Double Entry and the Accrual Basis

Double Entry and the Accrual Basis of Accounting
At the heart of financial accounting is the system known as double entry bookkeeping (or "double entry accounting"). Each financial transaction that a company makes is recorded by using this system.
The term "double entry" means that every transaction affects at least two accounts. For example, if a company borrows $50,000 from its bank, the company's Cash account increases, and the company's Notes Payable account increases. Double entry also means that one of the accounts must have an amount entered as a debit, and one of the accounts must have an amount entered as a credit. For any given transaction, the debit amount must equal the credit amount. (To learn more about debits and credits, see Explanation of Debits & Credits.)
The advantage of double entry accounting is this: at any given time, the balance of a company's asset accounts will equal the balance of its liability and stockholders' (or owner's) equity accounts. (To learn more on how this equality is maintained, see the Explanation of Accounting Equation.)
Financial accounting is required to follow the accrual basis of accounting (as opposed to the "cash basis" of accounting). Under the accrual basis, revenues are reported when they areearned, not when the money is received. Similarly, expenses are reported when they areincurred, not when they are paid. For example, although a magazine publisher receives a $24 check from a customer for an annual subscription, the publisher reports as revenue a monthly amount of $2 (one-twelfth of the annual subscription amount). In the same way, it reports its property tax expense each month as one-twelfth of the annual property tax bill.
By following the accrual basis of accounting, a company's profitability, assets, liabilities and other financial information is more in line with economic reality. (To learn more on achieving the accrual basis of accounting, see the Explanation of Adjusting Entries.)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รายการคู่และการรับรู้ข้อมูลพื้นฐานของบัญชี
หัวใจของการบัญชีการเงินเป็นระบบที่เรียกว่าการจัดทำบัญชีรายการคู่ (หรือ "สองรายการบัญชี") แต่ละธุรกรรมทางการเงินที่บริษัทจะถูกบันทึกไว้ โดยใช้ระบบนี้
คำว่า "คู่รายการ" หมายความ ว่า ทุกธุรกรรมมีผลกระทบต่อบัญชีอย่างน้อย 2 ตัวอย่างเช่น ถ้าบริษัทมิตร $50000 จากของธนาคาร เพิ่มบัญชีเงินสดของบริษัท และเพิ่มบัญชีเจ้าหนี้ตั๋วเงินของบริษัท รายการคู่หมายความ ว่า บัญชีหนึ่งต้องมีการป้อนเป็นเดบิตจำนวนเงิน และหนึ่งในบัญชีต้องมีการป้อนเป็นเครดิตจำนวนเงิน สำหรับธุรกรรมใด ๆ กำหนด ยอดเดบิตต้องเท่ากับยอดเงินเครดิต (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดบิตและเครดิต ดูอธิบายเดบิตเครดิต&)
นี่คือประโยชน์ของการบัญชีดับเบิลรายการ: ในเวลาที่กำหนด ยอดดุลของบัญชีสินทรัพย์ของบริษัทจะเท่ากับดุล ของของความรับผิดชอบ และ stockholders' (เจ้าของ) ส่วนบัญชี (ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีรักษานี้ความเสมอภาค ดูคำอธิบายของการบัญชีสมการ)
การบัญชีการเงินจะต้องทำตามเกณฑ์คงค้างของบัญชี (ตรงข้ามกับ "เงินสดพื้นฐาน" ของบัญชี) ภายใต้เกณฑ์คงค้าง รายงานรายได้เมื่อพวกเขา areearned เมื่อได้รับเงินไม่ ในทำนองเดียวกัน มีรายงานค่าใช้จ่ายเมื่อพวกเขา areincurred เมื่อมีการชำระเงินไม่ ตัวอย่าง แม้ว่าผู้เผยแพร่นิตยสารได้รับเครื่องหมาย $24 จากลูกค้าสำหรับการบอกรับเป็นสมาชิกรายปี ผู้เผยแพร่รายงานเป็นรายได้จำนวน $2 (หนึ่ง-twelfth จำนวนสมาชิกรายปี) ประจำเดือน เดียว รายงานค่าใช้จ่ายภาษีทรัพย์สินของแต่ละเดือนเป็นหนึ่ง-twelfth ของปีภาษีทรัพย์สินรายการ
ตามเกณฑ์คงค้างบัญชี สินทรัพย์ ผลกำไรของบริษัท หนี้สินและส่วนของข้อมูลทางการเงินอื่น ๆ จะเพิ่มเติมตามความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ (เพิ่มเติมในการบรรลุเกณฑ์คงค้างบัญชี ดูคำอธิบายของการปรับปรุงรายการ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รายการคู่และแบบเกณฑ์คงค้างการบัญชี
ที่หัวใจของบัญชีทางการเงินที่เป็นระบบที่รู้จักกันเป็น คู่ การบันทึกบัญชี ( หรือ " ดับเบิลบัญชี " รายการ ) แต่ละธุรกรรมทางการเงินที่ บริษัท จะถูกบันทึก โดยการใช้ระบบนี้ คำว่า " คู่
รายการ " หมายความว่าทุกธุรกรรมที่มีผลต่ออย่างน้อยสองบัญชี ตัวอย่างเช่น , ถ้าบริษัทยืมเงิน $ 50 , 000 จากธนาคารของของ บริษัท เพิ่มเงินสดในบัญชี และบันทึกบัญชีเจ้าหนี้การค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น สองรายการยังหมายความว่าหนึ่งในบัญชีต้องมียอดเงินเข้ามาเป็นเดบิต และบัญชีนึงต้องมียอดเงินเข้ามาเป็นเครดิต ใด ๆ รายการ ยอดเดบิตต้องเท่ากับยอดเงินเครดิต . ( เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเดบิตและเครดิต เดบิต เครดิต ดูคำอธิบายของ&
)ประโยชน์ของบัญชีรายการคู่นี้คือ : ในเวลาใดก็ตาม , ดุลบัญชีทรัพย์สินของ บริษัท จะเท่ากับสมดุลภาระและผู้ถือหุ้น ( หรือเจ้าของบัญชีทุน ( เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการรักษาความเสมอภาคนี้ ดูคำอธิบายของสมการ บัญชี )
บัญชีทางการเงินที่ต้องปฏิบัติตามระบบบัญชีเกณฑ์คงค้าง ( เป็นนอกคอก " เงินสดพื้นฐานของการบัญชี ภายใต้หลักเงินค้างรายได้ถูกรายงานว่าเมื่อพวกเขา areearned ในเมื่อเงินที่ได้รับ ในทำนองเดียวกันค่าใช้จ่ายรายงานเมื่อพวกเขา areincurred ไม่ได้เมื่อพวกเขาจะได้รับเงิน ตัวอย่างเช่นแม้ว่านิตยสารจะได้รับการตรวจสอบ $ 25 จากลูกค้า สำหรับการสมัครสมาชิกรายปี เผยแพร่รายงานรายได้เป็นจำนวนเงินรายเดือนของ $ 2 ( หนึ่งในสิบของจำนวนเงินที่สมัครสมาชิกรายปี ) ในทางเดียวกัน มันรายงานของภาษีทรัพย์สิน ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนเป็นหนึ่งในสิบของร่างพระราชบัญญัติภาษีที่ดินประจําปี
ตามระบบบัญชีเกณฑ์คงค้าง ของบริษัทไร ทรัพย์สินหนี้สินและข้อมูลทางการเงินอื่น ๆ มีมากขึ้นในสอดคล้องกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการบรรลุเกณฑ์ค้างรับค้างจ่ายในบัญชี ดูคำอธิบายของการปรับปรุงรายการ )