ธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรูปแบบร้านค้าปล การแปล - ธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรูปแบบร้านค้าปล ไทย วิธีการพูด

ธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศไทยมีการพั

ธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรูปแบบร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมเป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) จากร้านค้าปลีกขนาดเล็กเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ จากร้านค้าปลีกร้านเดียวเป็นร้านค้าปลีกเครือข่าย(Chain Store Retailing) และจากร้านค้าปลีกที่เป็นของคนไทยบริหารโดยคนไทย เป็นร้านค้าปลีกที่มีเจ้าของและผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งสิ้น ถ้าแบ่งประเภทร้านค้าปลีกที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ปัจจุบันจะพบร้านค้าปลีกหลายประเภททั้งแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย
1. Small Retailer (ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก) หรือเรียกกันติดปากว่า "ร้านโชห่วย" เป็นรูปแบบร้านค้าปลีก
แบบดั้งเดิมที่บริหารงานโดยเจ้าของคนเดียว ใช้พื้นที่น้อยขายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันไม่มีการ
พัฒนารูปแบบการจัดการจัดหาสินค้ามาโดยการซื้อจากหน่วยรถเงินสดหรือจากร้านค้าส่งถึงแม้ความนิยม
ของผู้บริโภคต่อร้านค้าประเภทนี้จะลดน้อยลงแต่ก็ยังปรากฏมีร้านค้ากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ ของประเทศอีกเป็นจำนวนมาก
2. Specialty Store (ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่าง) เป็นร้านค้าปลีกที่เน้นขายสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น ร้าน
ดอกไม้ ร้านเครื่องเขียนร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ร้านขายปืนร้านขายอุปกรณ์กีฬา ร้านค้าเหล่านี้พยายาม
พัฒนารูปแบบให้ทันสมัยขึ้นเพื่อแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้ แต่ด้วยข้อจำกัดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปที่ผู้บริโภคนิยมหันไปซื้อสินค้าในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทำให้ปริมาณลดน้อยลงไปเช่นกัน
3. Department Store (ห้างสรรพสินค้า) เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ตกแต่งหรูหราให้บริการครบครัน
ขายสินค้าครบทุกประเภทโดยจัดแบ่งเป็นแผนก และหมวดหมู่ของสินค้าอย่างชัดเจนทำให้ลูกค้าสนุกสนานและเพลินเพลินในการซื้อสินค้าในลักษณะ One-Stop Shopping นอกจากนี้ในบริเวณศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้ายังมีสิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมมากมายที่จะสามารถทำให้สมาชิกทั้งครอบครัวสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครบวงจร จึงเป็นประเภทร้านค้าปลีกที่ได้รับความนิยมจากคนไทยยุคหนึ่งเป็นอย่างสูงมีการขยายสาขาออกไปเป็นจำนวนมาก เช่น ห้างเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์
4. Supermarket (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นประกอบด้วย สินค้าประเภทอาหารและของใช้จำเป็นในครัวเรือนส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีกำไรต่ำ จึงต้องบริหารอย่างรัดกุมลดความสูญเสีย ใช้พื้นที่ไม่มากมักจะเลือกทำเลที่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยหรืออยู่ในเส้นทางจราจรที่อำนวยความสะดวกในเส้นทางกลับบ้าน เดิมซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่เป็นแผนกหนึ่งในห้างสรรพสินค้า ปัจจุบันมีการแยกตัวเปิดเป็นอิสระหรือแบบ Stand-alone เช่น ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต เคยเป็นแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสัน ปัจจุบันแยกการบริหารโดยมีบริษัท รอแยลเอโฮล ของเนเธอร์แลนด์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เน้นขยายสาขาเป็นแบบ Stand-alone ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
5. Convenience Store (ร้านค้าสะดวกซื้อ) เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่พัฒนารูปแบบการจัดการให้เป็น
ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เน้นความสะดวกทั้งด้านทำเลที่ตั้งมีสาขาจำนวนมากและเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงสินค้าที่ขายเน้นประเภทอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค สนองความต้องการซื้อแบบเร่งด่วนร้านค้าประเภทนี้ได้ขยายตัวเข้ามาทดแทนร้านค้าปลีกขนาดเล็กทั้งนี้โดยอาศัยรูปแบบที่สะอาด สะดวก มีการจัดการดีภาพพจน์เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ เช่น ร้าน 7-ELEVEN สามารถขยายสาขาได้ถึง 1,500 สาขาในเวลาประมาณ 10 ปี ร้าน Am-Pm ร้าน Family Mart นอกจากนี้ยังพบเห็นร้านสะดวกซื้อตามสถานบริการน้ำมันทุกยี่ห้อ เช่น ร้าน Jiffy Shop, Select, Tiger Mart, Star Mart เป็นต้น แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างชัดเจน

6. Discount Store (ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่) ขายสินค้าครบทุกประเภทใช้นโยบายราคาถูกทุกวัน (Everday Low Price) หวังยอดขายในปริมาณสูง กำไรต่อหน่วยต่ำ ไม่เน้นบริการและความหรูหรา ถึงแม้การลงทุนสูง แต่เป็นประเภทร้านค้าปลีกที่กำลังได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงสุดในปัจจุบัน เช่น Tesco Lotus, Carrefour, Big-C, Makro ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นร้านค้าปลีกที่ถือหุ้นใหญ่โดยต่างประเทศที่มีกำลังเงินสูงกำลังกล่าวขวัญกันว่าจะทำลายระบบการค้าปลีกเดิม และทำให้ร้านค้าปลีกของคนไทยได้รับความเสียหาย
7. Category Killer (ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เน้นขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม) เช่น เครื่องใช้สำนักงาน
วัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านตกแต่งและสวน และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์กีฬา อาศัยความชำนาญและความได้เปรียบในการจัดหาสินค้าเฉพาะกลุ่ม จึงทำให้สามารถนำเสนอสินค้าได้ครบถ้วน ราคาถูก
และยังมีบริการหลังการขายอีกด้วย เช่น Home Pro ร้านค้าปลีกที่ชำนาญด้านอุปกรณ์แต่งบ้าน และสินค้า DIY (Do in Yourself) Power Buy ร้านค้าปลีกสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้า Makro Office Center จำหน่ายเฉพาะสายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สำนักงาน
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรูปแบบร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมเป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ (ค้าปลีก) จากร้านค้าปลีกขนาดเล็กเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่จากร้านค้าปลีกร้านเดียวเป็นร้านค้าปลีกเครือข่าย (โซ่ร้าน Retailing) และจากร้านค้าปลีกที่เป็นของคนไทยบริหารโดยคนไทยเป็นร้านค้าปลีกที่มีเจ้าของและผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งสิ้นถ้าแบ่งประเภทร้านค้าปลีกที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทยปัจจุบันจะพบร้านค้าปลีกหลายประเภททั้งแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย1. เป็นรูปแบบร้านค้าปลีกหรือเรียกกันติดปากว่า "ร้านโชห่วย" ตัวแทนจำหน่ายขนาดเล็ก (ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก)แบบดั้งเดิมที่บริหารงานโดยเจ้าของคนเดียวใช้พื้นที่น้อยขายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันไม่มีการพัฒนารูปแบบการจัดการจัดหาสินค้ามาโดยการซื้อจากหน่วยรถเงินสดหรือจากร้านค้าส่งถึงแม้ความนิยมของผู้บริโภคต่อร้านค้าประเภทนี้จะลดน้อยลงแต่ก็ยังปรากฏมีร้านค้ากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศอีกเป็นจำนวนมาก2. ร้านค้าพิเศษ (ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่าง) เป็นร้านค้าปลีกที่เน้นขายสินค้าเฉพาะอย่างเช่นร้านดอกไม้ร้านเครื่องเขียนร้านค้าวัสดุก่อสร้างร้านขายปืนร้านขายอุปกรณ์กีฬาร้านค้าเหล่านี้พยายามพัฒนารูปแบบให้ทันสมัยขึ้นเพื่อแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้แต่ด้วยข้อจำกัดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปที่ผู้บริโภคนิยมหันไปซื้อสินค้าในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทำให้ปริมาณลดน้อยลงไปเช่นกัน 3. ห้างสรรพสินค้า (ห้างสรรพสินค้า) เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ตกแต่งหรูหราให้บริการครบครันขายสินค้าครบทุกประเภทโดยจัดแบ่งเป็นแผนกและหมวดหมู่ของสินค้าอย่างชัดเจนทำให้ลูกค้าสนุกสนานและเพลินเพลินในการซื้อสินค้าในลักษณะหนึ่งหยุดช้อปปิ้งนอกจากนี้ในบริเวณศูนย์การค้าขนาดใหญ่ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้ายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมมากมายที่จะสามารถทำให้สมาชิกทั้งครอบครัวสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครบวงจรจึงเป็นประเภทร้านค้าปลีกที่ได้รับความนิยมจากคนไทยยุคหนึ่งเป็นอย่างสูงมีการขยายสาขาออกไปเป็นจำนวนมากเช่นห้างเซ็นทรัลโรบินสันเดอะมอลล์ 4. ซุปเปอร์มาร์เก็ต (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นประกอบด้วยสินค้าประเภทอาหารและของใช้จำเป็นในครัวเรือนส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีกำไรต่ำจึงต้องบริหารอย่างรัดกุมลดความสูญเสียใช้พื้นที่ไม่มากมักจะเลือกทำเลที่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัยหรืออยู่ในเส้นทางจราจรที่อำนวยความสะดวกในเส้นทางกลับบ้านเดิมซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่เป็นแผนกหนึ่งในห้างสรรพสินค้าปัจจุบันมีการแยกตัวเปิดเป็นอิสระหรือแบบเดี่ยวเช่นท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ตเคยเป็นแผนกซุปเปอร์มาร์เก็ตในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลและโรบินสันปัจจุบันแยกการบริหารโดยมีบริษัทรอแยลเอโฮลของเนเธอร์แลนด์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เน้นขยายสาขาเป็นแบบทั้งกรุงเทพฯ เดี่ยวและต่างจังหวัด 5. ร้านสะดวกซื้อ (ร้านค้าสะดวกซื้อ) เป็นร้านค้าปลีกขนาดเล็กที่พัฒนารูปแบบการจัดการให้เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เน้นความสะดวกทั้งด้านทำเลที่ตั้งมีสาขาจำนวนมากและเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงสินค้าที่ขายเน้นประเภทอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค สนองความต้องการซื้อแบบเร่งด่วนร้านค้าประเภทนี้ได้ขยายตัวเข้ามาทดแทนร้านค้าปลีกขนาดเล็กทั้งนี้โดยอาศัยรูปแบบที่สะอาด สะดวก มีการจัดการดีภาพพจน์เหมาะสมกับคนรุ่นใหม่ เช่น ร้าน 7-ELEVEN สามารถขยายสาขาได้ถึง 1,500 สาขาในเวลาประมาณ 10 ปี ร้าน Am-Pm ร้าน Family Mart นอกจากนี้ยังพบเห็นร้านสะดวกซื้อตามสถานบริการน้ำมันทุกยี่ห้อ เช่น ร้าน Jiffy Shop, Select, Tiger Mart, Star Mart เป็นต้น แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภครุ่นใหม่อย่างชัดเจน 6. ร้านค้าส่วนลด (ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่) ขายสินค้าครบทุกประเภทใช้นโยบายราคาถูกทุกวัน (ราคาต่ำ Everday) หวังยอดขายในปริมาณสูงกำไรต่อหน่วยต่ำไม่เน้นบริการและความหรูหราถึงแม้การลงทุนสูงแต่เป็นประเภทร้านค้าปลีกที่กำลังได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงสุดในปัจจุบันเช่นเทสโก้โลตัส คาร์ฟูร์ บิ๊กซี แม็คโครซึ่งทั้งหมดนี้เป็นร้านค้าปลีกที่ถือหุ้นใหญ่โดยต่างประเทศที่มีกำลังเงินสูงกำลังกล่าวขวัญกันว่าจะทำลายระบบการค้าปลีกเดิมและทำให้ร้านค้าปลีกของคนไทยได้รับความเสียหาย7. ประเภทปืน (ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เน้นขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม) เช่นเครื่องใช้สำนักงานวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านตกแต่งและสวนและเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์กีฬาอาศัยความชำนาญและความได้เปรียบในการจัดหาสินค้าเฉพาะกลุ่มจึงทำให้สามารถนำเสนอสินค้าได้ครบถ้วนราคาถูกและยังมีบริการหลังการขายอีกด้วยร้านค้าปลีกที่ชำนาญด้านอุปกรณ์แต่งบ้านโปและสินค้า DIY (ทำในตัวเอง) พลังงานบ้านเช่นซื้อราคาจำหน่ายเฉพาะสายผลิตภัณฑ์อุปกรณ์สำนักงานร้านค้าปลีกสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าศูนย์สำนักงานแม็คโคร
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
(Modern Trade) ร้านค้าปลีก)
ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก (ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก) หรือเรียกกันติดปากว่า "ร้านโชห่วย" ของประเทศอีกเป็นจำนวนมาก2 ร้านค้าพิเศษ (ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่าง) เช่นร้านดอกไม้ ร้านขายปืนร้านขายอุปกรณ์กีฬา ห้างสรรพสินค้า (ห้างสรรพสินค้า) One-Stop Shopping เช่นห้างเซ็นทรัลโรบินสันเดอะมอลล์4 ซูเปอร์มาร์เก็ต (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) จำหน่ายสินค้าที่จำเป็นประกอบด้วย Stand-alone เช่นท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต ปัจจุบันแยกการบริหารโดยมี บริษัท รอแยลเอโฮล Stand-alone ทั้งกรุงเทพฯและต่างจังหวัด5 ร้านสะดวกซื้อ (ร้านค้าสะดวกซื้อ) 24 เครื่องดื่มสินค้าอุปโภคบริโภค สะดวก เช่นร้าน 7-ELEVEN สามารถขยายสาขาได้ถึง 1,500 สาขาในเวลาประมาณ 10 ปีร้าน Am-Pm ร้าน Family Mart ที่ เช่นร้านร้าน Jiffy, เลือก, Mart เสือ Star Mart เป็นต้น ร้านค้าส่วนลด (ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่) (Everday ต่ำราคา) หวังยอดขายในปริมาณสูงกำไรต่อหน่วยต่ำไม่เน้นบริการและความหรูหราถึงแม้การลงทุนสูง เช่นเทสโก้โลตัส, คาร์ฟูร์, บิ๊กซี, แม็คโคร หมวดหมู่นักฆ่า เช่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าอุปกรณ์กีฬา เช่นโฮมโปร และสินค้า DIY (Do ในตัวเอง) เพาเวอร์บาย แม็คโครออฟฟิศเซ็นเตอร์
















การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ธุรกิจร้านค้าปลีกในประเทศไทยมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากรูปแบบร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมเป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ ( โมเดิร์นเทรด ) จากร้านค้าปลีกขนาดเล็กเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ค้าปลีกร้าน ) และจากร้านค้าปลีกที่เป็นของคนไทยบริหารโดยคนไทยเป็นร้านค้าปลีกที่มีเจ้าของและผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติเกือบทั้งสิ้นถ้าแบ่งประเภทร้านค้าปลีกที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย1 . ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ( ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ) หรือเรียกกันติดปากว่า " ร้านโชห่วย " เป็นรูปแบบร้านค้าปลีกใช้พื้นที่น้อยขายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันไม่มีการ

แบบดั้งเดิมที่บริหารงานโดยเจ้าของคนเดียวพัฒนารูปแบบการจัดการจัดหาสินค้ามาโดยการซื้อจากหน่วยรถเงินสดหรือจากร้านค้าส่งถึงแม้ความนิยม
ของผู้บริโภคต่อร้านค้าประเภทนี้จะลดน้อยลงแต่ก็ยังปรากฏมีร้านค้ากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่างๆของประเทศอีกเป็นจำนวนมาก
2 ร้านค้าพิเศษ ( ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่าง ) เป็นร้านค้าปลีกที่เน้นขายสินค้าเฉพาะอย่างเช่นร้าน
ดอกไม้ร้านเครื่องเขียนร้านค้าวัสดุก่อสร้างร้านขายปืนร้านขายอุปกรณ์กีฬาร้านค้าเหล่านี้พยายาม
พัฒนารูปแบบให้ทันสมัยขึ้นเพื่อแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ได้แต่ด้วยข้อจำกัดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปที่ผู้บริโภคนิยมหันไปซื้อสินค้าในศูนย์การค้าขนาดใหญ่ทำให้ปริมาณลดน้อยลงไปเช่นกัน
3ห้างสรรพสินค้า ( ห้างสรรพสินค้า ) เป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ตกแต่งหรูหราให้บริการครบครัน
ขายสินค้าครบทุกประเภทโดยจัดแบ่งเป็นแผนกและหมวดหมู่ของสินค้าอย่างชัดเจนทำให้ลูกค้าสนุกสนานและเพลินเพลินในการซื้อสินค้าในลักษณะหนึ่งหยุดช้อปปิ้งนอกจากนี้ในบริเวณศูนย์การค้าขนาดใหญ่และกิจกรรมมากมายที่จะสามารถทำให้สมาชิกทั้งครอบครัวสามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างครบวงจรจึงเป็นประเภทร้านค้าปลีกที่ได้รับความนิยมจากคนไทยยุคหนึ่งเป็นอย่างสูงมีการขยายสาขาออกไปเป็นจำนวนมากเช่นห้างเซ็นทรัลเดอะมอลล์
4 .
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: