Cold War StandardizationKrispy Krem

Cold War Standardization
Krispy Kreme initiated an expansion program in 1946 that included producing the mix at a central plant in Winston-Salem to ensure consistency. In 1948 it opened the plant, which also produced equipment for the stores, and relocated its headquarters to the site (Ivy Avenue). During the 1950s mechanization brought an end to hand-cut doughnuts as the company gradually automated the entire doughnut-making process. By the end of the decade, 29 Krispy Kreme shops in 12 states each had the capacity to produce 500 dozen doughnuts per hour via specialized doughnut-making machines.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สงครามเย็นมาตรฐานคริสปีครีมเริ่มต้นโปรแกรมการขยายตัวในปี 1946 ที่รวมผลิตผสมโรงกลางในวินสตัน-ซาเลมสอดคล้อง ในปี 1948 ก็เปิดโรงงาน ซึ่งยังผลิตอุปกรณ์สำหรับร้านค้า และย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังไซต์ (ไอวี่ Avenue) ในช่วงปี 1950 ทานมาสิ้นสุดถึงมือตัดโดนัทเป็นบริษัทแบบอัตโนมัติการทำโดนัททั้งค่อย ๆ ในตอนท้ายของทศวรรษ 29 สปีร้านค้าใน 12 ชั่วโมงมีกำลังการผลิต 500 โหลโดนัทต่อชั่วโมงผ่านเฉพาะเครื่องทำโดนัท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สงครามเย็นมาตรฐาน
Krispy Kreme ริเริ่มโปรแกรมการขยายตัวในปี 1946 ซึ่งรวมถึงการผลิตผสมที่โรงงานกลางใน Winston-Salem เพื่อให้สอดคล้อง ในปี 1948 มันเปิดโรงงานที่ยังผลิตอุปกรณ์สำหรับร้านค้าและย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังเว็บไซต์ (ไอวี่เวนิว) ในช่วงปี 1950 การใช้เครื่องจักรกลนำสิ้นไปมือตัดโดนัทเป็น บริษัท ที่ค่อยๆอัตโนมัติกระบวนการโดนัททำทั้งหมด ในตอนท้ายของทศวรรษที่ 29 คริสปี้ร้านค้าใน 12 รัฐแต่ละคนมีกำลังการผลิต 500 โหลโดนัทต่อชั่วโมงผ่านเฉพาะเครื่องทำโดนัท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สงครามเย็นมาตรฐานคริสปีครีมริเริ่มขยายโปรแกรมใน 1946 ที่รวมการผลิตผสมที่โรงงานกลางใน Winston Salem เพื่อให้สอดคล้อง . ในปี พ.ศ. 2491 เปิดโรงงานที่ยังผลิตอุปกรณ์สำหรับร้านค้า และย้ายสำนักงานใหญ่ไปยังเว็บไซต์ ( ไอวี่ อเวนิว ) ในช่วงยุค 50 เรื่องให้จบตัดมือโดนัทเป็นโดนัท บริษัท ค่อยๆอัตโนมัติทั้งกระบวนการผลิต ในตอนท้ายของทศวรรษ , 29 คริสปีครีมร้านค้าใน 12 รัฐแต่ละคนมีความสามารถที่จะผลิต 500 โหลโดนัทเครื่องทำโดนัท ต่อชั่วโมงโดยเฉพาะ .