ฟิลิปปินส์ปกครองในระบอบประชาธิปไตย

ฟิลิปปินส์ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ในรูปแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน อยู่ในตำแหน่งคราวละ 6 ปี ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 1 วาระ วุฒิสภามีสมาชิก 24 คน มาจากการเลือกตั้งจากผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วประเทศ (nationwide – elected) มีวาระ 6 ปี และรัฐบาลจะจัดให้มีการเลือกตั้งวุฒิสภาจำนวนครึ่งหนึ่ง (12 คน) ทุก 3ปีฟิลิปปินส์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 17 เขต (region) 80 จังหวัด (province) และ 120 เมือง (city) โดยแบ่งการปกครองย่อยออกเป็น 1,499 เทศบาล (municipality) และ 41,969 บารังไก (barangay) ซึ่งเทียบเท่าตำบลหรือหมู่บ้าน
ฟิลิปปินส์จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร และสภาผู้แทนท้องถิ่นทั่วประเทศ รวม 17,996ตำแหน่งในคราวเดียวกัน เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 มีผู้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 50.7 ล้านคน ในจำนวนนี้ มีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประมาณ 38 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 75 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมด โดยนายเบนิกโน เอส อาคีโน ที่สาม (Benigno S. Aquino III) ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจากพรรค Liberal (LP) และนายเจโจมาร์ บิไน (Jejomar Binay) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมากาติ (Makati) ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี
รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดี อาคีโน ที่สาม มุ่งให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบบริหารประเทศเพื่อปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงและขจัดความยากจน จึงได้รับความนิยม จากประชาชนและมีสถานะความมั่นคงทางการเมืองสูง ทั้งนี้ รัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วน ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ การสร้างมาตรฐานกฎระเบียบด้านงบประมาณ การปรับปรุงระบบข้าราชการพลเรือน และการปรับปรุงระบบการศึกษา ส่วนประเด็นด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รัฐบาลฟิลิปปินส์เน้นการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นท้าทายต่าง ๆ เช่น การก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การระบาดของโรคติดต่อ การฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ และการสร้างพลังประชาคมระหว่างประเทศในทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals – MDG) ภายในปี 2558

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟิลิปปินส์ปกครองในระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบสาธารณรัฐมีประธานาธิบดีเป็นประมุขมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนอยู่ในตำแหน่งคราวละ 6 ปีดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 1 วาระวุฒิสภามีสมาชิก 24 คนมาจากการเลือกตั้งจากผู้มีสิทธิออกเสียงทั่วประเทศ (การเลือกตั้งทั่วประเทศ) มีวาระ 6 ปีและรัฐบาลจะจัดให้มีการเลือกตั้งวุฒิสภาจำนวนครึ่งหนึ่ง (12 คน) ทุก 3ปีฟิลิปปินส์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 17 เขต (ภูมิภาค) 80 จังหวัด (จังหวัด) และ 120 เมือง (เมือง) โดยแบ่งการปกครองย่อยออกเป็น 1,499 เทศบาล (เทศบาล) และ 41,969 บารังไก (barangay) ซึ่งเทียบเท่าตำบลหรือหมู่บ้าน ฟิลิปปินส์จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีวุฒิสภาสภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนท้องถิ่นทั่วประเทศรวม 17, 996ตำแหน่งในคราวเดียวกัน เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 มีผู้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 50.7 ล้านคนในจำนวนนี้มีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประมาณ 38 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ 75 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมดโดยนายเบนิกโนเอสอาคีโนที่สาม (เดิน S. Aquino III) ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเสรี (LP) และนายเจโจมาร์บิไน (Jejomar Binay) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมากาติ (ติ) ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดีรัฐบาลภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีอาคีโนที่สามมุ่งให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบบริหารประเทศเพื่อปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงและขจัดความยากจนจึงได้รับความนิยมจากประชาชนและมีสถานะความมั่นคงทางการเมืองสูงทั้งนี้รัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วนได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศการสร้างมาตรฐานกฎระเบียบด้านงบประมาณการปรับปรุงระบบข้าราชการพลเรือนและการปรับปรุงระบบการศึกษาส่วนประเด็นด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศรัฐบาลฟิลิปปินส์เน้นการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นท้าทายต่างๆ เช่นการก่อการร้ายอาชญากรรมข้ามชาติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการระบาดของโรคติดต่อการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและการสร้างพลังประชาคมระหว่างประเทศในทุกภาคส่วนเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (มิลเลเนียมพัฒนาเป้าหมาย MDG) ภายในปี 2558

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในรูปแบบสาธารณรัฐมีประธานาธิบดีเป็นประมุขมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนอยู่ในตำแหน่งคราวละ 6 ปีดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 1 วาระวุฒิสภามีสมาชิก 24 คน (ได้รับการเลือกตั้งทั่วประเทศ ??) มีวาระ 6 ปี (12 คน) ทุก 17 เขต (ภูมิภาค) 80 จังหวัด (จังหวัด) และ 120 เมือง (City) โดยแบ่งการปกครองย่อยออกเป็น 1,499 เทศบาล (เทศบาล) และ 41,969 บารังไก (รังเกย์)
วุฒิสภาสภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนท้องถิ่นทั่วประเทศรวม 17,996 ตำแหน่งในคราวเดียวกันเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 50.7 ล้านคนในจำนวนนี้มีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประมาณ 38 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ 75 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมดโดยนายเบนิกโนเอสอาคีโนที่สาม (Benigno S. Aquino III) เสรีนิยม (LP) และนายเจโจมาร์บิไน (Jejomar Binay) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมากาติ (Makati)
อาคีโนที่สาม จึงได้รับความนิยม ทั้งนี้รัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วน ได้แก่ การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ การปรับปรุงระบบข้าราชการพลเรือนและการปรับปรุงระบบการศึกษา ๆ เช่นการก่อการร้ายอาชญากรรมข้ามชาติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการระบาดของโรคติดต่อการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ (เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษ ?? MDG) ภายในปี 2558

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟิลิปปินส์ปกครองในระบอบประชาธิปไตยในรูปแบบสาธารณรัฐมีประธานาธิบดีเป็นประมุขมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนอยู่ในตำแหน่งคราวละ 6 . ดำรงตำแหน่งได้ไม่เกิน 1 วาระวุฒิสภามีสมาชิก 24 คน( ทั่วประเทศ - เลือกตั้ง ) มีวาระ 6 . และรัฐบาลจะจัดให้มีการเลือกตั้งวุฒิสภาจำนวนครึ่งหนึ่ง ( 12 คน ) ทุก 3 ปีฟิลิปปินส์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 17 เขต ( ภูมิภาค ) 80 จังหวัด ( จังหวัด ) และ 120 เมือง ( เมือง ) โดยแบ่งการปกครองย่อยออกเป็น 1499 เทศบาล ( เทศบาล ) และ 41969 บารังไก ( สถานีตำรวจ ) ซึ่งเทียบเท่าตำบลหรือหมู่บ้าน
ฟิลิปปินส์จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีวุฒิสภาสภาผู้แทนราษฎรและสภาผู้แทนท้องถิ่นทั่วประเทศรวม 17 ,เพลงตำแหน่งในคราวเดียวกันเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2553 มีผู้ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมด 507 ล้านคนในจำนวนนี้มีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประมาณ 38 ล้านคนคิดเป็นร้อยละ 75 ของผู้ลงทะเบียนทั้งหมดโดยนายเบนิกโนเอสอาคีโนที่สาม ( Benigno S .Aquino III ) ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีจากพรรคเสรีนิยม ( LP ) และนายเจโจมาร์บิไน ( เจโจมาร์ บิไนน์ ) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองมากาติ ( Makati ) ได้รับเลือกตั้งเป็นรองประธานาธิบดี
รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของประธานาธิบดีอาคีโนที่สามมุ่งให้ความสำคัญกับการปฏิรูประบบบริหารประเทศเพื่อปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงและขจัดความยากจนจึงได้รับความนิยมทั้งนี้รัฐบาลมีมาตรการเร่งด่วนได้แก่การส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศการสร้างมาตรฐานกฎระเบียบด้านงบประมาณการปรับปรุงระบบข้าราชการพลเรือนและการปรับปรุงระบบการศึกษารัฐบาลฟิลิปปินส์เน้นการส่งเสริมความร่วมมือในประเด็นท้าทายต่างจะเช่นการก่อการร้ายอาชญากรรมข้ามชาติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศการระบาดของโรคติดต่อการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจ( เป้าหมายการพัฒนาสหัสวรรษ - MD5 ) ภายในปี 2558