The present study is a first attemp

The present study is a first attempt to examine middle school student reactions to nanotechnology.
In contrast to previous studies dealing with adult attitudes, the present study
revealed that, 74 % of the students had some awareness of nanotechnology even though it
was not included as part of the 6–8th grade learning goals. Studies conducted in America
(Macoubrie 2006; Kahan et al. 2007; Scheufele et al. 2009; Retzbach et al. 2011), in
England (Parr 2005; Pidgeon and Rogers-Hayden 2007) and in Australia (AON 2008),
indicated that public awareness or knowledge of nanotechnology was quite low. Research
has shown, however, that nanotech literacy has no direct impact on attitudes toward
nanotechnology (Cobb and Macoubrie 2004; Scheufele and Lewenstein 2005). Also, Lee
et al. (2005, p. 241), indicate that ‘‘The lack of concrete factual information on the part of
citizens, however, does not necessarily mean that they will not form attitudes about these
new technologies. Rather, citizens will use cognitive shortcuts or heuristics, such as
ideological predispositions or cues from mass media, to form judgments about emerging
technologies.’’ These results show that there is no simple link between factual scientific
knowledge and the acceptance of nanotechnology.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาปัจจุบันเป็นครั้งแรกเพื่อตรวจสอบปฏิกิริยานักเรียนมัธยมกับนาโนเทคโนโลยีตรงข้ามกับผู้ใหญ่ทัศนคติ การศึกษานำเสนอการศึกษาก่อนหน้านี้เปิดเผยว่า 74% ของนักเรียนมีความรู้บางอย่างของนาโนเทคโนโลยีแม้จะไม่รวมเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการเรียนรู้ชั้น 6 – 8 การศึกษาในอเมริกา(Macoubrie 2006 Kahan et al. 2007 Scheufele et al. 2009 Retzbach et al. 2011), ในอังกฤษ (พารร์ 2005 Pidgeon และโรเจอร์สเฮย์เดน 2007) และออสเตรเลีย (2008 ขณะนี้),ระบุว่า ประชาชนได้ตระหนักหรือความรู้ด้านนาโนเทคโนโลยีค่อนข้างต่ำ วิจัยได้แสดงให้เห็น อย่างไรก็ตาม ว่า nanotech สามารถมีผลกระทบโดยตรงไม่เกี่ยวกับเจตคตินาโนเทคโนโลยี (คดและ Macoubrie 2004 Scheufele และ Lewenstein 2005) ยัง ลีal. ร้อยเอ็ด (2005, p. 241), บ่งชี้ว่า '' ขาดข้อมูลเรื่องคอนกรีตส่วนใหญ่ประชาชน ไร หมายความ ว่า พวกเขาจะได้ทัศนคติเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ ค่อนข้าง ประชาชนจะใช้ทางลัดรับรู้หรือลองผิดลองถูก เช่นpredispositions อุดมการณ์หรือสัญลักษณ์จากสื่อมวลชน การตัดสินแบบฟอร์มเกี่ยวกับการเกิดใหม่เทคโนโลยี '' ผลเหล่านี้แสดงว่า มีความเชื่อมโยงอย่างระหว่างเรื่องทางวิทยาศาสตร์ความรู้และการยอมรับของนาโนเทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้เป็นความพยายามครั้งแรกที่จะตรวจสอบปฏิกิริยานักเรียนโรงเรียนกลางนาโนเทคโนโลยี.
ในทางตรงกันข้ามกับการศึกษาก่อนหน้าการจัดการกับทัศนคติของผู้ใหญ่การศึกษานี้แสดงให้เห็นว่า 74% ของนักเรียนมีความตระหนักของนาโนเทคโนโลยีบางอย่างแม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาปี 6-8th การศึกษาดำเนินการในอเมริกา(Macoubrie 2006. Kahan et al, 2007; Scheufele et al, 2009;. Retzbach et al, 2011.) ในประเทศอังกฤษ(พาร์ 2005 นกพิราบและโรเจอร์เฮย์เดน 2007) และในประเทศออสเตรเลีย (AON 2008) ชี้ให้เห็นว่า ความตระหนักของประชาชนหรือความรู้ของนาโนเทคโนโลยีที่ค่อนข้างต่ำ การวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าการอ่านออกเขียนได้ nanotech ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อทัศนคตินาโนเทคโนโลยี(Cobb และ Macoubrie 2004; Scheufele และ Lewenstein 2005) นอกจากนี้ลีet al, (2005, น. 241) แสดงให้เห็นว่า '' การขาดข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริงที่เป็นรูปธรรมในส่วนของประชาชนแต่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะได้รูปแบบทัศนคติเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ แต่ประชาชนจะใช้ทางลัดหรือองค์ความรู้การวิเคราะห์พฤติกรรมเช่นpredispositions อุดมการณ์หรือชี้นำจากสื่อมวลชนในรูปแบบการตัดสินใจเกี่ยวกับที่เกิดขึ้นใหม่เทคโนโลยี. '' ผลลัพธ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างง่ายจริงทางวิทยาศาสตร์ความรู้และการยอมรับของนาโนเทคโนโลยี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพื่อศึกษาปฏิกิริยาของนักเรียนโรงเรียนกลางนาโนเทคโนโลยี .
ในทางตรงกันข้ามกับการศึกษาก่อนหน้านี้ที่เกี่ยวข้องกับทัศนคติผู้ใหญ่
การศึกษาพบว่า 74% ของนักเรียนมีความตระหนักของนาโนเทคโนโลยีแม้ว่า
ไม่ได้รวมเป็นส่วนหนึ่งของ A และเกรด 8 เป้าหมายในการเรียน . การศึกษาในอเมริกา
( macoubrie 2006 ; คาฮัน et al . 2007 ;โชเฟล et al . 2009 ; retzbach et al . 2011 ) ,
อังกฤษ ( พาร์ 2005 ; พิดจิ้นโรเจอร์เฮย์เดนและ 2007 ) และออสเตรเลีย ( อ้อน 2008 ) ,
พบว่า ความตระหนัก หรือความรู้ของนาโนเทคโนโลยีก็ค่อนข้างต่ำ วิจัย
ได้ อย่างไรก็ตาม ทางด้าน ไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อทัศนคติ
นาโนเทคโนโลยี ( คอบ macoubrie 2004 และ 2005 ; โชเฟล และ lewenstein ) นอกจากนี้ ลี
et al . ( 2005หน้า 241 ) ระบุว่า ' ' ไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงคอนกรีตในส่วนของ
ประชาชน อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่สร้างทัศนคติเหล่านี้
เทคโนโลยีใหม่ แต่ประชาชนจะใช้ทางลัดทางปัญญาหรืออักษร เช่น
อุดมการณ์ predispositions หรือตัวชี้นำจากสื่อมวลชนในรูปแบบคำตัดสินเกี่ยวกับ
เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่' ' พบว่าไม่มีการเชื่อมโยงระหว่างข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ง่ายๆ
ความรู้และการยอมรับของนาโนเทคโนโลยี