The early history of Ford Motor Com

The early history of Ford Motor Company illustrates one of Henry Ford’s most important talents—an ability to identify and attract outstanding people. He hired a core of young, able men who believed in his vision and would make Ford Motor Company into one of the world’s great industrial enterprises. The new company’s first car, called the Model A, was followed by a variety of improved models. In 1907 Ford’s four-cylinder, $600 Model N became the best selling car in the country. But by this time Ford had a bigger vision: a better, cheaper “motorcar for the great multitude.” Working with a hand-picked group of employees he came up with the Model T, introduced on October 1, 1908.

The Model T was easy to operate, maintain, and handle on rough roads. It immediately became a huge success. Ford could easily sell all he could make; but he wanted to make all he could sell. Doing that required a bigger factory. In 1910 the company moved into a huge new plant in Highland Park, Michigan, just north of Detroit. There Ford Motor Company began an relentless drive to increase production and lower costs. Henry and his team borrowed concepts from watch makers, gun makers, bicycle makers, and meat packers, mixed them with their own ideas and by late 1913 they had developed a moving assembly line for automobiles. But Ford workers objected to the never-ending, repetitive work on the new line. Turnover was so high that the company had to hire 53,000 people a year to keep 14,000 jobs filled. Henry responded with his boldest innovation ever—in January 1914 he virtually doubled wages to $5 per day.

At a stroke he stabilized his workforce and gave workers the ability to buy the very cars they made. Model T sales rose steadily as the price dropped. By 1922 half the cars in America were Model Ts and a new two-passenger runabout could be had for as little as $269.

In 1919, tired of “interference” from the other investors in the company, Henry determined to buy them all out. The result was several new Detroit millionaires and a Henry Ford who was the sole owner of the world’s largest automobile company. Ford named his 26-year old son Edsel as president, but it was Henry who really ran things. Absolute power did not bring wisdom, however.

Success had convinced him of the superiority of his own intuition, and he continued to believe that the Model T was the car most people wanted. He ignored the growing popularity of more expensive but more stylish and comfortable cars like the Chevrolet, and would not listen to Edsel and other Ford executives when they said it was time for a new model.

By the late 1920s even Henry Ford could no longer ignore the declining sales figures. In 1927 he reluctantly shut down the Model T assembly lines and began designing an all new car. It appeared in December of 1927 and was such a departure from the old Ford that the company went back to the beginning of the alphabet for a name—they called it the Model A.

The new car would not be produced at Highland Park. In 1917 Ford had started construction on an even bigger factory on the Rouge River in Dearborn, Michigan. Iron ore and coal were brought in on Great Lakes steamers and by railroad. By 1927, all steps in the manufacturing process from refining raw materials to final assembly of the automobile took place at the vast Rouge Plant, characterizing Henry Ford’s idea of mass production. In time it would become the world’s largest factory, making not only cars but the steel, glass, tires, and other components that went into the cars.

Henry Ford’s intuitive decision making and one-man control were no longer the formula for success. The Model A was competitive for only four years before being replaced by a newer design. In 1932, at age 69 Ford introduced his last great automotive innovation, the lightweight, inexpensive V8 engine. Even this was not enough to halt his company’s decline. By 1936 Ford Motor Company had fallen to third place in the US market, behind both General Motors and Chrysler Corporation.

In addition to troubles in the marketplace, Ford experienced troubles in the workplace. Struggling during the Great Depression, Ford was forced to lower wages and lay off workers. When the United Auto Workers Union tried to organize Ford Motor Company, Henry wanted no part of such “interference” in running his company. He fought back with intimidation and violence, but was ultimately forced to sign a union contract in 1941.

When World War II began in 1939 Ford, who always hated war, fought to keep the United States from taking sides. But after the Japanese attack on Pearl Harbor Ford Motor Company became one of the major US military contractors, supplying airplanes, engines, jeeps and tanks.

The influence of the aging Henry Ford, however, was declining. Edsel Ford died in 1943 and two year later Henry officially turned over control of the company to Henry II, Edsel’s son. Henry I retired to Fair Lane, his estate in Dearborn, where he died on April 7, 1947 at age 83.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติศาสตร์ยุคแรกของฟอร์ดมอเตอร์ บริษัทแสดงหนึ่งสำคัญที่สุดของเฮนรีฟอร์ด — ความสามารถในการระบุ และการดึงดูดคนดี เขาจ้างงานหลักของหนุ่ม ได้คนที่เชื่อในวิสัยทัศน์ของเขา และจะทำให้ฟอร์ดมอเตอร์ บริษัทเป็นหนึ่งในองค์กรอุตสาหกรรมยอดเยี่ยมของโลก รถแรกของบริษัทใหม่ เรียกว่ารุ่น A ถูกตาม ด้วยหลากหลายรูปแบบปรับปรุง ใน 8 ธันวาคมพ.ศ. 2450 ฟอร์ด สี่สูบ N $600 รุ่นกลายเป็น ขายรถในประเทศที่ดีที่สุด แต่เวลานี้ ฟอร์ดก็มองใหญ่: การดีกว่า ราคาถูกกว่า "motorcar สำหรับความหลากหลายดี" ทำงานกับมือรับกลุ่มพนักงานเขามา ด้วยรูปแบบ เปิดตัว 1 ตุลาคม ค.ศ. 1908เทียบกับรูปแบบงานง่าย รักษา และจัดการบนถนนที่ขรุขระได้ ทันทีกลายเป็นความสำเร็จอย่างมาก ฟอร์ดได้ขายทั้งหมดที่เขาสามารถทำให้ แต่จะต้องทำทั้งหมดที่เขาขาย การทำโรงงานขนาดใหญ่ที่จำเป็น ใน 1910 บริษัทย้ายไปโรงงานใหม่ขนาดใหญ่ในไฮแลนด์พาร์ค มิชิแกน รื่นรมย์ดีทรอยต์ มีฟอร์ดมอเตอร์ บริษัทเริ่มขับรถ relentless การเพิ่มการผลิตและต้นทุนต่ำ เฮนรีและแนวคิดจากผู้ผลิตนาฬิกา ผลิตปืน ผู้ผลิตจักรยาน และเนื้อ จุด ทีมยืมเขาผสมพวกเขากับความคิดของตนเอง และ โดยปลายค.ศ. 1913 เขาได้พัฒนาขึ้นสายการประกอบแบบเคลื่อนไหวสำหรับรถยนต์ แต่แรงงานฟอร์ด objected งานผืน ซ้ำบนบรรทัดใหม่ หมุนเวียนสูงว่า บริษัทมีการจ้างงาน 53,000 คนปีให้กรอกงาน 14000 เฮนรี่ตอบ ด้วยนวัตกรรมมากเขาเคย — ใน 1914 มกราคม เขาแทบสองเท่าค่าจ้างไป $5 ต่อวันสมองเขาจึงเสถียรแรงงานของเขา และให้คนสามารถซื้อรถยนต์มากที่พวกเขาทำ รุ่น T ขายกุหลาบเป็นราคาที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง โดย 1922 รถครึ่งในอเมริกาถูกรุ่น Ts และ runabout เป็นสองผู้โดยสารใหม่อาจจะได้สำหรับน้อยได้ตาม $269ในค.ศ. 1919 เบื่อ "คลื่นแทรก" จากผู้อื่นในบริษัท เฮนรี่กำหนดซื้อออกทั้งหมด ผลมีหลายใหม่ดีทรอยต์ millionaires และเฮนรีฟอร์ดผู้เป็นเจ้าของบริษัทรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 26 - ปีบุตร Edsel เป็นประธานชื่อว่าฟอร์ด แต่ก็เฮนรี่ที่วิ่งสิ่งจริง ๆ อำนาจไม่ได้นำภูมิปัญญา อย่างไรก็ตามความสำเร็จมีความเชื่อมั่นของปมของสัญชาตญาณของเขาเอง และเขายังคงเชื่อว่า T รุ่นเป็นรถที่คนส่วนใหญ่ต้อง เขาละเว้นความนิยมเติบโตของราคาแพงมากขึ้นแต่รถยนต์ที่ทันสมัย และสะดวกสบายมากขึ้นเช่นเชฟโรเลต และจะไม่ฟัง Edsel และอื่น ๆ ผู้บริหารฟอร์ดเมื่อพวกเขากล่าวว่า มันเป็นเวลาสำหรับรูปแบบใหม่โดยปลายปี 1920 แม้เฮนรีฟอร์ดไม่สามารถละเว้นยอดขายลดลง ใน 1927 เขาเต็มใจปิด T รุ่นไลน์ และเริ่มออกแบบตัวรถใหม่ทั้งหมด ในเดือน 1927 ธันวาคม และถูกทางเช่นจากฟอร์ดเก่าที่บริษัทกลับไปจุดเริ่มต้นของตัวอักษรชื่อ — พวกเขาเรียกว่าอ.จำลองไม่ต้องผลิตรถยนต์ใหม่ไฮแลนด์พาร์ค ใน 1917 ฟอร์ดได้เริ่มก่อสร้างในโรงงานยิ่งใหญ่บนแม่น้ำแดงในเดียร์ มิชิแกน แร่ เหล็กและถ่านหินถูกนำใน steamers เกรตเลกส์ และ โดยทางรถไฟ โดย 1927 ขั้นตอนทั้งหมดในกระบวนการผลิตจากการกลั่นวัตถุดิบการประกอบขั้นสุดท้ายของรถยนต์เอาสถานที่โรงงานแดงใหญ่ กำหนดลักษณะของความคิดของเฮนรีฟอร์ดผลิตจำนวนมาก ในเวลาที่มันจะกลายเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำไม่เพียงแต่รถยนต์ แต่เหล็ก กระจก ยาง และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่เดินเข้าไปในรถยนต์เฮนรีฟอร์ดตัดสินใจง่ายและควบคุม one-man ก็มีสูตรความสำเร็จ แบบ A มีแข่งขันเพียงสี่ปีก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยการออกแบบใหม่ ในปี 1932 ที่อายุ 69 ฟอร์ดแนะนำของเขาสุดท้ายดียานยนต์นวัตกรรม น้ำหนักเบา ราคาไม่แพงในเครื่องยนต์ V8 นี้ไม่เพียงพอที่จะหยุดลดลงของบริษัทของเขา โดย 1936 ฟอร์ดมอเตอร์ บริษัทได้ตกลงที่สามในตลาดสหรัฐอเมริกา หลังมอเตอร์และไครสเลอร์ คอร์ปอเรชั่นนอกจากปัญหาในตลาด ฟอร์ดประสบปัญหาในทำงาน ดิ้นรนในภาวะซึมเศร้ามาก ฟอร์ดถูกบังคับให้ลดค่าจ้าง และลอยแพคนงาน เมื่อสหรัฐอัตโนมัติแรงงานสหภาพพยายามจัดระเบียบ บริษัทรถยนต์ฟอร์ด เฮนรี่ต้องไม่มีส่วนใดเช่น "สัญญาณรบกวน" ในการทำงานของบริษัท เขาสู้กลับ ด้วยการข่มขู่และความรุนแรง แต่ในที่สุดได้ถูกบังคับให้ลงนามในสัญญาร่วมใน 1941เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่ม 1939 ฟอร์ด ที่จะเกลียดชังสงคราม สู้เพื่อให้สหรัฐอเมริกาจากด้าน ใน แต่หลัง จากญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ฟอร์ดมอเตอร์บริษัทเป็นหนึ่งในหลักสหรัฐอเมริกาทหารผู้รับเหมา จัดหาเครื่องบิน เครื่องยนต์ รถจี๊ป และรถถังอิทธิพลของเฮนรีฟอร์ด ริ้วรอย แต่ถูกลง ฟอร์ด Edsel เสียชีวิต 1943 และสองปีต่อมาเฮนรีแห่งเปิดเหนือการควบคุมของบริษัทเฮนรี่ II บุตรของ Edsel ผมถอนไปแฟร์เลน เดียร์ ที่เขาตายบน 7 เมษายน 1947 ที่อายุ 83 นิคมเขาเฮนรี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติศาสตร์แรกของฟอร์ดมอเตอร์ บริษัท แสดงให้เห็นถึงหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดของเฮนรี่ฟอร์ดความสามารถ-ความสามารถในการระบุและดึงดูดผู้คนที่โดดเด่น เขาจ้างหลักของหนุ่มคนที่สามารถที่เชื่อในวิสัยทัศน์ของเขาและจะทำให้ บริษัท ฟอร์ดมอเตอร์เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในโลกที่ดี รถคันแรกของ บริษัท ใหม่ที่เรียกว่ารุ่น, ตามมาด้วยหลากหลายของรูปแบบที่ดีขึ้น ในปี 1907 ฟอร์ดสี่สูบ 600 $ รุ่น N กลายเป็นรถที่ขายดีที่สุดในประเทศ แต่ในเวลานี้ฟอร์ดมีวิสัยทัศน์ที่ใหญ่กว่า ". รถยนต์สำหรับฝูงชนจำนวนมาก" ดีกว่าถูกกว่าการทำงานกับกลุ่มมือหยิบของพนักงานเขามากับรุ่น T แนะนำวันที่ 1 ตุลาคม 1908 เป็นรุ่น T ง่ายต่อการทำงานในการดูแลรักษาและการจัดการบนถนนขรุขระ มันทันทีกลายเป็นความสำเร็จอย่างมาก ฟอร์ดได้อย่างง่ายดายสามารถขายทุกอย่างที่เขาจะทำให้; แต่เขาอยากจะทำทุกอย่างที่เขาสามารถขาย ที่จำเป็นต้องทำโรงงานขนาดใหญ่ ในปี 1910 บริษัท ได้ย้ายไปอยู่ที่โรงงานแห่งใหม่มากในไฮแลนด์พาร์คมิชิแกนเหนือของดีทรอยต์ มี บริษัท รถยนต์ฟอร์ดเริ่มไดรฟ์อย่างไม่หยุดยั้งเพื่อเพิ่มการผลิตและค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่า เฮนรี่และทีมงานของเขาแนวคิดที่ยืมมาจากผู้ผลิตนาฬิกา, เครื่องชงปืน, ผู้ผลิตจักรยานและแบ่งบรรจุเนื้อผสมพวกเขาด้วยความคิดของตัวเองและในช่วงปลาย 1913 พวกเขามีการพัฒนาการย้ายสายการผลิตสำหรับรถยนต์ แต่คนงานฟอร์ดคัดค้านการที่ไม่มีที่สิ้นสุด, ทำงานซ้ำในบรรทัดใหม่ มูลค่าการซื้อขายสูงเพื่อให้ บริษัท มีการจ้าง 53,000 คนต่อปีเพื่อให้งานที่เต็มไป 14,000 เฮนรี่ตอบโต้ด้วยนวัตกรรมล้นพ้นของเขาที่เคยในมกราคม 1914 เขาแทบสองเท่าค่าจ้างถึง $ 5 ต่อวัน. ในจังหวะที่เขามีความเสถียรแรงงานของเขาและให้คนงานความสามารถในการซื้อรถยนต์ที่พวกเขาทำ รูปแบบการขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง T ราคาปรับตัวลดลง โดยครึ่งหนึ่งของ 1,922 คันในอเมริการุ่น Ts และคลำสองผู้โดยสารใหม่อาจจะมีให้น้อยที่สุดเท่าที่ $ 269. ในปี 1919 เบื่อ "แทรกแซง" จากนักลงทุนอื่น ๆ ใน บริษัท เฮนรี่ตัดสินใจที่จะซื้อพวกเขาทั้งหมดออก ผลที่ได้คือเศรษฐีใหม่หลายดีทรอยต์และเฮนรี่ฟอร์ดผู้เป็นเจ้าของ แต่เพียงผู้เดียวของ บริษัท รถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฟอร์ดชื่อเก่า 26 ปีลูกชายของเขา Edsel เป็นประธาน แต่มันก็เป็นเฮนรี่ที่จริงสิ่งที่วิ่ง อำนาจไม่ได้นำภูมิปัญญาอย่างไร. ที่ประสบความสำเร็จได้เชื่อว่าเขาเหนือกว่าของสัญชาตญาณของเขาเองและเขายังคงเชื่อว่ารุ่น T เป็นรถที่คนส่วนใหญ่ต้องการ เขาไม่สนใจความนิยมเพิ่มขึ้นของรถยนต์ราคาแพงมากขึ้น แต่ทันสมัยมากขึ้นและสะดวกสบายเช่นเดียวกับเชฟโรเลตและจะไม่ฟัง Edsel และผู้บริหารฟอร์ดอื่น ๆ เมื่อพวกเขากล่าวว่ามันเป็นเวลาสำหรับรูปแบบใหม่. โดยช่วงปลายปี ค.ศ. 1920 แม้เฮนรี่ฟอร์ดไม่สามารถละเลย ตัวเลขยอดขายลดลง ในปี 1927 เขาอย่างไม่เต็มใจปิดสายการประกอบโมเดลทีและเริ่มการออกแบบรถยนต์ใหม่ทั้งหมด มันปรากฏตัวขึ้นในเดือนธันวาคม 1927 และเป็นเช่นเดินทางออกจากฟอร์ดเก่าที่ บริษัท เดินกลับไปที่จุดเริ่มต้นของตัวอักษรสำหรับชื่อที่พวกเขาเรียกมันว่ารุ่น A. รถใหม่จะไม่ได้รับการผลิตในไฮแลนด์พาร์ค ฟอร์ดในปี 1917 ได้เริ่มก่อสร้างโรงงานที่ยิ่งใหญ่บนแม่น้ำ Rouge เดียร์บอร์นมิชิแกน แร่เหล็กและถ่านหินที่ถูกนำมาในเรือกลไฟที่ Great Lakes และทางรถไฟ โดยปี 1927 ทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตจากการกลั่นวัตถุดิบเพื่อการประกอบขั้นสุดท้ายของรถยนต์ที่เกิดขึ้นที่โรง Rouge ใหญ่พัฒนาการความคิดที่เฮนรี่ฟอร์ดของการผลิตมวล ในเวลาที่มันจะกลายเป็นโรงงานใหญ่ที่สุดในโลกทำให้ไม่เพียง แต่รถยนต์เหล็ก, แก้ว, ยางและส่วนประกอบอื่น ๆ ที่เข้าไปในรถ. การตัดสินใจที่ใช้งานง่ายเฮนรี่ฟอร์ดและการควบคุมคนเดียวไม่ได้อยู่สูตรสำหรับความสำเร็จ รุ่นการแข่งขันเพียงสี่ปีก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยการออกแบบใหม่ ในปี 1932 ตอนอายุ 69 ฟอร์ดแนะนำนวัตกรรมยานยนต์ครั้งสุดท้ายของเขาที่ดีน้ำหนักเบาเครื่องยนต์ V8 ราคาไม่แพง แม้เรื่องนี้จะไม่เพียงพอที่จะหยุดการลดลงของ บริษัท ของเขา 1936 โดยฟอร์ดมอเตอร์ บริษัท ได้ลดลงไปยังสถานที่ที่สามในตลาดสหรัฐที่อยู่เบื้องหลังทั้งเนอรัลมอเตอร์และไครสเลอร์คอร์ปอเรชั่น. นอกเหนือจากปัญหาในตลาดฟอร์ดมีประสบการณ์ปัญหาในที่ทำงาน ดิ้นรนในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ฟอร์ดถูกบังคับให้ค่าจ้างที่ลดลงและเลิกจ้างคนงาน เมื่อสหภาพแรงงานยูไนเต็ดออโตพยายามที่จะจัดระเบียบฟอร์ดมอเตอร์ บริษัท เฮนรี่อยากเป็นส่วนหนึ่งของ "แทรกแซง" ดังกล่าวในการทำงานของ บริษัท ของเขา เขาต่อสู้กลับมาพร้อมกับการข่มขู่และความรุนแรง แต่ถูกบังคับในท้ายที่สุดที่จะเซ็นสัญญาในปี 1941 สหภาพเมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มในปี 1939 ฟอร์ดที่เกลียดอยู่เสมอสงครามต่อสู้เพื่อให้ประเทศสหรัฐอเมริกาจากการด้าน แต่หลังจากที่ญี่ปุ่นโจมตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ฟอร์ดมอเตอร์ บริษัท กลายเป็นหนึ่งในผู้รับเหมาทหารสหรัฐที่สำคัญการจัดหาเครื่องบินเครื่องยนต์รถจี๊ปและรถถัง. อิทธิพลของริ้วรอยเฮนรี่ฟอร์ด แต่ถูกลดลง Edsel ฟอร์ดเสียชีวิตในปี 1943 และอีกสองปีต่อมาเฮนรี่อย่างเป็นทางการหันเหนือการควบคุมของ บริษัท ในการที่สองเฮนรี่ลูกชายของ Edsel เฮนรี่ฉันออกไปแฟร์เลนที่ดินของเขาในเดียร์บอร์ที่เขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 7 เมษายน 1947 ที่อายุ 83

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติศาสตร์ยุคแรกของฟอร์ดมอเตอร์ บริษัท แสดงให้เห็นถึงหนึ่งของเฮนรี่ ฟอร์ด ที่สำคัญที่สุด ความสามารถ ความสามารถในการระบุและดึงดูดผู้คนที่โดดเด่น เขาจ้าง หลัก ของ เด็ก สามารถ คนที่เชื่อในวิสัยทัศน์ของเขา และจะทำให้ฟอร์ดมอเตอร์ บริษัท เป็นหนึ่งในสถานประกอบการอุตสาหกรรมที่ยิ่งใหญ่ของโลก บริษัทใหม่รถคันแรก , ชื่อรุ่น , ตามความหลากหลายของรุ่นปรับปรุงใน 1907 ฟอร์ดสี่กระบอก , $ 600 รุ่น N เป็นดีที่สุดขายรถยนต์ในประเทศ แต่ครั้งนี้ ฟอร์ดมีวิสัยทัศน์ที่ใหญ่กว่า : ดีกว่า , ถูกกว่า " รถยนต์สำหรับประชาชนที่ดี " ทำงานกับมือเลือกกลุ่มของพนักงานเขามากับรุ่น T , เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 1908 .

T รุ่นถูกใช้งานง่าย รักษา และจัดการบนถนนขรุขระมันก็ประสบความสำเร็จ ฟอร์ดสามารถขายทั้งหมดที่เขาทำ แต่เขาต้องการที่จะทำทั้งหมดที่ขายได้ าเป็นโรงงานใหญ่ 1910 บริษัทย้ายไปโรงงานใหม่ขนาดใหญ่ใน Highland Park , Michigan , ทางเหนือของดีทรอยต์ มีบริษัทฟอร์ดมอเตอร์เริ่มไดรฟ์อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนเฮนรี่และทีมงานของเขาได้ยืมแนวคิดจากผู้ผลิต , ดูปืนผู้ผลิต , ผู้ผลิตจักรยาน เป็นเนื้อผสมกับความคิดของตัวเองและโดยสาย 1913 พวกเขาได้พัฒนาย้ายสายการประกอบสำหรับรถยนต์ แต่พนักงานฟอร์ดคัดค้านไม่มีที่สิ้นสุด ทำงานซ้ำ ๆในบรรทัดใหม่ การหมุนเวียนสูงมาก จนบริษัทต้องจ้างร้อยละคนต่อปีเพื่อให้ 14 , 000 งานเต็มเฮนรี่ตอบกับนวัตกรรม boldest ของเขาที่เคยในมกราคม 2457 เขาเกือบสองเท่าค่าจ้าง $ 5 ต่อวัน

ที่จังหวะเขามีพนักงานของเขาและให้คนงานความสามารถในการซื้อรถยนต์มากที่พวกเขาทำ รุ่น T ขายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่ราคาปรับตัวลดลง โดย 1922 ครึ่งคันในอเมริกาและ TS รุ่นใหม่ 2 ผู้โดยสาร รันอะเบาท์อาจได้สำหรับน้อยได้ตาม $ 269 .

1919เหนื่อยกับการ " แทรกแซง " จากนักลงทุนอื่น ๆใน บริษัท เฮนรี่ตัดสินใจที่จะซื้อพวกเขาทั้งหมดออก ผลที่ได้คือเศรษฐีใหม่ดีทรอยต์หลายและเฮนรี่ ฟอร์ด ที่เป็นเจ้าของ แต่เพียงผู้เดียวของบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก ฟอร์ดชื่อของเขา อายุ 26 ปี ลูกชาย เซล เป็นประธาน แต่เป็นเฮนรี่ที่วิ่งๆ อำนาจไม่ได้นำมาซึ่งปัญญา อย่างไรก็ตาม

ความสำเร็จก็เชื่อว่าเขาเหนือกว่าสัญชาตญาณของเขาเอง และเขายังเชื่อว่า โมเดล ทีเป็นรถที่คนส่วนใหญ่ต้องการ เขาละเว้นความนิยมเติบโตของราคาแพงมากขึ้น แต่มีสไตล์มากขึ้นและสะดวกสบาย รถยนต์เชฟโรเลตและไม่ยอมฟังเซล และผู้บริหารฟอร์ดอื่น ๆเมื่อพวกเขากล่าวว่ามันเป็นเวลาสำหรับรูปแบบใหม่

โดยปลาย 1920s แม้ว่า เฮนรี่ ฟอร์ด จะไม่ละเว้น เนื่องจากตัวเลขยอดขาย 1927 เขาไม่เต็มใจปิดรุ่น T สายการประกอบและเริ่มออกแบบใหม่ทั้งหมด รถ มันปรากฏในธันวาคม 1927 และเป็นเช่นจากเดิมของฟอร์ด บริษัท กลับไปที่จุดเริ่มต้นของตัวอักษรสำหรับชื่อที่พวกเขาเรียกมันว่าแบบ A .

รถใหม่จะไม่สามารถผลิตใน ไฮแลนด์พาร์ค ในปี 1917 ฟอร์ด ได้เริ่มก่อสร้างในโรงงานใหญ่ในแม่น้ำสีแดงใน Dearborn , Michigan แร่เหล็กและถ่านหินถูกนำมาในที่ Great Lakes และนึ่งโดยรถไฟ โดยปี ทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตจากกระบวนการกลั่นวัตถุดิบการประกอบขั้นสุดท้ายของรถยนต์เกิดขึ้นที่โรงงานสีแดงมากลักษณะของเฮนรี่ ฟอร์ด แนวคิดของการผลิตมวล ในเวลาที่มันจะกลายเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดของโลก ทำให้ไม่ใช่แค่รถ แต่เหล็ก , แก้ว , ยาง , และส่วนประกอบอื่น ๆ ที่เข้าไปในรถ ก็

เฮนรี่ ฟอร์ด ใช้งานง่าย การตัดสินใจและการควบคุมของไม่มีสูตรสำหรับความสำเร็จ แบบการแข่งขันเพียง 4 ปี ก่อนที่จะถูกแทนที่ด้วยการออกแบบใหม่ใน พ.ศ. 2475 เมื่ออายุ 69 ฟอร์ดเปิดตัวนวัตกรรมยานยนต์ล่าสุดของเขาที่ดี , น้ำหนักเบา เครื่องยนต์ V8 ที่ไม่แพง นี้ยังไม่เพียงพอที่จะหยุดการลดลงของบริษัท โดย 1936 ฟอร์ดมอเตอร์ บริษัทได้ลดลงไปยังสถานที่ที่สามในตลาดสหรัฐฯ หลังทั้ง General Motors ไครสเลอร์ คอร์ปอเรชั่น

นอกจากปัญหาในตลาด ฟอร์ด ที่มีปัญหาในการทำงาน