For your last assignment I would li

For your last assignment I would like you to make a comparison between Zen Buddhism and what is seen in the film

ในบทเรียนจากเรื่อง "Buddha's Lost Children" นั้นมีสิ่งที่คล้ายกับ Zen Buddhism อยู่หลายอย่างมาก ในภาพยนต์นั้น อาจารย์ครูบา ได้พูดถึงการฝึกฝนควบคุมจิตใจ และ กายความคิดของเรา พูดถึงการฝึกฝนสมาธิ ตั้งจิตใจให้อยู่กับตัวเอง ไม่คิดถึงเรื่องอื่นๆ อจารย์เล่าว่าเคยบวชแล้วนั่งสงบจิต สมาธิ แล้วรู้สึกถึงความเยือกเย็น ความสงบ ทั้งที่มีผึ้งมารบกวนทางภายนอกแต่ก็สามารถสงบจิต ได้จนสำเร็จ นั้นฉันมองว่า มันเปรียบเทียบได้กับ การทำ za zen ที่ใช้การควบคุมจิต สงบนิ่ง ปล่อยจิตให้ไปกับธรรมชาติ ของโลก และการที่รู้การมีตัวตนของเรา การที่ยังเป็นคนมีชีวิตอยู่ในคำสอนของ อาจารย์ครูบาที่กล่าวว่า เบื่อกับชีวิต ที่ต้องเจอสิ่งใหม่การเปลี่ยนแปลงเข้ามา ที่ไม่แน่นอนกับชีวิต ท่านก็คิดได้ว่า ไม่นานคนเราก็ต้องตาย หากที่ตอนเราใกล้ตาย จิตใจตัวเราเองสงบแล้วหรือยัง เหมือนกับ พุทธศาสนานิกายเซน ที่กล่าวว่า ผลบั้นปลายสุดท้าย ไม่มีอะไรที่ใหม่ ประสบการณ์ของความตื่น ความรู้สึกตัวถึงเอกภาพอันแบ่งแยกมิได้ของสรรพสิ่งทั้งมวล การเห็นแจ้ง เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า ได้อะไรมาใหม่ เพียงแต่เป็นการรู้แจ้งบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่ในตัวเองตลอดเวลาเท่านั้น ในภาวะของความตื่น เมื่อตัวตนที่ปรุงแต่งถูกขจัดออกไป ธรรมชาติในส่วนลึกลับอันแอบเร้นลับปรากฎตัวขึ้นแทนที่และผู้กระทำจะกระทำสิ่งต่างๆอย่างปราศจากตัวตนและอย่างเป็นกันเอง อีกทั้งการที่อาจารย์ครูบา ได้ให้การฝึกฝนแก่ เด็ก ให้ทำงาน ตักน้ำ ผ่าฟืนไม้ ก็เหมือนการสัมผัสกับชีวิตทางธรรม การตรัสรู้นั้นไม่จำกัดอยู่ในรูปแบบใด ในขณะแห่งการทำงาน ในชีวิตประจำวันก็อาจเป็นขณะแห่งการตรัสรู้ได้ ฉันคิดว่าเหมือนกับในบทเรียน"Chop Wood, Carry Water"ในบทเรียน
แต่ฉันคิดว่าก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ ครุบานั้นได้มีการสอนถึงคำสอนของศาสนาพุทธที่สือบกันมา การปฎิบัติตน มีการบูชาพระพุทธรูป การประกอบพิธีต่างๆ ซึ่งต่างกับ พุทธศาสนานิกายเซน สอนว่าไม่ว่าจะเป็นการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า การท่องพระสูตร การบูชาพระพุทธรูป การประกอบพิธีต่างๆนั้น โดยแท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ ตรงข้าม บุคคลควรปล่อยจิตใจให้เป็นอิสระ เฝ้าดูและขจัดกระแสแห่งความคิดปรุงแต่ง และจะต้องเข้าถึงธรรมชาติของความเป็นเอง การปฎิบัติธรรมที่แท้จริงจึงเกิดขึ้นได้
และนี่คือการเปรียบเทียบระหว่างคำสอนในภาพยนต์ ของอาจารย์ครูบา และ พุทธศาสนานิกายเซน มีความคล้ายคลึงกัน ในด้านของความคิด การฝึกฝน การปล่อยจิตให้เป็นอิสระ แต่ก็มีความแตกต่างในด้านของหลักการยึดเหนี่ยวจิตใจ คำสวด เคราพพระพุทธรูป ของอาจารย์ครูบา

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สำหรับการกำหนดค่าของคุณครั้งสุดท้าย อยากให้เปรียบเทียบระหว่างเซนพุทธศาสนาและสิ่งที่เห็นในภาพยนตร์ในบทเรียนจากเรื่อง "Buddha's Lost Children" นั้นมีสิ่งที่คล้ายกับ Zen Buddhism อยู่หลายอย่างมาก ในภาพยนต์นั้น อาจารย์ครูบา ได้พูดถึงการฝึกฝนควบคุมจิตใจ และ กายความคิดของเรา พูดถึงการฝึกฝนสมาธิ ตั้งจิตใจให้อยู่กับตัวเอง ไม่คิดถึงเรื่องอื่นๆ อจารย์เล่าว่าเคยบวชแล้วนั่งสงบจิต สมาธิ แล้วรู้สึกถึงความเยือกเย็น ความสงบ ทั้งที่มีผึ้งมารบกวนทางภายนอกแต่ก็สามารถสงบจิต ได้จนสำเร็จ นั้นฉันมองว่า มันเปรียบเทียบได้กับ การทำ za zen ที่ใช้การควบคุมจิต สงบนิ่ง ปล่อยจิตให้ไปกับธรรมชาติ ของโลก และการที่รู้การมีตัวตนของเรา การที่ยังเป็นคนมีชีวิตอยู่ในคำสอนของ อาจารย์ครูบาที่กล่าวว่า เบื่อกับชีวิต ที่ต้องเจอสิ่งใหม่การเปลี่ยนแปลงเข้ามา ที่ไม่แน่นอนกับชีวิต ท่านก็คิดได้ว่า ไม่นานคนเราก็ต้องตาย หากที่ตอนเราใกล้ตาย จิตใจตัวเราเองสงบแล้วหรือยัง เหมือนกับ พุทธศาสนานิกายเซน ที่กล่าวว่า ผลบั้นปลายสุดท้าย ไม่มีอะไรที่ใหม่ ประสบการณ์ของความตื่น ความรู้สึกตัวถึงเอกภาพอันแบ่งแยกมิได้ของสรรพสิ่งทั้งมวล การเห็นแจ้ง เหล่านี้ไม่ได้หมายความว่า ได้อะไรมาใหม่ เพียงแต่เป็นการรู้แจ้งบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่ในตัวเองตลอดเวลาเท่านั้น ในภาวะของความตื่น เมื่อตัวตนที่ปรุงแต่งถูกขจัดออกไป ธรรมชาติในส่วนลึกลับอันแอบเร้นลับปรากฎตัวขึ้นแทนที่และผู้กระทำจะกระทำสิ่งต่างๆอย่างปราศจากตัวตนและอย่างเป็นกันเอง อีกทั้งการที่อาจารย์ครูบา ได้ให้การฝึกฝนแก่ เด็ก ให้ทำงาน ตักน้ำ ผ่าฟืนไม้ ก็เหมือนการสัมผัสกับชีวิตทางธรรม การตรัสรู้นั้นไม่จำกัดอยู่ในรูปแบบใด ในขณะแห่งการทำงาน ในชีวิตประจำวันก็อาจเป็นขณะแห่งการตรัสรู้ได้ ฉันคิดว่าเหมือนกับในบทเรียน"Chop Wood, Carry Water"ในบทเรียน แต่ฉันคิดว่าก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ครุบานั้นได้มีการสอนถึงคำสอนของศาสนาพุทธที่สือบกันมาการปฎิบัติตนมีการบูชาพระพุทธรูปการประกอบพิธีต่าง ๆ ซึ่งต่างกับพุทธศาสนานิกายเซนสอนว่าไม่ว่าจะเป็นการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าการท่องพระสูตรการบูชาพระพุทธรูปการประกอบพิธีต่างๆนั้นโดยแท้จริงแล้วเป็นสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ตรงข้ามบุคคลควรปล่อยจิตใจให้เป็นอิสระเฝ้าดูและขจัดกระแสแห่งความคิดปรุงแต่งและจะต้องเข้าถึงธรรมชาติของความเป็นเองการปฎิบัติธรรมที่แท้จริงจึงเกิดขึ้นได้และนี่คือการเปรียบเทียบระหว่างคำสอนในภาพยนต์ของอาจารย์ครูบาและพุทธศาสนานิกายเซนมีความคล้ายคลึงกันในด้านของความคิดการฝึกฝนการปล่อยจิตให้เป็นอิสระแต่ก็มีความแตกต่างในด้านของหลักการยึดเหนี่ยวจิตใจคำสวดเคราพพระพุทธรูปของอาจารย์ครูบา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สำหรับงานที่ผ่านมาของคุณผมอยากให้คุณที่จะทำให้การเปรียบเทียบระหว่างพุทธศาสนานิกายเซนและสิ่งที่จะเห็นในภาพยนตร์เรื่องนี้ในบทเรียนจากเรื่อง "พระพุทธรูปเด็กที่หายไป" นั้นมีสิ่งที่คล้ายกับพุทธศาสนานิกายเซนอยู่หลายอย่างมากในภาพยนต์นั้นอาจารย์ ครูบาได้พูด ถึงการฝึกฝนควบคุมจิตใจและกายความ คิดของเราพูดถึงการฝึกฝนสมาธิตั้งจิตใจให้อยู่กับตัวเองไม่คิดถึงเรื่องอื่น ๆ อจารย์เล่าว่าเคยบวชแล้วนั่งสงบจิตสมาธิแล้วรู้สึกถึงความเยือกเย็นความสงบ ได้จนสำเร็จนั้นฉันมองว่ามัน เปรียบเทียบได้กับการทำ Za เซนที่ใช้การควบคุมจิตสงบนิ่งปล่อย จิตให้ไปกับธรรมชาติของโลกและการที่รู้การมีตัวตนของเรา อาจารย์ครูบาที่กล่าวว่าเบื่อกับชีวิต ที่ไม่แน่นอนกับชีวิตท่านก็คิด ได้ว่าไม่นานคนเราก็ต้องตายหากที่ตอนเราใกล้ตายจิตใจตัวเราเองสงบแล้วหรือยังเหมือนกับพุทธศาสนานิกายเซนที่กล่าวว่าผลบั้นปลายสุดท้ายไม่มีอะไรที่ใหม่ประสบการณ์ของความตื่น การเห็นแจ้งเหล่านี้ไม่ได้หมายความ ว่าได้อะไรมาใหม่ ในภาวะของความตื่นเมื่อตัวตน ที่ปรุงแต่งถูกขจัดออกไป อีกทั้งการที่อาจารย์ครูบาได้ให้ การฝึกฝนแก่เด็กให้ทำงานตักน้ำผ่าฟืนไม้ก็เหมือนการสัมผัสกับชีวิตทางธรรม ในขณะแห่งการทำงาน ฉันคิดว่าเหมือนกับในบทเรียน "สับไม้, Carry การปฎิบัติตนมีการ บูชาพระพุทธรูปการประกอบพิธีต่างๆซึ่งต่างกับพุทธศาสนานิกายเซน การท่องพระสูตรการบูชาพระพุทธรูป การประกอบพิธีต่างๆนั้น ตรงข้ามบุคคลควรปล่อยจิตใจให้เป็น อิสระ ของอาจารย์ครูบาและพุทธศาสนานิกายเซน มีความคล้ายคลึงกันในด้านของความคิดการฝึกฝนการปล่อยจิตให้เป็นอิสระ คำสวดเคราพพระพุทธรูปของอาจารย์ ครูบา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สำหรับภารกิจสุดท้ายที่ฉันต้องการคุณที่จะทำให้การเปรียบเทียบระหว่างพระพุทธศาสนานิกายเซนและสิ่งที่เห็นในฟิล์มในบทเรียนจากเรื่อง " พระพุทธรูปหายไปเด็ก " นั้นมีสิ่งที่คล้ายกับนิกายเซนอยู่หลายอย่างมากในภาพยนต์นั้นอาจารย์ครูบาได้พูดถึงการฝึกฝนควบคุมจิตใจและกายความคิดของเราพูดถึงการฝึกฝนสมาธิตั้งจิตใจให้อยู่กับตัวเองไม่คิดถึงเรื่องอื่นๆอจารย์เล่าว่าเคยบวชแล้วนั่งสงบจิตสมาธิแล้ วรู้สึกถึงความเยือกเย็นความสงบทั้งที่มีผึ้งมารบกวนทางภายนอกแต่ก็สามารถสงบจิตได้จนสำเร็จนั้นฉันมองว่ามันเปรียบเทียบได้กับการทำซาเซนที่ใช้การควบคุมจิตสงบนิ่งปล่อยจิตให้ไปกับธรรมชาติของโลกและการที่รู้การมีตัวตนของเราการที่ยังเป็นคนมีชีวิตอยู่ในคำสอนขอ งอาจารย์ครูบาที่กล่าวว่าเบื่อกับชีวิตที่ต้องเจอสิ่งใหม่การเปลี่ยนแปลงเข้ามาที่ไม่แน่นอนกับชีวิตท่านก็คิดได้ว่าไม่นานคนเราก็ต้องตายหากที่ตอนเราใกล้ตายจิตใจตัวเราเองสงบแล้วหรือยังเหมือนกับพุทธศาสนานิกายเซนที่กล่าวว่าผลบั้นปลายสุดท้ายไม่มีอะไรที่ให ม่ประสบการณ์ของความตื่นความรู้สึกตัวถึงเอกภาพอันแบ่งแยกมิได้ของสรรพสิ่งทั้งมวลการเห็นแจ้งเหล่านี้ไม่ได้หมายความว่าได้อะไรมาใหม่เพียงแต่เป็นการรู้แจ้งบางสิ่งบางอย่างที่มีอยู่ในตัวเองตลอดเวลาเท่านั้นในภาวะของความตื่นเมื่อตัวตนที่ปรุงแต่งถูกขจัดออกไป ธรรมชาติในส่วนลึกลับอันแอบเร้นลับปรากฎตัวขึ้นแทนที่และผู้กระทำจะกระทำสิ่งต่างๆอย่างปราศจากตัวตนและอย่างเป็นกันเองอีกทั้งการที่อาจารย์ครูบาได้ให้การฝึกฝนแก่เด็กให้ทำงานตักน้ำผ่าฟืนไม้ก็เหมือนการสัมผัสกับชีวิตทางธรรมการตรัสรู้นั้นไม่จำกัดอยู่ในรูปแ บบใดในขณะแห่งการทำงานในชีวิตประจำวันก็อาจเป็นขณะแห่งการตรัสรู้ได้ฉันคิดว่าเหมือนกับในบทเรียน " ตัดไม้ แบกน้ำ " ในบทเรียนแต่ฉันคิดว่าก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่ครุบานั้นได้มีการสอนถึงคำสอนของศาสนาพุทธที่สือบกันมาการปฎิบัติตนมีการบูชาพระพุทธรูปการประกอบพิธีต่างๆซึ่งต่างกับพุทธศาสนานิกายเซนสอนว่าไม่ว่าจะเป็นการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้าการท่องพระสูตรการบูชาพระพุทธรูปการประ กอบพิธีต่างๆนั้นโดยแท้