถเห็นได้ในแผนที่ลง NAFTA มี Chihuahua, Saltillo และมอนเตอร์เรย์ นอกจากนี้หนึ่งชัดเจนสามารถระบุพื้นที่เจริญเติบโตต่ำสุดในภาคใต้และการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นในภาคเหนือ โปรดสังเกตว่า แผนที่เหล่านี้ยังบ่งชี้ว่า การเติบโตโดยไม่ให้ภายในรัฐ ดังนั้น พิจารณาข้อมูลเหล่านี้ โดยหมู่-nicipality ช่วยให้เราแยกแยะรูปแบบของกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยรวม, เม็กซิโกมีการเติบโตที่อุดมไปด้วย 1578000000000 $ เศรษฐกิจของมันคือโลกที่ใหญ่เป็นอันดับที่สิบเอ็ดขึ้นจากไฟ fteenth สถานที่ 15 ปีที่ผ่านมา ปริมาณการค้าได้เกือบเท่าตัวตั้งแต่ NAFTA จาก 52000000000 $ ไป $ 161,000,000,000 ในปี 2003 วางเม็กซิโกข้างหน้าของสหราชอาณาจักรเกาหลีใต้และสเปนเป็นอำนาจการซื้อขาย (สมิ ธ และ Lindbland 2003; จอร์แดนและซัลลิแวน, 2003) ในช่วงเวลาเดียวกันจำนวนของคนยากจนในเม็กซิโกได้ increased.2 กว่าครึ่งหนึ่ง (54%)
ของประชากรชาวเม็กซิกันเป็นที่น่าสงสารและสัดส่วนนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ1980 ได้รับการเพิ่มขึ้นของประชากร 70-100 ล้านกว่าชานเมืองเดียวกัน od ที่ 16 ล้านขึ้นมีชาวเม็กซิกันที่อาศัยอยู่ในความยากจนกว่า 20 ปีที่ผ่านมา กังวลมากขึ้นประมาณ 24 ล้านคนเกือบหนึ่งในสี่ของชาวเม็กซิกันจะจัดประเภทเป็นที่น่าสงสารมากและไม่สามารถที่จะจ่ายอาหาร quate ade- (จอร์แดนและซัลลิแวน, 2003) ความไม่เท่าเทียมกันในระดับรายได้และไท pover- ในเม็กซิโกยังคงสูงที่สุดในกลุ่มประเทศ OECD เหล่านี้ความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันในระดับรายได้เป็นหนึ่งเท่าครึ่งที่สูงกว่าในประเทศโออีซีดีทั่วไปและสูงเป็นสองเท่าในขณะที่ความไม่เท่าเทียมกันต่ำประเทศต่างก็พยายามเช่นเดนมาร์ก (OECD, 2008) นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของผู้ที่มีความสดที่ยากจนมากในพื้นที่ชนบท เป็นผลให้ระหว่าง 400 และ 600 คนต่อวันจะบรรจุขึ้นและย้ายไปยังเมืองหรือไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา (จอร์แดนและซัลลิแวน, 2003) สถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายมากขึ้นสำหรับครอบครัวผู้ที่ไม่ได้ถือได้อย่างง่ายดายและความเหลื่อมล้ำของรายได้ที่เพิ่มขึ้นได้นำไปสู่เนื้อหาที่จะไม่สงบทางสังคม (de Palma, 1996).
ผลผลิตทางเศรษฐกิจแตกต่างกันไปอย่างรวดเร็วตามภูมิภาค ต่อไปนี้ Chiquiar
(2008) เราจะเริ่มโดยการหารเม็กซิโกเป็น 4 ภูมิภาค i) เขตชายแดนเป็นรัฐที่ชายแดนสหรัฐอเมริกา; ii) ศูนย์; iv) ทุน (เม็กซิโกซิตี้และสภาพแวดล้อม); และ V) ภาคใต้ (ดูรูปที่ 1). มะเดื่อ. 2 แสดงค่ามวลรวมเพิ่ม (GVA) ในเปโซจริงตามภูมิภาค ไฟในปีแรกที่ GVA ในเม็กซิโกซิตี้เป็นราคาที่สูงกว่าในภูมิภาคอื่น ๆ กับรัฐชายแดนภาคใต้และล้าหลัง แต่เราจะเห็นการเติบโตชะลอตัวในกรุงเม็กซิโกซิตี้หลังจากที่นาฟต้าในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆ ยังคงขยายตัว.
การเจริญเติบโตของ GVA ก่อนและหลังนาฟต้าจะแสดงในรูปที่ 3. แผนที่แสดงการเจริญเติบโต 1980-85 (แผง) แสดงให้เห็นว่าจำนวนมากของเทศบาลในระดับภูมิภาคที่มีความหลากหลายเพิ่มขึ้นกว่า 100% ก่อนที่จะ NAFTA ในทางตรงกันข้ามในปี 1998 ปี 2003 อัตราการเติบโตสูงเป็นความเข้มข้นมากขึ้นในกลุ่มตามแนวชายแดนสหรัฐเม็กซิโก
(แผงข) บางส่วนของกลุ่มที่สามารถมองเห็นในแผนที่การโพสต์ NAFTA เป็นชิวาวา, ซัลตีโยและมอนเตร์เร หนึ่งอย่างชัดเจนสามารถระบุพื้นที่ของการเจริญเติบโตที่ต่ำในภาคใต้และการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นในภาคเหนือ โปรดทราบว่าแผนที่เหล่านี้ยังระบุว่าการเจริญเติบโตโดยไม่มีหมายถึงคุณสมบัติเหมือนกันภายในรัฐ ดังนั้นเมื่อพิจารณาข้อมูลเหล่านี้โดย nicipality MU- ช่วยให้เราสามารถมองเห็นได้อย่างถูกต้องมากขึ้นรูปแบบของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โดยรวม , เม็กซิโกมีการเติบโตที่อุดมไปด้วย เศรษฐกิจ $ 1.578 ล้านล้านเป็นส่วนที่ใหญ่ที่สุดของโลก จาก fteenth จึงเกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ปริมาณการค้าที่เพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า ตั้งแต่ NAFTA จาก 52 $ พันล้านเพื่อ $ 161 ล้าน ใน 2003 วางเม็กซิโก ก่อน อังกฤษ เกาหลี และสเปนเป็นอำนาจการซื้อขาย ( สมิ ธและ lindbland , 2003 ; จอร์แดนและซัลลิแวน , 2003 ) ในช่วงเวลาเดียวกันจำนวนคนยากจนในเม็กซิโกได้เพิ่มขึ้น 2 กว่าครึ่ง ( 54% ) ของประชากรเม็กซิกันมี
ยากจนและสัดส่วนนี้ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1980 ได้รับการเพิ่มขึ้นของประชากรจาก 70 ถึง 100 ล้านกว่าเหมือนกันรอบจาก 16 ล้านกว่าเม็กซิกันอาศัยอยู่ในความยากจนกว่า 20 ปีมาแล้ว กังวลเพิ่มเติม ประมาณ 24 ล้านคน เกือบหนึ่งในทุกสี่พวกเม็กซิกันเป็น classi จึงเอ็ดเป็นสิ่งไม่ดี และไม่สามารถไป - quate อาหาร ( จอร์แดนและซัลลิแวน , 2003 ) ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ และ pover - ระดับไทในเม็กซิโกยังคงสูงที่สุดใน OECD . ความยากจนและความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ระดับเหล่านี้เป็นหนึ่งเท่าครึ่ง สูงกว่าในประเทศ OECD โดยทั่วไป และสูงเป็นสองเท่าใน coun - ความเหลื่อมล้ำน้อยครั้ง เช่น เดนมาร์ก ( OECD , 2008 ) นอกจากนี้ส่วนใหญ่ของผู้ที่แสนยากจน อาศัยอยู่ในชนบท ผลระหว่าง 400 และ 600 คนวันบรรจุและย้ายไปยังเมืองหรือสหรัฐอเมริกา ( จอร์แดนและซัลลิแวน , 2003 ) สถานการณ์จะน่ากลัวมากขึ้นทั้งสำหรับครอบครัวที่ไม่เคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย และเพิ่มรายได้อย่างมีมากขึ้น นำไปสู่ความไม่สงบทางสังคม ( de Palma , 1996 ) .
ผลผลิตทางเศรษฐกิจแตกต่างกันอย่างมากตามภูมิภาค ต่อไปนี้ chiquiar
( 2551 ) เราเริ่มต้นด้วยการแบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาคเม็กซิโก ) แดนถูกรัฐชายแดนสหรัฐอเมริกา ; 2 ) ศูนย์ ; 4 ) เมืองหลวง ( เมืองเม็กซิโก และสภาพแวดล้อม ) ; V ) เกาหลีใต้ ( ดูรูปที่ 1 ) รูปที่ 2 แสดงมูลค่ารวมเพิ่ม ( GVA ) จริงเปโซตามภูมิภาค ในจึงตัดสินใจเดินทางไปปีGVA ในเม็กซิโกที่สูงกว่าในภูมิภาคอื่น ๆ กับรัฐชายแดนและภาคใต้ล้าหลัง แต่เราเห็นการเจริญเติบโตช้า ในเม็กซิโกหลังจากนาฟต้า ในขณะที่ภูมิภาคอื่น ๆยังคงขยายตัว .
การเจริญเติบโตของ GVA ก่อนและหลัง นาฟตาจะแสดงในรูปที่ 3แผนที่แสดงการเติบโตจากปี 1980 ถึง 85 ( แผง ) พบว่า ตัวเลขขนาดใหญ่ของภูมิภาคหลากหลายเทศบาลเติบโตมากกว่า 100% นาฟตาก่อน . โดยคมชัด , ปี 2003 , การเจริญเติบโตสูงมีความเข้มข้นมากขึ้นในกลุ่ม รวมทั้งเราเม็กซิโกชายแดน ( แผง
b ) บางส่วนของกลุ่มที่สามารถเห็นได้ในกระทู้นาฟตาแผนที่ Chihuahua , Saltillo , ที่ .หนึ่งอย่างชัดเจนสามารถระบุพื้นที่ที่มีการเจริญเติบโตในภาคใต้และเติบโตอย่างรวดเร็วมากในภาคเหนือ ทราบว่าแผนที่นี้ยังชี้ให้เห็นว่า การไม่ยึดเกาะภายในรัฐ ดังนั้น เมื่อพิจารณาข้อมูลเหล่านี้ โดย มู - nicipality ให้ถูกต้องแยกแยะรูปแบบของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ