ลดภาษีธุรกรรมอสังหาฯ
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า ขณะกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องลดภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีเงินได้ ค่าธรรมเนียมการโอนและค่าอากรแสตมป์ ในการขายหรือจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทางหนึ่งซึ่งยังสรุปไม่ได้ว่าจะลดในอัตราเท่าไหร่ ส่วนจะกำหนดให้เป็นมาตรการถาวรหรือไม่ ต้องประเมินทั้งข้อดีและข้อเสียโดยเปรียบเทียบเรื่องการสูญเสียรายได้ของรัฐจากการเก็บค่าธรรมเนียม กับความสำเร็จในการกระตุ้นเศรษฐกิจว่าคุ้มกันหรือไม่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะได้ข้อสรุป และเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในปีนี้แน่นอน สำหรับสินเชื่อกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขณะนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส) และธนาคารออมสิน ยืนยันความพร้อมแล้วโดยจะแบ่งปล่อยวงเงินสินเชื่อธนาคารละ 30,000 ล้านบาท รวม 60,000 ล้านบาทซึ่งหากรวมกับมาตรการสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆรวมวงเงิน136,000 ล้านบาท จะทำให้อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจไทย(จีดีพี) ปีนี้โตถึง 3% ส่วนการลงทุนของภาคเอกชนอาจไม่ฟื้นตัวรวดเร็วเพราะความเชื่อมั่นภาคเอกชนอยู่ในระดับต่ำ ขณะเดียวกันภาคการส่งออกยังแย่ซึ่งถือเป็นความเสี่ยงจีดีพีไทยอาจโตไม่ถึง 3%อย่างไรก็ตามรัฐบาลต้องเร่งขับเคลื่อนการลงทุนขนาดใหญ่ให้เกิดขึ้นและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นเร็วที่สุด ทั้งนี้ในเดือน ธ.ค. สำนักงานเศรษฐกิจและการคลังจะปรับจีดีพีใหม่อีกครั้งและคาดว่าจะเพิ่มมากกว่า 3% จากปัจจัยบวกเรื่องมาตรการตุ้นเศรษฐกิจแม้สำนักวิจัยเอกชนจะปรับลดลงเหลือ 2.8-2.7%“