new study into magma ascent by geos

new study into magma ascent by geoscientists at the University of Liverpool has found that temperature may be more important than pressure in generating gas bubbles which trigger explosive volcanic eruptions.

In a paper published in Nature, researchers at the University's School of Environmental Sciences showed that as magma ascends in volcanic conduits, it heats up which can melt its crystal cargo and force the formation of bubbles. Importantly, they also showed that more bubbles are formed by heating than through decompression, which had been previously thought.

The study, which combined field observation, interpretation of monitored data and controlled laboratory experimentations, provides a strong argument for the integration of temperature as a key control in volcanic eruptions models.

Yan Lavallée, Liverpool Professor of Volcanology who led the research, said: "A good analogy to this is peanut butter: when it is too cold and viscous, we plunge a knife into it and stir to warm it up and make it more runny. With volcanoes, magma ascending in volcanic conduit also heats up and this helps them foam and erupt explosively."

He added: "The fact that temperature may be more important than pressure in the generation of gas bubbles in ascending magmas is astonishing and requires immediate consideration from the scientific community. The fundamental nature of this thermal process will very likely find other important applications in earth sciences as well as in engineering in the years to come. "

Understanding magma ascent is central to forecasting volcanic disasters. It is not possible to always successfully predict volcanic events due to the lack of complete knowledge of the signals leading to catastrophes.

To reproduce the volcanic process, the researchers designed laboratory experiments to study friction in volcanic rocks. They found that friction causes a substantial amount of heat between two rocks which melts the rock and makes it foam.

In the study, they were also able to show how the action of ascending magma can be understood using seismometers to monitor earthquakes and tiltmeters to measure ground deformation.

Volcanic eruptions are often compared to uncorking a bottle of Champagne. Pop the cork out slowly and the wine bubbles up (foams), gas comes out and the wine settles. When it is uncorked rapidly, the cork shoots up in the air, followed by a messy splash of wine across the kitchen.

These two opposite scenarios also occur with volcanoes which can erupt lava flows or explosively erupt fragmented bits of lava, including volcanic ash.

It had been thought that the decrease in pressure experienced by magma as it ascends through the crust and erupts at Earth's surface, causes it to foam. This new work suggests that heating may be more important than decompression in controlling eruptions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาใหม่เป็นหินหนืดขึ้นด้วย geoscientists มหาวิทยาลัยของลิเวอร์พูลพบว่า อุณหภูมิอาจจะสำคัญกว่าความดันในการสร้างฟองอากาศของก๊าซที่ทำให้เกิดภูเขาไฟปะทุระเบิดในเอกสารเผยแพร่ในธรรมชาติ นักวิจัยในโรงเรียนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยพบว่าเป็นหินหนืด ascends ใน conduits ภูเขาไฟ จะ heats ขึ้นซึ่งสามารถละลายสินค้าคริสตัล และบังคับให้การก่อตัวของฟองอากาศ สำคัญ พวกเขายังแสดงให้เห็นว่า ฟองอากาศเพิ่มมากขึ้นจะเกิดขึ้นจากความร้อนกว่าผ่านการบีบอัด ซึ่งมีความคิดได้ก่อนหน้านี้การศึกษา การรวมฟิลด์เก็บข้อมูล การตีความของข้อมูลการตรวจสอบ และควบคุมห้องปฏิบัติการ experimentations ให้โต้เถียงสำหรับการรวมของอุณหภูมิเป็นตัวควบคุมหลักในแบบจำลองภูเขาไฟปะทุย่าน Lavallée ลิเวอร์พูลอาจารย์ของวิทยาภูเขาไฟผู้วิจัย กล่าวว่า: "เปรียบเทียบดีนี้เป็นเนยถั่วลิสง: เมื่อเย็น และข้นเกินไป เราวอมีดและผัดอุ่นขึ้น และทำให้มากขึ้นและน้ำมูกไหล มีภูเขา หินหนืดน้อยไปหามากในท่อร้อยสายที่ภูเขาไฟยัง heats ขึ้น และนี้ช่วยให้โฟม และปะทุเป็น"เขาเพิ่ม: "ความเป็นจริงอุณหภูมิที่ได้สำคัญกว่าความดันในการสร้างของฟองก๊าซจาก magmas เป็นอันตระการตา และต้องพิจารณาทันทีจากชุมชนวิทยาศาสตร์ ลักษณะพื้นฐานของกระบวนการนี้ความร้อนมากอาจจะพบโปรแกรมประยุกต์ที่สำคัญอื่น ๆ ในโลกวิทยาศาสตร์เช่นในวิศวกรรมในปีที่ผ่านมา "Understanding magma ascent is central to forecasting volcanic disasters. It is not possible to always successfully predict volcanic events due to the lack of complete knowledge of the signals leading to catastrophes.To reproduce the volcanic process, the researchers designed laboratory experiments to study friction in volcanic rocks. They found that friction causes a substantial amount of heat between two rocks which melts the rock and makes it foam.In the study, they were also able to show how the action of ascending magma can be understood using seismometers to monitor earthquakes and tiltmeters to measure ground deformation.Volcanic eruptions are often compared to uncorking a bottle of Champagne. Pop the cork out slowly and the wine bubbles up (foams), gas comes out and the wine settles. When it is uncorked rapidly, the cork shoots up in the air, followed by a messy splash of wine across the kitchen.These two opposite scenarios also occur with volcanoes which can erupt lava flows or explosively erupt fragmented bits of lava, including volcanic ash.It had been thought that the decrease in pressure experienced by magma as it ascends through the crust and erupts at Earth's surface, causes it to foam. This new work suggests that heating may be more important than decompression in controlling eruptions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาใหม่เข้าสู่การขึ้นหินหนืดโดย geoscientists ที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูลได้พบว่าอุณหภูมิอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าความดันในการสร้างฟองก๊าซที่ก่อให้เกิดการระเบิดของภูเขาไฟระเบิด. ในบทความที่ตีพิมพ์ในวารสาร Nature นักวิจัยที่โรงเรียนมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมแสดงให้เห็นว่าเป็น แมกเชื่อมในท่อภูเขาไฟมันร้อนขึ้นซึ่งสามารถละลายผลึกของการขนส่งสินค้าและบังคับให้ก่อตัวของฟองอากาศ ที่สำคัญพวกเขายังพบว่ามากกว่าฟองที่เกิดขึ้นด้วยความร้อนกว่าผ่านการบีบอัดซึ่งได้รับการคิดก่อนหน้านี้. การศึกษาซึ่งรวมการสังเกตเขตการตีความหมายของข้อมูลที่ตรวจสอบและควบคุมการทดลองในห้องปฏิบัติการให้อาร์กิวเมนต์ที่แข็งแกร่งสำหรับการรวมกลุ่มของอุณหภูมิที่ . การควบคุมที่สำคัญในการปะทุของภูเขาไฟรุ่นยันLavalléeลิเวอร์พูลศาสตราจารย์Volcanology ที่นำการวิจัยกล่าวว่า "คล้ายคลึงดีนี้คือเนยถั่วลิสง: เมื่อมันเย็นเกินไปและความหนืดเรากระโดดมีดลงไปคนให้เข้าอุ่น ขึ้นและทำให้มันมากขึ้นไหลด้วยภูเขาไฟหนืดน้อยไปมากในท่อภูเขาไฟยังร้อนขึ้นและช่วยให้พวกเขาโฟมและปะทุระเบิด ".. เขาเพิ่ม:" ความจริงที่ว่าอุณหภูมิอาจจะเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าความดันในการผลิตของฟองก๊าซจากน้อยไปมาก magmas เป็นที่น่าอัศจรรย์และต้องพิจารณาทันทีจากชุมชนวิทยาศาสตร์. ลักษณะพื้นฐานของกระบวนการความร้อนนี้มีโอกาสมากที่จะได้พบกับการใช้งานที่สำคัญอื่น ๆ ในวิทยาศาสตร์โลกเช่นเดียวกับในวิศวกรรมในปีที่ผ่านมา "ขึ้นเข้าใจแมกมาเป็นศูนย์กลางในการคาดการณ์ภัยพิบัติภูเขาไฟ. มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดการณ์มักจะประสบความสำเร็จในเหตุการณ์ภูเขาไฟเกิดจากการขาดความรู้ที่สมบูรณ์ของสัญญาณที่นำไปสู่หายนะ. ทำซ้ำขั้นตอนภูเขาไฟนักวิจัยการออกแบบการทดลองในห้องปฏิบัติการเพื่อศึกษาแรงเสียดทานใน หินภูเขาไฟ. พวกเขาพบว่าแรงเสียดทานที่ทำให้เกิดเป็นจำนวนมากของความร้อนระหว่างสองหินที่ละลายหินและทำให้โฟม. ในการศึกษาที่พวกเขายังสามารถที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระทำของแมกมาจากน้อยไปมากสามารถเข้าใจได้โดยใช้ seismometers ในการตรวจสอบการเกิดแผ่นดินไหวและ tiltmeters ในการวัดความผิดปกติที่พื้นดิน. การปะทุของภูเขาไฟเมื่อเทียบมัก uncorking ขวดแชมเปญ. ป๊อปก๊อกออกอย่างช้า ๆ และไวน์ฟองขึ้น (โฟม) ก๊าซออกมาและไวน์ settles. เมื่อมีการ uncorked อย่างรวดเร็วยิงก๊อกขึ้น ในอากาศตามด้วยการสาดยุ่งไวน์ทั่วห้องครัว. ทั้งสองสถานการณ์ตรงข้ามนอกจากนี้ยังเกิดขึ้นกับภูเขาไฟที่สามารถปะทุลาวาไหลหรือระเบิดปะทุบิตการกระจายตัวของลาวารวมทั้งเถ้าภูเขาไฟ. มันได้รับการคิดว่าการลดลงของความดันที่มีประสบการณ์ โดยแมกมาในขณะที่มันเชื่อมผ่านเปลือกและดังสนั่นที่พื้นผิวของโลกทำให้มันโฟม งานนี้ใหม่แสดงให้เห็นว่าความร้อนที่อาจจะมีความสำคัญมากกว่าการบีบอัดในการควบคุมการระเบิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาใหม่ในหินหนืดขึ้นโดย geoscientists ที่มหาวิทยาลัยลิเวอร์พูล ได้พบว่า อุณหภูมิอาจจะสำคัญมากกว่าความดันในการสร้างฟองก๊าซ ซึ่งก่อระเบิดภูเขาไฟปะทุ .

ในกระดาษที่ตีพิมพ์ในธรรมชาติ นักวิจัยที่โรงเรียนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยพบว่าเป็นหินหนืดขึ้นในท่อภูเขาไฟ ,มันร้อนขึ้นซึ่งสามารถละลายสินค้าของคริสตัลและบังคับให้เกิดฟอง ที่สำคัญ พวกเขายังพบว่ามีฟองอากาศเกิดขึ้นโดยความร้อนมากกว่าที่ผ่านการบีบอัด ซึ่งเคยคิดก่อนหน้านี้

ศึกษาซึ่งรวมการสังเกตภาคสนาม การติดตามข้อมูล และควบคุม experimentations ห้องปฏิบัติการมีอาร์กิวเมนต์ที่แข็งแกร่งสำหรับการรวมของอุณหภูมิเป็นตัวควบคุมหลักในภูเขาไฟปะทุรุ่น

ยัน lavall é e , ลิเวอร์พูล ศาสตราจารย์ของ Volcanology ที่เป็นผู้นำการวิจัย กล่าวว่า " การเปรียบเทียบที่ดีนี้เป็นเนยถั่ว : เมื่อมันเย็นเกินไปและเหนียว เราจ้วงมีดลงไป และผัดให้อบอุ่น มันและให้มันไหลออกมากขึ้น กับภูเขาไฟหินหนืดขึ้นในท่อภูเขาไฟยังร้อนขึ้นและนี้ช่วยให้โฟมและปะทุระเบิด "

เขาเพิ่ม : " ความจริงที่อุณหภูมิอาจจะสำคัญมากกว่าความดันในรุ่นของฟองก๊าซน้อย magmas น่าทึ่งและต้องพิจารณาทันทีจากชุมชนวิทยาศาสตร์