In the United States governmental e

In the United States governmental entities including cities, counties, states, and the federal government all manage land which are referred to as either public lands or the public domain.

The majority of public lands in the United States are held in trust for the American people by the federal government and managed by the Bureau of Land Management (BLM), the United States National Park Service, Bureau of Reclamation, or the Fish and Wildlife Service under the Department of the Interior, or the United States Forest Service under the Department of Agriculture. Other federal agencies that manage public lands include the National Oceanic and Atmospheric Administration and the United States Department of Defense, which includes the U.S. Army Corps of Engineers.[4]

In general, Congress must legislate the creation of new public lands, such as national parks; however, under the 1906 Antiquities Act, the President may designate new national monuments without congressional authorization.

Each western state also received federal "public land" as trust lands designated for specific beneficiaries, which the States are to manage as a condition to acceptance into the union. Those trust lands cannot any longer be considered public lands as allowing any benefits to the "public" would be in breach of loyalty to the specific beneficiaries. The trust lands (two sections, or about 1,280 acres (5.2 km2) per township) are usually managed extractively (grazing or mining), to provide revenue for public schools. All states have some lands under state management, such as state parks, state wildlife management areas, and state forests.

Wilderness is a special designation for public lands which have been completely undeveloped. The concept of wilderness areas was legislatively defined by the 1964 Wilderness Act. Wilderness areas can be managed by any of the above Federal agencies, and some parks and refuges are almost entirely designated wilderness. A wilderness study area is a tract of land that has wilderness characteristics, and is managed as wilderness, but has not received a wilderness designation from Congress.

Typically each parcel is governed by its own set of laws and rules that explain the purpose for which the land was acquired, and how the land may be used.

Recreation on U.S. public lands
Most state- and federally managed public lands are open for recreational use. Recreation opportunities depend on the managing agency, and run the gamut from the free-for-all, undeveloped wide open spaces of BLM lands to the highly developed and controlled national and state parks. Wildlife refuges and state wildlife management areas, managed primarily to improve habitat, are generally open to wildlife watching, hiking, and hunting, except for closures to protect mating and nesting, or to reduce stress on wintering animals. National forests generally have a mix of maintained trails and roads, wilderness and undeveloped portions, and developed picnic and camping areas.

In an attempt to present a balanced view of the history and uses of America's public lands, two teams trekked the US, from the Canadian and Mexican borders, in a project known as American Frontiers: A Public Lands Journey.

Grazing on U.S. public lands
Historically in the western United States, most public land is leased for grazing by cattle or sheep. This includes vast tracts of National Forest and BLM land, as well as land on Wildlife Refuges. National Parks are the exception. This use became controversial in the late 20th century as it was examined by environmentalists.[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในประเทศสหรัฐอเมริกาหน่วยงานภาครัฐรวมทั้งเมือง, มณฑลรัฐและรัฐบาลกลางทั้งหมดในการจัดการที่ดินที่จะเรียกว่าเป็นทั้งที่ดินสาธารณะหรือโดเมนสาธารณะ.

ส่วนใหญ่ของที่ดินสาธารณะในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีขึ้นในความไว้วางใจสำหรับ คนอเมริกันโดยรัฐบาลกลางและจัดการโดยสำนักจัดการที่ดิน (blm),ประเทศสหรัฐอเมริกาบริการอุทยานแห่งชาติสำนักของการบุกเบิกหรือปลาและสัตว์ป่าให้บริการสังกัดกรมมหาดไทยหรือบริการป่าประเทศสหรัฐอเมริกาภายใต้กรมวิชาการเกษตร หน่วยงานรัฐบาลกลางอื่น ๆ ที่จัดการที่ดินสาธารณะรวมถึงมหาสมุทรแห่งชาติและการบริหารบรรยากาศและฝ่ายสหรัฐอเมริกาของการป้องกันซึ่งรวมถึงเรา. กองกำลังกองทัพของวิศวกร [4]

โดยทั่วไปรัฐสภาต้องออกกฎหมายการสร้างพื้นที่สาธารณะใหม่เช่นสวนสาธารณะแห่งชาติ แต่ภายใต้ 1906 โบราณวัตถุกระทำประธานอาจกำหนดอนุสรณ์สถานแห่งชาติใหม่โดยไม่ต้องอนุมัติรัฐสภา

แต่ละ. รัฐทางตะวันตกยังได้รับของรัฐบาลกลาง "ที่ดินสาธารณะ" เป็นดินแดนที่กำหนดไว้สำหรับความไว้วางใจที่ได้รับผลประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจงที่รัฐจะต้องจัดการตามเงื่อนไขที่จะยอมรับในสหภาพ ดินแดนเหล่านั้นไม่สามารถไว้วางใจได้อีกต่อไปได้รับการพิจารณาว่าเป็นที่ดินสาธารณะให้ผลประโยชน์ใด ๆ กับ "ประชาชน" จะอยู่ในการละเมิดของความจงรักภักดีที่จะได้รับผลประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจง ดินแดนของความไว้วางใจ (สองส่วนหรือประมาณ 1,280 เอเคอร์ (5.2 กิโลเมตร 2) ต่อเมือง) มักจะมีการจัดการ extractively (ทุ่งเลี้ยงสัตว์หรือการทำเหมืองแร่)เพื่อให้รายได้ให้กับโรงเรียนของรัฐ ทุกรัฐมีที่ดินบางส่วนภายใต้การบริหารของรัฐเช่นสวนสาธารณะของรัฐรัฐด้านการจัดการสัตว์ป่าและป่าไม้รัฐ.

ที่รกร้างว่างเปล่าเป็นพิเศษสำหรับการกำหนดที่ดินสาธารณะที่ได้รับการพัฒนาอย่างสมบูรณ์ แนวคิดของพื้นที่ป่าที่ถูกกำหนด legislatively โดยการกระทำที่รกร้างว่างเปล่า 1964พื้นที่ป่าสามารถจัดการได้โดยการใด ๆ ของหน่วยงานรัฐบาลกลางข้างต้นและสวนสาธารณะบางส่วนและผู้ลี้ภัยที่กำหนดเกือบทั้งหมดที่รกร้างว่างเปล่า พื้นที่ศึกษาที่รกร้างว่างเปล่าเป็นบริเวณที่ดินที่มีลักษณะถิ่นทุรกันดารและมีการจัดการความเป็นป่า แต่ยังไม่ได้รับการแต่งตั้งจากที่รกร้างว่างเปล่าสภาคองเกรส.

โดยปกติแต่ละพัสดุถูกควบคุมโดยชุดของตัวเองของกฎหมายและกฎระเบียบที่อธิบายถึงจุดประสงค์ที่ที่ดินที่ถูกซื้อและวิธีการที่ที่ดินอาจจะใช้.

นันทนาการเรา ที่ดินสาธารณะ
ส่วนใหญ่ของรัฐและรัฐบาลกลางการจัดการที่ดินสาธารณะเปิดให้บริการสำหรับการใช้งานภายใน โอกาสในการแข่งขันขึ้นอยู่กับหน่วยงานการบริหารจัดการและการใช้โทนเสียงดนตรีจากฟรีสำหรับทุกคนช่องว่างที่เปิดกว้างได้รับการพัฒนาของที่ดิน blm ไปสวนสาธารณะแห่งชาติและรัฐการพัฒนาอย่างมากและมีการควบคุม ผู้ลี้ภัยสัตว์ป่าและรัฐด้านการจัดการสัตว์ป่าที่มีการจัดการเป็นหลักในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยโดยทั่วไปจะเปิดให้ดูสัตว์ป่า, เดินป่าและการล่าสัตว์ยกเว้นสำหรับการปิดเพื่อป้องกันการผสมพันธุ์และการทำรังหรือเพื่อลดความเครียดในสัตว์ที่หลบหนาวป่าแห่งชาติโดยทั่วไปมีส่วนผสมของเส้นทางการบำรุงรักษาและถนนที่รกร้างว่างเปล่าและบางส่วนได้รับการพัฒนาและการพัฒนาปิกนิกและตั้งแคมป์ในพื้นที่.

ในความพยายามที่จะนำเสนอมุมมองที่มีความสมดุลของประวัติศาสตร์และการใช้ประโยชน์จากที่ดินสาธารณะของอเมริกาสองทีมลาเรา จากพรมแดนแคนาดาและเม็กซิกันในโครงการที่เรียกว่าพรมแดนอเมริกัน. ดินแดนที่การเดินทางของประชาชน

เลี้ยงเราที่ดินสาธารณะ
ประวัติศาสตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาตะวันตกที่ดินสาธารณะมากที่สุดคือเช่าเลี้ยงวัวหรือแกะ นี้รวมถึงสถานที่ที่กว้างใหญ่ของป่าสงวนแห่งชาติและที่ดิน blm เป็นที่ดินที่ผู้ลี้ภัยสัตว์ป่า อุทยานแห่งชาติเป็นข้อยกเว้น การใช้งานนี้ได้กลายเป็นที่ถกเถียงกันในศตวรรษที่ 20 ขณะที่มันถูกตรวจสอบโดยสิ่งแวดล้อม. [5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในหน่วยงานราชการสหรัฐอเมริกาเมือง ประเทศ อเมริกา และรัฐบาล ทั้งหมดจัดการที่ดินซึ่งจะเรียกว่าเป็นที่ดินสาธารณะหรือโดเมนสาธารณะ

ส่วนใหญ่ที่ดินสาธารณะในสหรัฐอเมริกามีจัดความน่าเชื่อถือสำหรับคนอเมริกัน โดยรัฐบาลกลาง และจัดการโดยสำนักงานของที่ดินจัดการ (BLM), บริการอุทยานแห่งชาติสหรัฐอเมริกา สำนักงานถม หรือปลา และบริการสัตว์ป่าภายใต้ภาควิชาตกแต่งภายใน หรือบริการป่าสหรัฐอเมริกาภายใต้กรมวิชาการเกษตร หน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาลกลางที่จัดการที่ดินสาธารณะรวมชาติมหาสมุทร และบรรยากาศดูแล และสหรัฐอเมริกากรม กลาโหม ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา หน่วยทหารของวิศวกร[4]

โดยทั่วไป รัฐสภาต้อง legislate สร้างใหม่ที่ดินสาธารณะ เช่นที่อุทยานแห่งชาติ อย่างไรก็ตาม บัญญัติ 1906 ย่าน ประธานาธิบดีอาจกำหนดอนุสาวรีย์แห่งชาติใหม่ โดยตั้งการตรวจสอบการ

แต่ละรัฐตะวันตกยังรับกลาง "สาธารณะที่ดิน" เป็นดินแดนที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้รับผลประโยชน์เฉพาะ ซึ่งรัฐจะจัดการเป็นเงื่อนไขการยอมรับในสหภาพ ผู้เชื่อถือที่ดินไม่อีกต่อไปถือเป็นที่ดินสาธารณะเป็นการให้ผลประโยชน์ใด ๆ ให้กับ "ประชาชน" จะเป็นละเมิดต่อผู้รับผลประโยชน์เฉพาะ จัดการที่ดินแทน (ส่วนสอง หรือประมาณ 1,280 ไร่ (5.2 km2) ต่อพ) มักจะ extractively (grazing หรือทำเหมืองแร่), เพื่อให้มีรายได้สำหรับโรงเรียน อเมริกาทั้งหมดมีบางดินแดนภายใต้การจัดการรัฐ รัฐสวน พื้นที่การจัดการสัตว์ป่ารัฐ และป่ารัฐ

ถิ่นทุรกันดารจะออกแบบพิเศษสำหรับที่ดินสาธารณะซึ่งมี undeveloped ทั้งหมด แนวคิดของพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร legislatively กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติป่า 1964 สามารถจัดการพื้นที่ป่า โดยใด ๆ ของหน่วยงานรัฐบาลกลางข้างต้น และบางสวนและมาเกือบทั้งกำหนดถิ่นทุรกันดาร พื้นที่ศึกษาป่าเป็นทางเดินของที่ดินที่มีลักษณะถิ่นทุรกันดาร และจัดการเป็นถิ่นทุรกันดาร แต่ได้รับการกำหนดถิ่นทุรกันดารจากรัฐสภา

ปกติแต่ละหีบห่อเป็นไปตามชุดของกฎหมายและกฎที่อธิบายวัตถุประสงค์ที่มาแผ่นดิน และวิธีอาจใช้ที่ดิน

พักผ่อนหย่อนใจบนที่ดินสาธารณะของสหรัฐอเมริกา
ส่วนใหญ่รัฐและจัดการผ่อนที่ดินสาธารณะจะเปิดเข้าใช้ โอกาสพักผ่อนหย่อนใจขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่จัดการ และเรียกใช้การเฉดสีจาก free-for-all พื้นที่เปิดกว้าง undeveloped ของ BLM ที่ดินสูง และควบคุมการพัฒนาแห่งชาติและสวนสาธารณะรัฐ สัตว์ป่ามาและรัฐสัตว์ป่าการจัดการพื้นที่ จัดการหลักเพื่อการอยู่อาศัย การปรับปรุงจะเปิดโดยทั่วไปสัตว์ป่าชม เดินป่า และการล่า สัตว์ ยกเว้นปิด เพื่อป้องกันการผสมพันธุ์และเนสติ้ง หรือ เพื่อลดความเครียดในสัตว์ wintering ป่าแห่งชาติโดยทั่วไปมีผสมยังคงอยู่แนวถนน ถิ่นทุรกันดาร และ ส่วน undeveloped และปิกนิกพัฒนา และพื้นที่ตั้งค่าย

ในความพยายามที่จะนำเสนอมุมมองที่สมดุลของประวัติและการใช้ที่ดินสาธารณะของอเมริกา 2 ทีม trekked สหรัฐ จากแคนาดาและเม็กซิโกขอบ ในโครงการที่เรียกว่าภูมิอเมริกัน: ที่ดินสาธารณะ A เดินทาง

Grazing ในสหรัฐอเมริกา ที่ดินสาธารณะ
ประวัติในประเทศสหรัฐอเมริกาตะวันตก ที่ดินสาธารณะมากที่สุดคือเช่าสำหรับ grazing วัวหรือแกะ ซึ่งรวมถึงรามิดใหญ่แห่งป่าและ BLM ที่ดิน ตลอดจนที่ดินในสัตว์ป่ามา อุทยานแห่งชาติเป็นข้อยกเว้น ใช้เป็นแย้งในปลายศตวรรษจะถูกตรวจสอบ โดย environmentalists[5]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในประเทศสหรัฐอเมริการัฐบาลหน่วยงานรวมถึงเมือง,สหรัฐอเมริกา,รัฐและรัฐบาลกลางทั้งหมดการจัดการที่ดินซึ่งจะถูกอ้างถึงในที่สาธารณะทั้งที่ดินหรือที่สาธารณะโดเมน.

โดยส่วนใหญ่ของสาธารณะที่ดินในประเทศสหรัฐอเมริกาจะมีการประชุมในความน่าเชื่อถือของประชาชนอเมริกันโดยรัฐบาลกลางและมีการจัดการโดยสำนักของดินและการจัดการ( blm )อุทยานแห่งชาติประเทศสหรัฐอเมริกาที่สำนักงานบริการของสถานที่หรือปลาที่สัตว์ป่าและบริการที่อยู่ในกรมของ ภายใน ห้องโดยสารหรือประเทศสหรัฐอเมริกา Forest ของบริการที่อยู่ ภายใต้ กรมในการทำการเกษตร. หน่วยงานรัฐบาลกลางอื่นที่จัดการที่ดินสาธารณะรวมถึงชาติแห่งท้องมหาสมุทรที่มีบรรยากาศที่และการบริหารจัดการและสหรัฐอเมริกาของการป้องกันซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกาทหารหน่วยของวิศวกร.[ 4 ]

ทั่วไปในการประชุมจะต้องออกกฎหมายการสร้างของที่ดินสาธารณะใหม่เช่นอุทยานแห่งชาติอย่างไรก็ตามในปี 1906 ตามพระราชบัญญัติโบราณสถานให้ประธานอาจกำหนดอนุสรณ์สถานแห่งชาติใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาต รัฐสภา .รัฐตะวันตก

แต่ละห้องยังได้รับสหพันธ์"ที่ดินสาธารณะ"เป็นที่ดินความน่าเชื่อถือที่ได้รับมอบหมายสำหรับผู้ได้รับประโยชน์เฉพาะซึ่งรัฐจะจัดการตาม สภาพ ที่จะรับการยอมรับเข้าสู่ สหภาพ ได้ ความน่าเชื่อถือที่ดินที่ไม่สามารถได้รับการพิจารณาให้เป็นที่ดินสาธารณะให้สิทธิประโยชน์ใดๆในการ"สาธารณะ"จะได้รับในการละเมิดความ จงรักภักดี ในเฉพาะที่ได้รับผลประโยชน์ใดๆได้อีกต่อไป ที่ดินความเชื่อถือ(สองส่วนหรือเกี่ยวกับ 1,280 เอเคอร์( 5.2 กิโลเมตร 2 )ต่อชุมชนเมือง)จะได้รับการจัดการโดยปกติ extractively (การทำเหมืองแร่หรือกินหญ้า)ในการให้รายได้สำหรับโรงเรียน รัฐทั้งหมดมีที่ดินบางส่วน ภายใต้ การบริหารของรัฐเช่นอุทยานสัตว์ป่าของรัฐการจัดการพื้นที่ของรัฐและรัฐป่า.

ถิ่นทุรกันดารเป็นการกำหนดแบบพิเศษสำหรับที่ดินสาธารณะที่ได้รับมาอย่างสมบรูณ์แบบ แนวความคิดของพื้นที่ถิ่นทุรกันดารเป็น legislatively ที่กำหนดโดยปี 1964 ถิ่นทุรกันดารตามพระราชบัญญัตินี้พื้นที่ถิ่นทุรกันดารสามารถจัดการได้โดยหน่วยงานรัฐบาลกลางใดๆที่กล่าวไว้ด้านบนและไตรสรณและสวนสนุกบางแห่งก็เกือบจะถิ่นทุรกันดารอย่างแท้จริงที่ได้รับมอบหมาย เขตพื้นที่การศึกษาถิ่นทุรกันดารที่มีขึ้นในที่ดินที่มีลักษณะถิ่นทุรกันดารและมีการบริหารจัดการเป็นถิ่นทุรกันดารแต่ยังไม่ได้รับการยอมรับจากถิ่นทุรกันดารที่จากการประชุม.

โดยปกติแล้วจะต้องห่อแต่ละห้องจะถูกควบคุมโดยตั้งค่าตัวของท่านเองในกฎและข้อบังคับที่อธิบายถึงประโยชน์ที่ดินนั้นได้รับมาและวิธีการที่จะใช้งานได้

สันทนาการที่ที่ดินสาธารณะสหรัฐอเมริกา
ที่ดินสาธารณะของรัฐมากที่สุดและงานรับเหมาก่อสร้าง สาธารณูปโภค การบริหารจัดการเป็นแบบเปิดโล่งสำหรับการใช้งานด้านการสันทนาการ โอกาสทางการขายการสันทนาการขึ้นอยู่กับหน่วยงานของการจัดการและเรียกใช้จากแบบไม่เสียค่าบริการสำหรับทุกคนที่รวมถึงพื้นที่ขนาดกว้างแบบเปิดโล่งของที่ดินมา blm เพื่อไปยังอุทยานแห่งชาติและรัฐได้พัฒนาและควบคุมได้. ไตรสรณสัตว์ป่าและพื้นที่การจัดการสัตว์ป่าของรัฐเป็นหลักในการบริหารจัดการปรับปรุงที่อยู่อาศัยมีโดยทั่วไปแล้วจะเปิดเพื่อรับชมสัตว์ป่าและการปีนเขาการล่าสัตว์ยกเว้นสำหรับการปิดเพื่อป้องกันอุปกรณ์เสริมความสุขทางเพศเครื่องประดับและทำรังของนกหรือเพื่อลดความตึงเครียดในสัตว์เคนต์ประเทศอังกฤษอุทยานแห่งชาติป่าโดยทั่วไปแล้วมีการผสมผสานของการดูแลรักษาเป็นอย่างดีและเส้นทางถนน,ถิ่นทุรกันดารและต่อจากคณะส่วน,และการพัฒนาแบบปิกนิกและสถานที่กางเต็นท์บริเวณ.

ในความพยายามที่จะมีความสมดุลดูของที่ประวัติศาสตร์และใช้ของอเมริกาเหนือที่ดินสาธารณะของ,สองทีมเดินทางไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา,จากแคนาดาและเม็กซิโกพรมแดน,ในโครงการที่มีชื่อเสียงเป็นอเมริกันพรมแดน:ที่ดินสาธารณะการเดินทาง.

กินหญ้าในสหรัฐอเมริกาที่ดินสาธารณะ
ทางประวัติศาสตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกาตามแบบตะวันตกที่ดินสาธารณะมากที่สุดคือเช่าสำหรับกินหญ้าโดยแกะหรือเลี้ยงสัตว์ โรงแรมแห่งนี้รวมถึงยึดพื้นที่เพาะปลูกความหลากหลายของที่ดินป่าสงวนแห่งชาติป่าและ blm รวมทั้งเป็นที่ดินในสัตว์ป่าไตรสรณ อุทยานแห่งชาติเป็นข้อยกเว้น ใช้งานนี้ได้กลายมาเป็นข้อถกเถียงในช่วงปลายศตวรรษที่ 20 ที่เป็นมันถูกตรวจสอบโดยทดลอง.[ 5 ]