เอเจนซีส์/เอพี/ MGR Online - เหตุการณ์โจมกรุงปารีส 6 จุดพร้อมกัน และทำให้มียอดผู้เสียชีวิตล่าสุดไม่ต่ำกว่า 153 คน เกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ (13 พ.ย.) ในขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ นั่งชมฟุตบอลนัดกระชับมิตร “ฝรั่งเศส-เยอรมนี” CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า ผู้ก่อการร้าย 8 คนโดนสังหารเสียชีวิต ซึ่ง 7 ใน 8 เป็นมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดระเบิดจากเข็มขัด และใช้มีด ระเบิด และปืนไรเฟิลสัญชาติรัสเซียคาลาชนิคอฟ เป็นอาวุธ ซึ่งมีรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันระบุ คนร้ายพูดภาษาฝรั่งเศส ด้านสิงคโปร์ล่าสุดประกาศยกระดับการเตือนภัย และล่าสุดผู้นำฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ “เหตุก่อการร้ายเป็นฝีมือกองทัพสาธารณรัฐอิสลาม IS”
เอพีรายงานล่าสุดวันนี้ (14) ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ ออกแถลงการณ์ประณามการก่อการร้ายกรุงปารีสครั้งล่าสุด โดยเรียกการสังหารหมู่ครั้งนี้ว่า “เป็นการกระทำของสงคราม” ซึ่งออลลองด์ชี้ว่า “การโจมตีที่สเตเดียม ฮอลล์การแสดงดนตรี รวมไปถึงที่ภัตตาคารต่างๆ ล้วนเป็นฝีมือของกองทัพก่อการร้ายกลุ่มสาธารณรัฐอิสลาม IS กองทัพญิฮัด ต่อฝรั่งเศส และต่อความหมายและคุณค่าที่เรายึดถือในทุกๆ ที่ในโลกนี้ และต่อสิ่งที่เราเป็น การเป็นประเทศอิสระนั้นมีความหมายพิเศษบนโลกใบนี้” ผู้นำฝรั่งเศสกล่าว
ออลลองด์ยังกล่าวต่อว่า “ฝรั่งเศสจะไม่เมตตาต่อกลุ่มก่อการร้าย IS เด็ดขาด และฝรั่งเศสจะใช้ทุกสิ่งที่มีจัดการทั้งในและนอกประเทศ”
ทั้งนี้ NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานล่าสุดวันเสาร์ว่า เชื่อกันว่าการโจมตีครั้งร้ายแรงนี้เกิดจากการช่วยเหลือร่วมมือของคนในประเทศฝรั่งเศส และคนที่อยู่นอกประเทศ
โดย ไมเคิล ไวส์ (Michael Weiss) ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงให้ความเห็นในเรื่องนี้เพิ่มเติมกับ CNN สื่อสหรัฐฯ ว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใน 30 นาที และลงมือพร้อมกันถึง 6 จุดชี้ให้เห็นว่า เป็นการวางแผนมาอย่างยาวนาน และเป็นการปฏิบัติการรูปแบบ “ควบคุมและสั่งการ”
“ไม่ได้หมายความว่ามันออกมาจากหอบังคับการในเมืองรักกา ซีเรีย” ไวส์กล่าว และเสริมต่อว่า “ต้องจำว่าลักษณะการแผ่ขยายอำนาจของคอลิฟะห์ที่ไม่มีใครคาดถึง ซึ่งไม่จำเป็นต้องเข้ายึดครองดินแดนอิรักและซีเรียเพิ่ม แต่กลับได้กลุ่มเข้ามาสวามิภักดิ์เพิ่ม รวมไปถึงพวก Sleeper cell ที่แฝงตัวอยู่ ซึ่งพร้อมใช้ปฏิบัติการของตนเองเพื่อประกาศการภักดี”
ก่อนหน้านี้สื่อทั่วโลกต่างรายงานเหตุการณ์ระทึกครั้งในคืนวันศุกร์ (13) ผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีพร้อมกัน 6 จุดทั่วกรุงปารีส ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ฟรองซัวส์ ออลลองด์ นั่งชมฟุตบอลนัดกระชับมิตร “ฝรั่งเศส-เยอรมนี” ที่สนามสตาด เดอ ฟรองซ์ ทางตอนเหนือของกรุงปารีส และทำให้ผู้นำฝรั่งเศสต้องถูกอพยพออกจากสถานที่อย่างเร่งด่วน
CNN สื่อสหรัฐฯ รายงานจำนวนตัวเลขผู้เสียชีวิตล่าสุดที่ได้รับการยืนยันมีไม่ต่ำกว่า 153 ราย ซึ่งเสียชีวิตในกรุงปารีส และเซนต์-เดนิส (Saint-Denis) เฉพาะที่ฮอลล์คอนเสิร์ตบาตาคล็อง (Bataclan) สถานที่จัดแสดงดนตรีวงเฮฟวีเมทัลจากสหรัฐฯ Eagles of Death Metal กำลังแสดงสดอยู่ มีผู้เสียชีวิตไปไม่ต่ำกว่า 112 คน และมีรายงานว่าสมาชิกของวงเฮฟวีเมทัลจากรัฐแคลิฟอร์เนียปลอดภัย
จูเลียน เพียร์ซ (Julien Pearce) ผู้สื่อข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์เปิดเผย คนร้ายใช้เวลาราว 10-15 นาทีใช้ปืนไรเฟิลสัญชาติรัสเซียคาลาชนิคอฟจ่อยิงผู้เข้าชมคอนเสิร์ตรายตัว โดยเขากล่าวว่า “นี่เป็นฆาตกรรมหมู่อย่างชัดเจน” เพียร์ซกล่าว และให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า เขาไม่ได้ยินคนร้ายสนทนา แต่ทว่าเพื่อนที่สามารถหลบไปด้านนอกได้สำเร็จได้ยินคนสนทนาของกลุ่มก่อการร้าย ซึ่งพูดคุยเกี่ยวกับอิรักและซีเรีย และยืนยันว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายที่สวมชุดดำสื่อสารเป็นภาษาฝรั่งเศส และในการสังหารผู้คนนั้น เพียร์ซเผยว่า ดูเหมือนคนเหล่านี้จะเป็นนักฆ่ามืออาชีพที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี โดยคนร้ายได้ยิงไปเป้าหมาย และเมื่อเป้าหมายถูกกระสุนและล้มลงบนพื้น คนร้ายจ่อยิงซ้ำอีกทีในท่าลั่นไกสังหาร
นอกจากนี้ หนึ่งพยานในเหตุการณ์ได้ให้สัมภาษณ์กับวิทยุฝรั่งเศสว่า “คนร้ายได้ตะโกนออกมาว่า Allah akbar หรือ อัลเลาะห์ (พระเจ้า) ทรงยิ่งใหญ่ที่สุด” และยังเป็นที่ไม่แน่ชัดในขณะนี้ว่า คนร้ายทั้งหมดถูกจับกุม หรือเสียชีวิตหรือไม่ เพราะสื่อสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างอิงจากสื่อน้ำหอม BFMTV ที่ได้อ้างจากแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ความมั่นคงฝรั่งเศสว่า “ยังมีมือปืนบางส่วนที่ยังคงอยู่ในระหว่างการหลบหนี
นอกจากนี้ ที่ภัตตาคารอาหารกัมพูชา เปอตีต์ กองบอดจ์ (Petit Cambodge) ที่โด่งดังและมีชื่อเสียงในย่านนี้ เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสให้ข้อมูลว่ามีคนไม่ต่ำกว่า 14 รายเสียชีวิต
ด้าน Agnès Thibault-Lecuivre โฆษกอัยการกรุงปารีสให้สัมภาษณ์ในวันนี้ (14) ว่า ผู้ก่อเหตุทั้ง 8 คนเสียชีวิตหลังการโจมตี ซึ่ง 7 ใน 8 เสียชีวิตจากระเบิดฆ่าตัวตาย
CNN รายงานเพิ่มเติมว่า หนึ่งในผู้เชี่ยวชาญต่อต้านการก่อการร้ายสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า ดูเหมือนว่าการโจมตีครั้งนี้จะได้รับการวางแผนมาเป็นอย่างดี รวมไปถึงรูปแบบการโจมตี จึงสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ในเวลาเดียวกันสำเร็จ นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญความมั่นคงสหรัฐฯยังกล่าวต่อว่า รูปแบบการโจมตีดูคล้ายคลึงกับกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ที่ใช้ รวมไปถึงอัลกออิดะห์ที่มักมีเป้าหมายในการโจมตีที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือสูญเสียในระดับวงกว้าง และยุทธวิธีที่ใช้นั้นเหมือนเป็นเครื่องหมายการค้าของกลุ่มก่อการร้าย IS และเครือข่าย แต่ในเบื้องต้นในขณะนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาประกาศความรับผิดชอบ
ในขณะที่สิงคโปร์เป็นหนึ่งในชาติที่ออกมาประกาศยกระดับการรักษาความปลอดภัยในทันที เอเอฟพีรายงาน
วันนี้ (14) รัฐบาลสิงคโปร์ประกาศยกระดับการเตือนภัยของประเทศ รวมไปถึงการเข้มงวดด้านความปลอดภัย และการตรวจตราบริเวณพรมแดน “การโจมตีครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า ไม่มีประเทศใดที่จะปลอดภัยจากการก่อการร้าย แม้แต่ประเทศที่ได้ขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัยสูงสุด” รัฐมนตรีกิจการภายในสิงคาโปร์ เค ชันมูกัม (K. Shanmugam) ที่ดูแลด้านความปลอดภัยสาธารณะและการเข้าเมืองแถลง
เอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่า “และในวันนี้ สิงคโปร์ได้ยกระดับการเตือนภัย รวมไปถึงการเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการรักษาควา