The purpose of this article is to s

The purpose of this article is to study the energy and carbon dioxide intensities of Thailand's steel industry and to propose greenhouse gas emission trends from the year 2011 to 2050 under plausible scenarios.
The amount of CO2 emission from iron and steel production was calculated using the 2006 Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) guidelines in the boundary of production process (gate to gate).
The results showed that energy intensity of semi-finished steel product was 2.84 GJ/t semi-finished steel and CO2 intensity was 0.37 tCO2eq/t semi-finished steel.
Energy intensity of steel finishing process was 1.86 GJ/t finished steel and CO2 intensity was 0.16 tCO2eq/t finished steel. Using three plausible scenarios from Thailand's steel industry, S1: without integrated steel plant (baseline scenario), S2: with a traditional integrated BF–BOF route and S3: with an alternative integrated DR-EAF route; the Greenhouse Gas emissions from the year 2011 to 2050 were projected.
In 2050, the CO2 emission from S1 (baseline scenario) was 4.84 million tonnes, S2 was 21.96 million tonnes increasing 4.54 times from baseline scenario.
The CO2emission from S3 was 7.12 million tonnes increasing 1.47 times from baseline scenario.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือ การศึกษาการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และพลังงานของอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทย และเสนอแนวโน้มมลพิษก๊าซจากปี 2011 ถึง 2050 ภายใต้สถานการณ์ที่รับมือเรือนกระจก มีคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซ CO2 จากเหล็กและผลิตเหล็กใช้แผง 2006 ว่าด้วยแนวทางการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ในขอบเขตของกระบวนการผลิต (ประตู-ประตู) ผลพบว่า ความเข้มพลังงานของผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปเป็น GJ/t 2.84 เหล็กกึ่งสำเร็จรูป และความเข้ม CO2 ถูก 0.37 tCO2eq t เหล็กกึ่งสำเร็จรูป ความเข้มพลังงานเสร็จสิ้นกระบวนการที 1.86 GJ เสร็จเหล็ก และความเข้ม CO2 ถูก 0.16 tCO2eq t เหล็กเสร็จเหล็ก ใช้ 3 รับมือสถานการณ์จากอุตสาหกรรมเหล็กไทย S1: โดยรวมโรงเหล็ก (สถานการณ์พื้นฐาน), S2: เส้นทางเอฟ – BOF รวมดั้งเดิมและ S3: เลือกการรวม DR-eaf เส้นทาง ปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากปี 2011 ถึง 2050 ได้คาดการณ์ ใน 2050 ปล่อยก๊าซ CO2 จาก S1 (สถานการณ์พื้นฐาน) 4.84 ล้านตัน S2 ได้ 21.96 ล้านตันเพิ่มขึ้นเวลา 4.54 จากสถานการณ์พื้นฐาน CO2emission จาก S3 7.12 ล้านตันเพิ่มขึ้น 1.47 เวลาจากสถานการณ์พื้นฐานได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือการศึกษาพลังงานและความเข้มของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทยและเสนอแนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากปี 2011-2050 ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นไปได้.
ปริมาณของการปล่อยก๊าซ CO2 จากเหล็กและผลิตเหล็กได้รับการคำนวณโดยใช้ปี 2006 หลักสูตรด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (IPCC) แนวทางในขอบเขตของกระบวนการผลิต (ตามประตู).
ผลการศึกษาพบว่าการใช้พลังงานของผลิตภัณฑ์เหล็กกึ่งสำเร็จรูปเป็น 2.84 GJ / T เหล็กกึ่งสำเร็จรูปและความเข้ม CO2 เป็น 0.37 tCO2eq / T เหล็กกึ่งสำเร็จรูป.
ความเข้มพลังงานของกระบวนการจบเหล็กเป็น 1.86 GJ / T เสร็จเหล็กและความเข้ม CO2 ถูก tCO2eq 0.16 ตัน / เหล็กสำเร็จรูป ใช้สามสถานการณ์ที่เป็นไปได้จากอุตสาหกรรมเหล็กของไทย S1: ไม่ปลูกพืชเหล็กแบบบูรณาการ (กรณีฐาน), S2: มีเส้นทาง BF-BOF แบบบูรณาการแบบดั้งเดิมและ S3: มีทางเลือกแบบบูรณาการเส้นทาง DR-EAF; การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากปี 2011 เพื่อ 2050 ถูกคาดการณ์ไว้.
ในปี 2050, การปล่อยก๊าซ CO2 จาก S1 (กรณีฐาน) เป็น 4,840,000 ตัน S2 เป็น 21,960,000 ตันเพิ่มขึ้น 4.54 เท่าจากสถานการณ์พื้นฐาน.
CO2emission จาก S3 เป็น 7,120,000 ตัน เพิ่มขึ้น 1.47 เท่าจากกรณีฐาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของบทความนี้คือเพื่อศึกษาพลังงานและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ความเข้มของอุตสาหกรรมเหล็กไทยและเสนอแนวโน้มการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากปี 2554 ถึงปี 2050 ภายใต้สถานการณ์ที่เป็นไปได้
ปริมาณการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตเหล็กและเหล็กกล้าถูกคำนวณโดยใช้แผงระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ 2006 ( IPCC ) แนวทางในขอบเขตของกระบวนการผลิต ( ประตู ) .
ผลการศึกษาพบว่า พลังงาน ความเข้มของกลุ่มผลิตภัณฑ์เหล็กเป็น 2.84 GJ / ตันเหล็ก semi-finished และ CO2 เข้มเท่ากับ 0.37 tco2eq / T เครื่องจักรเหล็ก .
ความหนาแน่นพลังงานของกระบวนการเสร็จสิ้นเหล็ก 1.86 GJ / T เหล็กและ CO2 เข้มเสร็จก็ไม่เสร็จก่อน tco2eq / เหล็ก ใช้สามยี่ห้อนี้จากอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศไทย S1 : ไม่มีโรงถลุงเหล็กครบวงจร ( สถานการณ์พื้นฐาน ) , S2 : แบบบูรณาการกับ BF – BOF เส้นทาง S3 : กับทางเลือกแบบบูรณาการ dr-eaf เส้นทางการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากปี 2554 ถึงปี 2050 ถูกคาด .
ใน 2050 , การปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จาก S1 ( สมมติฐาน ) คือบริษัทล้านตัน , S2 เป็น 21.96 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.54 ครั้งจากสถานการณ์พื้นฐาน
co2emission จาก S3 คือข้าวกล้องล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.47 เท่า

จากสถานการณ์พื้นฐาน