Principle 3. Use of a Nonjudgmental

Principle 3. Use of a Nonjudgmental Approach: Clinicians
more effectively support patient self-management when they
provide evidence-based information with a nonjudgmental
approach. Vogt et al. conducted a systematic review examining
the attitudes of general practitioners (GPs) and family physicians
toward smoking cessation.29 A “sizeable minority” held
negative beliefs about talking to their patients about smoking
cessation, in the belief that it was “too time-consuming” (42%)
and ineffective (38%), and 22% lacked the confidence to discuss
smoking with their patients. The authors concluded that
interventions led by primary care physicians would be more
effective if their own negative beliefs were addressed.
Motivational interviewing is a directive counseling approach
that explicitly avoids contradicting or judging a client.30 Dunn
et al. found that there was substantial evidence that motivational
interviewing led to improved outcomes for patients with substance
abuse and promising, yet inconclusive, evidence for its
efficacy in HIV risk, diet/exercise, and smoking cessation.18 A
meta-analysis of 72 studies revealed a significant effect for motivational
interviewing for body mass index, total blood cholesterol,
systolic blood pressure, and blood alcohol concentration
but not for A1C or the number of cigarettes per day.31

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลัก 3 ใช้วิธี Nonjudgmental: Clinicians
เพิ่มเติมสนับสนุนจัดการผู้ป่วยด้วยตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อพวกเขา
ให้หลักฐานข้อมูลกับการ nonjudgmental
วิธีการ Vogt et al. ดำเนินการตรวจสอบทบทวนระบบ
ทัศนคติผู้ทั่วไป (GPs) และแพทย์ครอบครัว
ไปสูบบุหรี่ cessation.29 "สำหรับผู้พิการชนกลุ่มน้อย" จัด
ลบความเชื่อเกี่ยวกับการพูดคุยกับผู้ป่วยของพวกเขาเกี่ยวกับบุหรี่
ยุติ ในความเชื่อที่ว่า เป็น "เวลาเกินไป" (42%)
และผล (38%), และ 22% ขาดความเชื่อมั่นเพื่อหารือเกี่ยวกับ
สูบบุหรี่กับผู้ป่วยของพวกเขา ผู้เขียนสรุปที่
นำ โดยแพทย์ที่ดูแลรักษาจะเพิ่มเติม
มีประสิทธิภาพถ้าได้อยู่ในความเชื่อของตนเองลบ.
สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวหัดเป็นคำสั่งที่ให้คำปรึกษาวิธี
ที่ชัดเจนหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง หรือตัดสิน client.30 ดันน์
et al. พบว่า มีหลักฐานพบว่าหัด
สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัวนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับผู้ป่วยที่มีสาร
ละเมิดและสัญญา ยัง inconclusive หลักฐานการของ
ประสิทธิภาพในเอชไอวีความเสี่ยง อาหาร/ออกกำลังกาย และบุหรี่ cessation.18 A
meta-analysis ของศึกษา 72 เปิดเผยผลสำคัญสำหรับหัด
สัมภาษณ์ข้อมูลส่วนตัว ดัชนีมวลกายรวมไขมันในเลือด,
ความดันโลหิต systolic และความเข้มข้นของแอลกอฮอล์เลือด
แต่ไม่ใช่ สำหรับ A1C หรือจำนวนบุหรี่ต่อ day.31

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลักการที่ 3 ใช้วิธีการแบบ nonjudgmental : แพทย์
ได้อย่างมีประสิทธิภาพสนับสนุนการจัดการตนเองของผู้ป่วยเมื่อพวกเขา
ให้ข้อมูลเชิงประจักษ์ ด้วยวิธีการที่ nonjudgmental

โฟกท์ et al . มีการทบทวนตรวจสอบ
ทัศนคติของแพทย์ทั่วไป ( GPS ) และแพทย์ครอบครัว
ต่อการสูบบุหรี่ cessation.29 " ที่มีชนกลุ่มน้อย
" ขึ้นความเชื่อเชิงลบเกี่ยวกับการพูดคุยกับผู้ป่วยของพวกเขาเกี่ยวกับการเลิกสูบบุหรี่
ในความเชื่อที่ว่ามันเป็น " จ้าง " ( 42% )
แล้วไม่ได้ผล ( 38% ) และ ร้อยละ 22 มีความมั่นใจที่จะหารือ
สูบบุหรี่กับผู้ป่วยของพวกเขา ผู้เขียนสรุปว่า
การแทรกแซงนำโดยแพทย์ดูแลหลักจะเพิ่มประสิทธิภาพถ้าความเชื่อของตัวเอง

ลบแก้ไขแรงจูงใจสัมภาษณ์เป็นคำสั่งที่ปรึกษาแนวทางที่ชัดเจนเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดแย้ง
หรือตัดสิน client.30 ดันน์
et al . พบว่า มีหลักฐานมากมายที่สร้างแรงบันดาลใจ
สัมภาษณ์ทำให้เภสัชกรผู้ป่วยสารเสพติด
และสัญญายังไม่ได้หลักฐานประสิทธิภาพของ
ในความเสี่ยงเอชไอวี , อาหารการออกกำลังกายและการสูบบุหรี่ cessation.18
เป็นการวิเคราะห์อภิมานผลการศึกษาพบ 72 สำหรับแรงจูงใจ
สัมภาษณ์ดัชนีมวลกายรวมคอเลสเตอรอลในเลือด
ความดันโลหิตและความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด
แต่ไม่ใช่สำหรับ A1C หรือจำนวนของบุหรี่ต่อ day.31