โครงสร้างของดิน (Soil Structure) เป็นคุณสมบัติของดิน ที่เกิดจากสภาพที่ การแปล - โครงสร้างของดิน (Soil Structure) เป็นคุณสมบัติของดิน ที่เกิดจากสภาพที่ ไทย วิธีการพูด

โครงสร้างของดิน (Soil Structure) เป

โครงสร้างของดิน (Soil Structure)

เป็นคุณสมบัติของดิน ที่เกิดจากสภาพที่อนุภาคของดินที่เกาะกันเป็นก้อนหรือเม็ดดิน มีขนาดต่างๆ อยู่รวมกันอย่างหลวมๆ ตามธรรมชาติ ทำให้ดินมีสภาพโปร่ง ไม่แน่นทึบ ดินทราย และดินเหนียว ถ้ามีโครงสร้างที่เหมาะสม ก็จะสามารถเปลี่ยนสภาพความโปร่ง และความแน่นทึบ อันเป็นคุณสมบัติเดิมของเนื้อดินนั้นได้ เช่น ดินเหนียว คุณสมบัติเดิมคือ เหนียวและแน่นทึบ ถ้าเราใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปนานๆ เข้า โครงสร้างที่ดีก็จะเกิดขึ้น ซึ่งมีผลให้ดินนั้น มีคุณสมบัติโปร่ง ไถพรวนง่ายขึ้น เพราะดินจะฟูขึ้นมา เนื่องจากอนุภาคดินเหนียวจะจับเกาะกันเป็นเม็ดดินก้อนเล็กๆ อยู่ รวมกันอย่างหลวมๆ เช่นเดียวกับดินทราย คุณสมบัติเดิมที่โปร่งเกินไป เมื่อใช้ปุ๋ยคอกใส่ลงไปในดินนานๆ เข้า ดินจะมีโครงสร้างที่เหมาะสม กล่าวคือ อนุภาคทรายที่อยู่อย่างหลวมๆ จะจับเกาะกันเป็นก้อนดินเล็กๆ ที่แน่นทึบขึ้น ลดความโปร่งลง อุ้มน้ำดีขึ้น การไถพรวนก็ยังคงง่ายและสะดวกเหมือนเดิม ดังนั้นโครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลงได้ กล่าวคือ เราทำให้เกิดขึ้น หรือให้หมดสภาพไปได้ ส่วนเนื้อดินนั้น เราเปลี่ยนแปลงได้ยาก โดยเฉพาะในสภาพไร่นาดินผสม ปลูกต้นไม้ในกระถางเท่านั้น ที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงชนิดของเนื้อดินได้

ลักษณะโครงสร้างที่ดีของดินก็ได้แก่ สภาพที่เม็ดดินเกาะกันเป็นก้อนเล็กๆ ขนาดเท่าหัวไม้ขีดบ้าง เล็กกว่าบ้าง หรืออาจจะโตกว่าบ้างเล็กน้อย อยู่รวมกันอย่างหลวมๆ ตลอดชั้นของหน้าดินลึก ประมาณ ๑๕-๒๐ ซม. (ดินพื้นผิว) เม็ดดินเหล่านี้ จะมีความคงทนพอสมควรต่อแรงกระแทกของน้ำฝน หรือการไถพรวน แต่ถ้ามีการไถพรวนปลูกพืชเป็นเวลานาน ประกอบกับไม่มีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มเติมลงไปในดินเลย โครงสร้างดังกล่าวจะสลายตัว และหมดสภาพไป พวกดินเหนียวก็จะกลับแน่นทึบ และแข็งเมื่อแห้ง ส่วนพวกดินทรายก็จะอุ้มน้ำได้น้อยลง ดินจะโปร่งและแห้งเร็วจนเกินไป

เม็ดดินที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างที่ดีนี้ ส่วนใหญ่เกิดจากอินทรียวัตถุในดินเป็นตัวเชื่อมอนุภาคดินเหนียว ดินตะกอน และทรายเข้าด้วยกัน เป็นเม็ดดินก้อนเล็กๆ ดังนั้นการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปในดินเสมอๆ จึงส่งเสริมให้เกิดสภาพโครงสร้างที่ดีดังกล่าว เมื่ออินทรียวัตถุในดินหมดไป โครงสร้างที่ดีของดินก็จะหมดสภาพไปด้วย การใช้ปุ๋ยเคมี จะไม่มีผลในการช่วยทำให้เกิดโครงสร้างที่ดีแต่อย่างใด ดังนั้นดินที่เป็นทรายจัด หรือดินเหนียว ซึ่งแต่เดิมมีโครงสร้างที่ดี ถ้ากสิกรใช้แต่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว ถึงแม้พืชจะเติบโตได้ดีมีผลิตผลสูงในระยะแรกแต่นานๆ เข้าอินทรียวัตถุในดินจะค่อยๆ หมดไป โครงสร้างที่ดีของดินก็จะหมดสภาพไปด้วย การที่มีผู้กล่าวว่า หากใช้ปุ๋ยเคมีแล้วทำให้ดินเสียนั้นด้วย ความจริงก็คงจะด้วยเหตุผลที่ว่า เมื่อโครงสร้างที่ดีของดินเสื่อมสภาพลง นั่นคือ ดินเหนียวก็จะแน่นทึบ ส่วนดินทรายก็จะโปร่งซุยมากเกินไป แม้จะใส่ปุ๋ยเคมีลงไป พืชก็จะไม่เติบโตดีเหมือนเช่นเคย ในสภาพเช่นนี้รากของพืชจะเติบโตช้า ดึงดูดปุ๋ยและน้ำในดินไปใช้ได้น้อยลง การที่กสิกรไถพรวนดินปลูกพืชติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน โดยไม่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์บ้างเลย โครงสร้างที่ดีของดินจะหมดสภาพไป ดินก็จะแน่นทึบได้ในที่สุด ดินที่แน่นทึบ หรือมีโครงสร้างไม่ดี แม้จะใส่ปุ๋ยเคมีมากเท่าใด พืชก็จะไม่เติบโตดีเท่าที่ควร

ดังนั้น การใช้ปุ๋ยที่ถูกหลัก คือ การใช้ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกัน จึงจะเป็นผลดีต่อดิน และต่อพืชที่ปลูกมากที่สุด
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
โครงสร้างของดิน (โครงสร้างของดิน) เป็นคุณสมบัติของดินที่เกิดจากสภาพที่อนุภาคของดินที่เกาะกันเป็นก้อนหรือเม็ดดินมีขนาดต่าง ๆ อยู่รวมกันอย่างหลวม ๆ ตามธรรมชาติทำให้ดินมีสภาพโปร่งไม่แน่นทึบดินทรายและดินเหนียวถ้ามีโครงสร้างที่เหมาะสมก็จะสามารถเปลี่ยนสภาพความโปร่งและความแน่นทึบอันเป็นคุณสมบัติเดิมของเนื้อดินนั้นได้เช่นดินเหนียวคุณสมบัติเดิมคือเหนียวและแน่นทึบถ้าเราใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปนาน ๆ เข้าโครงสร้างที่ดีก็จะเกิดขึ้นซึ่งมีผลให้ดินนั้นมีคุณสมบัติโปร่งไถพรวนง่ายขึ้นเพราะดินจะฟูขึ้นมาเนื่องจากอนุภาคดินเหนียวจะจับเกาะกันเป็นเม็ดดินก้อนเล็ก ๆ อยู่รวมกันอย่างหลวม ๆ เช่นเดียวกับดินทรายคุณสมบัติเดิมที่โปร่งเกินไปเมื่อใช้ปุ๋ยคอกใส่ลงไปในดินนาน ๆ เข้าดินจะมีโครงสร้างที่เหมาะสมกล่าวคืออนุภาคทรายที่อยู่อย่างหลวม ๆ จะจับเกาะกันเป็นก้อนดินเล็ก ๆ ที่แน่นทึบขึ้นลดความโปร่งลงอุ้มน้ำดีขึ้นการไถพรวนก็ยังคงง่ายและสะดวกเหมือนเดิมดังนั้นโครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลงได้กล่าวคือเราทำให้เกิดขึ้นหรือให้หมดสภาพไปได้ส่วนเนื้อดินนั้นเราเปลี่ยนแปลงได้ยากโดยเฉพาะในสภาพไร่นาดินผสมปลูกต้นไม้ในกระถางเท่านั้นที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงชนิดของเนื้อดินได้ลักษณะโครงสร้างที่ดีของดินก็ได้แก่สภาพที่เม็ดดินเกาะกันเป็นก้อนเล็ก ๆ ขนาดเท่าหัวไม้ขีดบ้างเล็กกว่าบ้างหรืออาจจะโตกว่าบ้างเล็กน้อยอยู่รวมกันอย่างหลวม ๆ ตลอดชั้นของหน้าดินลึกประมาณ ๑๕ - ๒๐ ซม (ดินพื้นผิว) เม็ดดินเหล่านี้จะมีความคงทนพอสมควรต่อแรงกระแทกของน้ำฝนหรือการไถพรวนแต่ถ้ามีการไถพรวนปลูกพืชเป็นเวลานานประกอบกับไม่มีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มเติมลงไปในดินเลยโครงสร้างดังกล่าวจะสลายตัวและหมดสภาพไปพวกดินเหนียวก็จะกลับแน่นทึบและแข็งเมื่อแห้งส่วนพวกดินทรายก็จะอุ้มน้ำได้น้อยลงดินจะโปร่งและแห้งเร็วจนเกินไปเม็ดดินที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างที่ดีนี้ส่วนใหญ่เกิดจากอินทรียวัตถุในดินเป็นตัวเชื่อมอนุภาคดินเหนียวดินตะกอนและทรายเข้าด้วยกันเป็นเม็ดดินก้อนเล็ก ๆ ดังนั้นการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปในดินเสมอ ๆ จึงส่งเสริมให้เกิดสภาพโครงสร้างที่ดีดังกล่าวเมื่ออินทรียวัตถุในดินหมดไปโครงสร้างที่ดีของดินก็จะหมดสภาพไปด้วยการใช้ปุ๋ยเคมีจะไม่มีผลในการช่วยทำให้เกิดโครงสร้างที่ดีแต่อย่างใดดังนั้นดินที่เป็นทรายจัดหรือดินเหนียวซึ่งแต่เดิมมีโครงสร้างที่ดีถ้ากสิกรใช้แต่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวถึงแม้พืชจะเติบโตได้ดีมีผลิตผลสูงในระยะแรกแต่นาน ๆ เข้าอินทรียวัตถุในดินจะค่อย ๆ หมดไปโครงสร้างที่ดีของดินก็จะหมดสภาพไปด้วยการที่มีผู้กล่าวว่าหากใช้ปุ๋ยเคมีแล้วทำให้ดินเสียนั้นด้วยความจริงก็คงจะด้วยเหตุผลที่ว่าเมื่อโครงสร้างที่ดีของดินเสื่อมสภาพลงนั่นคือดินเหนียวก็จะแน่นทึบส่วนดินทรายก็จะโปร่งซุยมากเกินไปแม้จะใส่ปุ๋ยเคมีลงไปพืชก็จะไม่เติบโตดีเหมือนเช่นเคยในสภาพเช่นนี้รากของพืชจะเติบโตช้าดึงดูดปุ๋ยและน้ำในดินไปใช้ได้น้อยลงการที่กสิกรไถพรวนดินปลูกพืชติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยไม่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์บ้างเลยโครงสร้างที่ดีของดินจะหมดสภาพไปดินก็จะแน่นทึบได้ในที่สุดดินที่แน่นทึบหรือมีโครงสร้างไม่ดีแม้จะใส่ปุ๋ยเคมีมากเท่าใดพืชก็จะไม่เติบโตดีเท่าที่ควรดังนั้นการใช้ปุ๋ยที่ถูกหลักคือการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกันจึงจะเป็นผลดีต่อดินและต่อพืชที่ปลูกมากที่สุด
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
โครงสร้างของดิน (ดินโครงสร้าง) เป็นคุณสมบัติของดิน มีขนาดต่างๆอยู่รวมกันอย่างหลวม ๆ ตามธรรมชาติทำให้ดินมีสภาพโปร่งไม่แน่นทึบดินทรายและดินเหนียวถ้ามีโครงสร้างที่เหมาะสมก็จะสามารถเปลี่ยนสภาพความโปร่งและความแน่นทึบ เช่นดินเหนียวคุณสมบัติเดิมคือเหนียวและแน่นทึบถ้าเราใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปนาน ๆ เข้าโครงสร้างที่ดีก็จะเกิดขึ้นซึ่งมีผลให้ดินนั้นมีคุณสมบัติโปร่งไถพรวนง่ายขึ้นเพราะดินจะฟูขึ้นมา อยู่รวมกันอย่างหลวม ๆ เช่นเดียวกับดินทรายคุณสมบัติเดิมที่โปร่งเกินไปเมื่อใช้ปุ๋ยคอกใส่ลงไปในดินนาน ๆ เข้าดินจะมีโครงสร้างที่เหมาะสมกล่าวคืออนุภาคทรายที่อยู่อย่างหลวม ๆ จะจับเกาะกันเป็นก้อนดินเล็ก ๆ ที่แน่นทึบขึ้นลดความโปร่งลงอุ้มน้ำดีขึ้น กล่าวคือเราทำให้เกิดขึ้นหรือให้หมดสภาพไปได้ส่วนเนื้อดินนั้นเราเปลี่ยนแปลงได้ยากโดยเฉพาะในสภาพไร่นาดินผสมปลูกต้นไม้ในกระถางเท่านั้น ขนาดเท่าหัวไม้ขีดบ้างเล็กกว่าบ้างหรืออาจจะโตกว่าบ้างเล็กน้อยอยู่รวมกันอย่างหลวม ๆ ตลอดชั้นของหน้าดินลึกประมาณ 15-20 ซม (ดินพื้นผิว) เม็ดดินเหล่านี้ หรือการไถพรวน โครงสร้างดังกล่าวจะสลายตัวและหมดสภาพไปพวกดินเหนียวก็จะกลับแน่นทึบและแข็งเมื่อแห้ง ดินตะกอนและทรายเข้าด้วยกันเป็นเม็ดดินก้อนเล็ก ๆ เมื่ออินทรียวัตถุในดินหมดไป การใช้ปุ๋ยเคมี ดังนั้นดินที่เป็นทรายจัดหรือดินเหนียวซึ่ง แต่เดิมมีโครงสร้างที่ดีถ้ากสิกรใช้ แต่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว เข้าอินทรียวัตถุในดินจะค่อยๆหมดไป การที่มีผู้กล่าวว่า ความจริงก็คงจะด้วยเหตุผลที่ว่า นั่นคือดินเหนียวก็จะแน่นทึบส่วนดินทรายก็จะโปร่งซุยมากเกินไปแม้จะใส่ปุ๋ยเคมีลงไปพืชก็จะไม่เติบโตดีเหมือนเช่นเคยในสภาพเช่นนี้รากของพืชจะเติบโตช้า โดยไม่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์บ้างเลยโครงสร้างที่ดีของดินจะหมดสภาพไปดินก็จะแน่นทึบได้ในที่สุดดินที่แน่นทึบหรือมีโครงสร้างไม่ดีแม้จะใส่ปุ๋ยเคมีมากเท่าใด การใช้ปุ๋ยที่ถูกหลักคือการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกันจึงจะเป็นผลดีต่อดินและต่อพืชที่ปลูกมากที่สุด







การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
โครงสร้างของดิน ( โครงสร้างดิน )

เป็นคุณสมบัติของดินที่เกิดจากสภาพที่อนุภาคของดินที่เกาะกันเป็นก้อนหรือเม็ดดินมีขนาดต่างๆอยู่รวมกันอย่างหลวมๆตามธรรมชาติทำให้ดินมีสภาพโปร่งไม่แน่นทึบดินทรายและดินเหนียวถ้ามีโครงสร้างที่เหมาะสมและความแน่นทึบอันเป็นคุณสมบัติเดิมของเนื้อดินนั้นได้เช่นดินเหนียวคุณสมบัติเดิมคือเหนียวและแน่นทึบถ้าเราใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปนานๆเข้าโครงสร้างที่ดีก็จะเกิดขึ้นซึ่งมีผลให้ดินนั้นมีคุณสมบัติโปร่งเพราะดินจะฟูขึ้นมาเนื่องจากอนุภาคดินเหนียวจะจับเกาะกันเป็นเม็ดดินก้อนเล็กๆอยู่รวมกันอย่างหลวมๆเช่นเดียวกับดินทรายคุณสมบัติเดิมที่โปร่งเกินไปเมื่อใช้ปุ๋ยคอกใส่ลงไปในดินนานๆเข้ากล่าวคืออนุภาคทรายที่อยู่อย่างหลวมๆจะจับเกาะกันเป็นก้อนดินเล็กๆที่แน่นทึบขึ้นลดความโปร่งลงอุ้มน้ำดีขึ้นการไถพรวนก็ยังคงง่ายและสะดวกเหมือนเดิมดังนั้นโครงสร้างของดินเปลี่ยนแปลงได้กล่าวคือหรือให้หมดสภาพไปได้ส่วนเนื้อดินนั้นเราเปลี่ยนแปลงได้ยากโดยเฉพาะในสภาพไร่นาดินผสมปลูกต้นไม้ในกระถางเท่านั้นที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงชนิดของเนื้อดินได้

ลักษณะโครงสร้างที่ดีของดินก็ได้แก่สภาพที่เม็ดดินเกาะกันเป็นก้อนเล็กๆขนาดเท่าหัวไม้ขีดบ้างเล็กกว่าบ้างหรืออาจจะโตกว่าบ้างเล็กน้อยอยู่รวมกันอย่างหลวมๆตลอดชั้นของหน้าดินลึกประมาณ๑๕ - ๒๐ซม .( ดินพื้นผิว ) เม็ดดินเหล่านี้จะมีความคงทนพอสมควรต่อแรงกระแทกของน้ำฝนหรือการไถพรวนแต่ถ้ามีการไถพรวนปลูกพืชเป็นเวลานานประกอบกับไม่มีการใส่ปุ๋ยอินทรีย์เพิ่มเติมลงไปในดินเลยโครงสร้างดังกล่าวจะสลายตัวพวกดินเหนียวก็จะกลับแน่นทึบและแข็งเมื่อแห้งส่วนพวกดินทรายก็จะอุ้มน้ำได้น้อยลงดินจะโปร่งและแห้งเร็วจนเกินไป

เม็ดดินที่ประกอบกันเป็นโครงสร้างที่ดีนี้ส่วนใหญ่เกิดจากอินทรียวัตถุในดินเป็นตัวเชื่อมอนุภาคดินเหนียวดินตะกอนและทรายเข้าด้วยกันเป็นเม็ดดินก้อนเล็กๆดังนั้นการใส่ปุ๋ยอินทรีย์ลงไปในดินเสมอๆเมื่ออินทรียวัตถุในดินหมดไปโครงสร้างที่ดีของดินก็จะหมดสภาพไปด้วยการใช้ปุ๋ยเคมีจะไม่มีผลในการช่วยทำให้เกิดโครงสร้างที่ดีแต่อย่างใดดังนั้นดินที่เป็นทรายจัดหรือดินเหนียวซึ่งแต่เดิมมีโครงสร้างที่ดีถึงแม้พืชจะเติบโตได้ดีมีผลิตผลสูงในระยะแรกแต่นานๆเข้าอินทรียวัตถุในดินจะค่อยๆหมดไปโครงสร้างที่ดีของดินก็จะหมดสภาพไปด้วยการที่มีผู้กล่าวว่าหากใช้ปุ๋ยเคมีแล้วทำให้ดินเสียนั้นด้วยเมื่อโครงสร้างที่ดีของดินเสื่อมสภาพลงนั่นคือดินเหนียวก็จะแน่นทึบส่วนดินทรายก็จะโปร่งซุยมากเกินไปแม้จะใส่ปุ๋ยเคมีลงไปพืชก็จะไม่เติบโตดีเหมือนเช่นเคยในสภาพเช่นนี้รากของพืชจะเติบโตช้าการที่กสิกรไถพรวนดินปลูกพืชติดต่อกันเป็นระยะเวลานานโดยไม่ใช้ปุ๋ยอินทรีย์บ้างเลยโครงสร้างที่ดีของดินจะหมดสภาพไปดินก็จะแน่นทึบได้ในที่สุดดินที่แน่นทึบหรือมีโครงสร้างไม่ดีแม้จะใส่ปุ๋ยเคมีมากเท่าใด

ดังนั้นการใช้ปุ๋ยที่ถูกหลักความการใช้ปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ร่วมกันจึงจะเป็นผลดีต่อดินและต่อพืชที่ปลูกมากที่สุด
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: