The Sten emerged while Britain was

The Sten emerged while Britain was engaged in the Battle of Britain, facing invasion by Germany. The army was forced to replace weapons lost during the evacuation from Dunkirk while expanding at the same time. Prior to 1941 (and even later) the British were purchasing all the Thompson submachine guns they could from the United States, but these did not begin to meet demand. The American entry into the war at the end of 1941 placed an even bigger demand on the facilities making Thompsons. In order to rapidly equip a sufficient fighting force to counter the Axis threat, the Royal Small Arms Factory, Enfield, was commissioned to produce an alternative.

The credited designers were Major R. V. Shepherd, OBE, Inspector of Armaments in the Ministry of Supply Design Department at The Royal Arsenal, Woolwich, (later Assistant Chief Superintendent at the Armaments Design Department) and Mr. Harold John Turpin, Senior Draughtsman of the Design Department of the Royal Small Arms Factory (RSAF), Enfield. Shepherd had been recalled to service after having retired and spending some time at BSA.

The Sten shared design features, such as its side-mounted magazine configuration, with the Royal Navy's Lanchester submachine gun, which was a copy of the German MP28. In terms of manufacture, the Lanchester was entirely different, being made of high-quality materials with pre-war fit and finish, in stark contrast to the Sten's austere execution. The Lanchester and Sten magazines were even interchangeable (though the Lanchester's magazine was longer with a 50 round capacity, compared to the Sten's 32 round capacity).

The Sten used simple stamped metal components and minor welding, which required a minimum of machining and manufacturing. Much of the production could be performed by small workshops, with the firearms assembled at the Enfield site. Over the period of manufacture the Sten design was further simplified: the most basic model, the Mark III, could be produced from five man-hours work. Some of the cheapest versions were made from only 47 different parts. It was distinctive for its bare appearance (just a pipe with a metal loop for a stock), and its horizontal magazine. The Mark I was a more finely finished weapon with a wooden foregrip and handle; later versions were generally more spartan, although the final version, the Mark V, which was produced after the threat of invasion had died down, was produced to a higher standard.

The Sten underwent various design improvements over the course of the war. For example, the Mark 4 cocking handle and corresponding hole drilled in the receiver were created to lock the bolt in the closed position to reduce the likelihood of accidental discharges inherent in the design. Most changes to the production process were more subtle, designed to give greater ease of manufacture and increased reliability. Sten guns of late 1942 and beyond were, in general, highly effective weapons, though complaints of accidental discharge continued throughout the war. Such was the ease of manufacture that the Germans also produced a version of the Sten, the MP 3008, late in the war and the Sten was used extensively by Jewish partisans during the Israeli War of Independence.

The Sten was replaced by the Sterling submachine gun from 1953 and was gradually withdrawn from British service in the 1960s. The other Commonwealth nations made or adopted their own replacements.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Sten ปรากฏขึ้นในขณะที่หมั้นในการต่อสู้ของสหราชอาณาจักร เผชิญการรุกรานจากเยอรมนีสหราชอาณาจักร กองทัพบกถูกบังคับให้เปลี่ยนอาวุธที่หายไปในระหว่างอพยพจากดันเคิร์กขณะขยายในเวลาเดียวกัน ก่อน 1941 (และหลังจาก) ชาวอังกฤษได้ซื้อทอมป์สันทั้งหมดปืนกลมือที่พวกเขาได้จากสหรัฐอเมริกา แต่เหล่านี้ไม่ได้เริ่มการตอบสนองความต้องการ รายการอเมริกันเข้าสู่สงครามในปลายปีค.ศ. 1941 วางความเป็นใหญ่แม้ในสิ่งที่ทำให้ Thompsons เพื่อจัดให้มีแรงต่อสู้เพียงพอเพื่อคุกคามแกนอย่างรวดเร็ว โรงงานอาวุธขนาดเล็ก แอนฟิวส์ ถูกมอบหมายอำนาจหน้าที่ในการผลิตทางการนักออกแบบเครดิตได้วิชา R. V. คนเลี้ยงแกะ โอบีอี ตรวจสอบโรงในกระทรวงของจัดหาออกแบบแผนกเดอะรอยัลอาร์เซนอล นีย์, (ภายหลังผู้ช่วยประธาน Superintendent ที่แผนกออกแบบโรง) และ Draughtsman นายฮาโรลด์จอห์น Turpin อาวุโสของแผนกออกแบบของรอยัลอาวุธขนาดเล็กโรงงาน (RSAF), แอนฟิวส์ คนเลี้ยงแกะได้ถูกยกเลิกบริการหลังจากที่มีปลดเกษียณ และใช้เวลาที่บีเอสเอSten ที่ใช้ร่วมกันคุณลักษณะการออกแบบ เช่นการติดด้านนิตยสารกำหนดค่า มีของราชนาวี Lanchester ปืนกลมือ ซึ่งสำเนา MP28 เยอรมัน ในด้านการผลิต Lanchester ไม่แตกต่าง การทำวัสดุคุณภาพกับก่อนสงครามพอดี และเสร็จ สิ้น ในทางตรงข้ามสิ้นเชิงกับการดำเนินการที่น่ากลัวของ Sten นิตยสาร Lanchester และ Sten ได้เปลี่ยนได้ (แม้ว่านิตยสารของ Lanchester มียาว มีกำลังรอบ 50 เปรียบเทียบกับของ Sten 32 รอบรอง)Sten ที่ใช้ง่ายส่วนประกอบโลหะประทับและเชื่อมรอง ที่ต้องการขั้นต่ำของเครื่องจักรกลและการผลิต มากในการผลิตสามารถทำได้ โดยการประชุมเชิงปฏิบัติการขนาดเล็ก ด้วยอาวุธไฟประกอบไซต์แอนฟิวส์ ในช่วงของการผลิต แบบ Sten ได้เพิ่มเติมภาษา: สามารถผลิตรูปแบบพื้นฐาน Mark III งานค่าห้า บางรุ่นราคาถูกที่สุดเกิดจากส่วนต่าง ๆ 47 เท่านั้น โดดเด่นของลักษณะเปลือย (เพียงแค่ท่อกับห่วงโลหะสำหรับคลัง), และเป็นนิตยสารแนวนอนได้ เครื่องหมายผมอาวุธขึ้นประณีตเสร็จ foregrip ไม้และจับ รุ่นได้โดยทั่วไปมากหน่อย แม้ว่ารุ่นสุดท้าย หมาย V ที่ถูกผลิตหลังจากภัยคุกคามของการบุกรุกได้เสียชีวิตลง ถูกผลิตให้มีมาตรฐานสูงSten ผ่านการปรับปรุงออกแบบต่าง ๆ ในช่วงสงคราม ตัวอย่าง 4 หมายจับ cocking และตรงหลุมที่เจาะในผู้รับมีสร้างล็อกกลอนในตำแหน่งปิดเพื่อลดโอกาสของการปล่อยในการออกแบบโดยบังเอิญ การเปลี่ยนแปลงการผลิตส่วนใหญ่ได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ให้มากกว่าความสะดวกในการผลิตและเพิ่มความน่าเชื่อถือ Sten ปืนของปลายปี 1942 และนอกจากได้ ในอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูง ทั่วไป แม้ว่าข้อร้องเรียนโดยไม่ได้ตั้งใจปล่อยอย่างต่อเนื่องตลอดสงคราม เช่นมีความสะดวกในการผลิตที่เยอรมันยังผลิตรุ่น Sten, 3008 MP ในสงคราม และ Sten ถูกใช้อย่างกว้างขวาง โดย partisans ชาวยิวระหว่างสงครามอิสรภาพอิสราเอลSten ถูกแทนที่ ด้วยปืนกลมือสเตอร์ลิงจาก 1953 และก็ค่อย ๆ ถอนตัวออกจากบริการที่อังกฤษในปี 1960 ประเทศเครือจักรภพอื่น ๆ ทำ หรือนำมาใช้แทนตนเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

The Sten emerged while Britain was engaged in the Battle of Britain, facing invasion by Germany. The army was forced to replace weapons lost during the evacuation from Dunkirk while expanding at the same time. Prior to 1941 (and even later) the British were purchasing all the Thompson submachine guns they could from the United States, but these did not begin to meet demand.สหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามในตอนท้ายของ 1941 วางความต้องการที่ยิ่งใหญ่บนเครื่องทำให้ทอมสัน . เพื่อที่จะได้อย่างรวดเร็วจัดให้เพียงพอ สู้แรงต้าน แกน คุกคาม รอยัล Enfield , แขนเล็ก ๆโรงงาน ก็รับหน้าที่ผลิตทางเลือก

เครดิตนักออกแบบเป็นหลัก อาร์ วี เชพเพิร์ด , OBE Inspector of Armaments in the Ministry of Supply Design Department at The Royal Arsenal, Woolwich, (later Assistant Chief Superintendent at the Armaments Design Department) and Mr. Harold John Turpin, Senior Draughtsman of the Design Department of the Royal Small Arms Factory (RSAF), Enfield. Shepherd had been recalled to service after having retired and spending some time at BSA.

การเตือนที่ออกแบบคุณสมบัติ เช่น การติดตั้งที่ด้านข้างของนิตยสาร กับกองทัพเรือของปืนกลมือแลนเชสเตอร์ซึ่งเป็นสำเนาของ mp28 เยอรมัน ในแง่ของการผลิต , การกำหนดที่แตกต่างกันทั้งหมด ถูกผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ด้วยพอดีก่อนสงครามและเสร็จสิ้นในสิ้นเชิงกับฟังก็ไม่ดำเนินการในการกำหนดและนิตยสารฟังยังได้ ( แต่ของนิตยสารอีกต่อไป ด้วยการกำหนดความจุ 50 รอบ เทียบกับความจุ 32 รอบฟัง ) .

ฟังง่ายและใช้ชิ้นส่วนโลหะประทับตราเชื่อมเล็กน้อย ซึ่งต้องมีอย่างน้อยที่สุดของเครื่องจักรและการผลิต มากของการผลิตสามารถดำเนินการโดยการประชุมเชิงปฏิบัติการขนาดเล็ก with the firearms assembled at the Enfield site. Over the period of manufacture the Sten design was further simplified: the most basic model, the Mark III, could be produced from five man-hours work. Some of the cheapest versions were made from only 47 different parts. It was distinctive for its bare appearance (just a pipe with a metal loop for a stock), and its horizontal magazine.มาร์คฉันเป็นมากขึ้นประณีตเสร็จอาวุธกับ foregrip ไม้และการจัดการ ; รุ่นต่อมาถูกเพิ่มเติมโดยทั่วไปสปาร์ตัน แม้ว่ารุ่นสุดท้าย , Mark V ซึ่งผลิตหลังจากการรุกรานได้ตายลง ถูกผลิตให้มีมาตรฐานสูง .

ฟังได้รับการปรับปรุงการออกแบบต่าง ๆ ผ่านหลักสูตรของ สงคราม ตัวอย่างเช่น