When oil and coal is burnt they emi

When oil and coal is burnt they emit huge amounts of carbon dioxide and other harmful gases, that have a negative effect on the environment, like sulfur dioxide. Carbon dioxide traps in the sunlight as it only lets light in, it does not allow it to leave the atmosphere which causes temperatures to rise. If temperatures are too hot it is terrible for children and elderly people who find it hard to cope with hot conditions.

To stop the green house effect we must find alternative transport. Did you know that for every liter of petrol used 3 kilograms of carbon dioxide is released into the air.

Coal and Oil also let off sulfur dioxide which mixes with the moisture and clouds in the air and forms sulfuric acid. The sulfuric acid is know as acid rain as when it falls it causes forests, vegetation and crops to die, which upsets the equilibrium of many ecosystems. Acid rain occurs in Australia but is not as bad as in Europe where some of he most beautiful forests in the world are dying as a result of acid rain.

With these effects in mind and the fact that fossil fuels are predicted to run out within the next 40-50 years it is essential that we find alternative and renewable energy sources. I will now give you some information about the three main renewable resources which may be the answer to our energy crisis.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เมื่อมีเผาน้ำมันและถ่านหิน จะปล่อยจำนวนมากของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเป็นอันตรายอื่น ๆ ที่มีผลกระทบสิ่งแวดล้อม เช่นซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับดักในแสงแดดเป็นเพียงให้แสงใน มันไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบรรยากาศที่ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น หากอุณหภูมิร้อนเกินไป อาจจะน่ากลัวสำหรับเด็กและผู้สูงอายุที่พบยากที่จะรับมือกับสภาพร้อน หยุดผลกระทบเรือนกระจก เราต้องหาทางเลือกการขนส่ง คุณทราบหรือไม่ว่า สำหรับทุกลิตรของน้ำมันที่ใช้ 3 กิโลกรัมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปในอากาศถ่านหินและน้ำมันยังให้ปิดซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ผสมกับความชื้นและเมฆในอากาศ และใช้กรดซัลฟิวริก กรดกำมะถันจะรู้เป็นฝนกรดเป็นเมื่อมันตกมันป่าสาเหตุ และพืชที่ตาย ซึ่ง upsets สมดุลของระบบนิเวศหลาย ฝนกรดเกิดขึ้นในออสเตรเลีย แต่ไม่ได้เลวร้ายในยุโรปที่เขาป่าที่สวยที่สุดในโลกอย่างใดอย่างหนึ่งจะตายจากฝนกรด ด้วยลักษณะพิเศษเหล่านี้ในจิตใจและความจริงที่ว่า เชื้อเพลิงฟอสซิลจะทำนาย พร่องภายในอีก 40-50 ปี มันเป็นสิ่งสำคัญที่เราค้นหาแหล่งพลังงานทดแทน และทดแทน จะตอนนี้ให้คุณข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสามหลักทดแทนทรัพยากรซึ่งอาจเป็นคำตอบของวิกฤติพลังงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อน้ำมันและถ่านหินถูกเผาที่พวกเขาปล่อยออกมาจำนวนมากของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซที่เป็นอันตรายอื่น ๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเช่นก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ กับดักก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในแสงแดดเป็นเพียงช่วยให้แสงก็ไม่ได้อนุญาตให้ออกจากชั้นบรรยากาศที่ทำให้เกิดอุณหภูมิสูงขึ้น หากมีอุณหภูมิร้อนเกินไปมันเป็นที่น่ากลัวสำหรับเด็กและผู้สูงอายุที่พบว่ามันยากที่จะรับมือกับสภาพอากาศร้อน. ในการหยุดผลกระทบบ้านสีเขียวที่เราจะต้องพบกับทางเลือกในการขนส่ง คุณทราบหรือไม่ว่าทุกลิตรของน้ำมันที่ใช้ 3 กิโลกรัมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยออกไปในอากาศ. ถ่านหินและน้ำมันยังช่วยให้ออกจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ผสมกับความชื้นและเมฆในอากาศและรูปแบบกรดกำมะถัน กรดซัลฟูริกทราบว่าเป็นฝนกรดเมื่อมันตกจะทำให้ป่าไม้พืชผักและพืชที่จะตายซึ่งพลิกความสมดุลของระบบนิเวศหลาย ฝนกรดเกิดขึ้นในออสเตรเลีย แต่ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ในยุโรปที่บางส่วนของเขาป่าที่สวยงามมากที่สุดในโลกที่กำลังจะตายเป็นผลมาจากฝนกรด. กับผลกระทบเหล่านี้ในใจและความจริงที่ว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลที่คาดว่าจะวิ่งออกมาจากภายใน ต่อไป 40-50 ปีที่ผ่านมามันเป็นสิ่งสำคัญที่เราพบแหล่งพลังงานทางเลือกและพลังงานทดแทน ตอนนี้ผมจะให้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสามทรัพยากรหมุนเวียนหลักซึ่งอาจจะเป็นคำตอบให้กับวิกฤตพลังงานของเรา