The Neolithic Period, or New Stone

The Neolithic Period, or New Stone Age, was a period in the development of human technology, beginning about 10,200 BC, according to the ASPRO chronology, in some parts of the Middle East, and later in other parts of the world[2] and ending between 4,500 and 2,000 BC.
Traditionally considered the last part of the Stone Age, the Neolithic followed the terminal Holocene Epipaleolithic period and commenced with the beginning of farming, which produced the "Neolithic Revolution". It ended when metal tools became widespread (in the Copper Age or Bronze Age; or, in some geographical regions, in the Iron Age). The Neolithic is a progression of behavioral and cultural characteristics and changes, including the use of wild and domestic crops and of domesticated animals.[3]
The beginning of the Neolithic culture is considered to be in the Levant (Jericho, modern-day West Bank) about 10,200 – 8,800 BC. It developed directly from the Epipaleolithic Natufian culture in the region, whose people pioneered the use of wild cereals, which then evolved into true farming. The Natufian period was between 12,000 and 10,200 BC, and the so-called "proto-Neolithic" is now included in the Pre-Pottery Neolithic (PPNA) between 10,200 and 8,800 BC. As the Natufians had become dependent on wild cereals in their diet, and a sedentary way of life had begun among them, the climatic changes associated with the Younger Dryas are thought to have forced people to develop farming.
By 10,200–8,800 BC, farming communities arose in the Levant and spread to Asia Minor, North Africa and North Mesopotamia. Mesopotamia is the site of the earliest developments of the Neolithic Revolution from around 10,000 BC. It has been identified as having "inspired some of the most important developments in human history including the invention of the wheel, the planting of the first cereal crops and the development of cursive script,mathematics, astronomy and agriculture."[4]
Early Neolithic farming was limited to a narrow range of plants, both wild and domesticated, which included einkorn wheat, millet and spelt, and the keeping of dogs, sheep and goats. By about 6,900–6,400 BC, it included domesticated cattle and pigs, the establishment of permanently or seasonally inhabited settlements, and the use of pottery.[5]
Not all of these cultural elements characteristic of the Neolithic appeared everywhere in the same order: the earliest farming societies in the Near East did not use pottery. In other parts of the world, such as Africa, South Asia and Southeast Asia, independent domestication events led to their own regionally distinctive Neolithic cultures that arose completely independent of those in Europe and Southwest Asia. Early Japanese societies and other East Asian cultures used pottery before developing agriculture.[6][7]
Unlike the Paleolithic, when more than one human species existed, only one human species (Homo sapiens sapiens) reached the Neolithic.[8] Homo floresiensis may have survived right up to the very dawn of the Neolithic, about 12,200 years ago.[9] The term Neolithic derives from the Greek νεολιθικός, neolithikos, from νέος neos, "new" + λίθος lithos, "stone", literally meaning "New Stone Age". The term was invented by Sir John Lubbock in 1865 as a refinement of the three-age system.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยุค หรือยุคหินใหม่ มีระยะเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีมนุษย์ เริ่มต้นประมาณ 10,200 BC ตามลำดับ ASPRO บางส่วนของตะวันออกกลาง และ ในส่วนอื่น ๆ ของโลก [2] และสิ้นสุดระหว่าง 4,500 และ BC 2000ประเพณีถือว่าเป็นส่วนสุดท้ายของยุคหิน ในยุคหินใหม่ตามระยะเวลา Holocene Epipaleolithic เทอร์มินัล และเริ่มจุดเริ่มต้นของการทำการเกษตร ที่ผลิต "ปฏิวัติยุคหินใหม่" สิ้นสุดเมื่อเครื่องมือโลหะกลายเป็นอย่างกว้างขวาง (ในยุคทองแดงหรือสำริด หรือ ในบาง ภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ ในยุคเหล็ก) ในยุคหินใหม่มีความก้าวหน้าของลักษณะพฤติกรรม และวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งการใช้ ของประเทศ และป่าพืช และสัตว์เลี้ยง [3]จุดเริ่มต้นของวัฒนธรรมยุคหินใหม่จะถือเป็นในลิแวนต์ (เจริโค ทันสมัยฝั่งตะวันตก) เกี่ยวกับ 10,200-8,800 BC ได้พัฒนาโดยตรงจากวัฒนธรรม Epipaleolithic Natufian ในเขต คนเป็นผู้บุกเบิกการใช้ธัญพืชป่า ซึ่งพัฒนาแล้ว เป็นจริงนา ระยะ Natufian ได้ระหว่าง 12,000 10,200 BC และเรียกว่า "โปรโตยุคหินใหม่" นี้รวมอยู่ในก่อนเครื่องปั้นดินเผายุคหินใหม่ (PPNA) ระหว่าง 10,200 8,800 BC เป็น Natufians กลายเป็นพึ่งพาป่าธัญพืชในอาหารของพวกเขา และวิถีชีวิตอยู่ประจำเริ่มต้นขึ้นในหมู่พวกเขา การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกี่ยวข้องกับ Dryas ต่ำคิดว่า จะทำให้คนพัฒนาฟาร์มโดย 10,200-8,800 BC เกษตรชุมชนเกิดในลิแวนต์ และแพร่กระจายไปยังเอเชียไมเนอร์ แอฟริกาเหนือ และโสโปเต เมียเหนือ โสโปเตเมียเป็นตั้งของการพัฒนาเร็วที่สุดของการปฏิวัติยุคหินใหม่จากประมาณ 10,000 BC จะพบว่ามี "แรงบันดาลใจของการพัฒนาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์รวมทั้งการประดิษฐ์ล้อ การปลูกพืชผสมครั้งแรกและการพัฒนาสคริปต์บรรจง คณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และการเกษตร" [4]เกษตรยุคหินใหม่ต้นได้ถึงช่วงแคบของพืช ป่า และ เลี้ยง ซึ่งรวม einkorn ข้าวสาลี มิลเล็ต และ spelt รักษาสุนัข แกะ และแพะ โดยประมาณ 6,900 – 6,400 BC มันรวมเลี้ยงวัว และสุกร จัดให้มีการชำระเงินที่อยู่อาศัยอย่างถาวร หรือตามฤดูกาล และการใช้เครื่องปั้นดินเผา [5]ไม่ทั้งหมดขององค์ประกอบทางวัฒนธรรมเหล่านี้ลักษณะของในยุคหินใหม่ปรากฏทุกลำดับเหมือนกัน: สังคมเกษตรที่เร็วที่สุดในตะวันออกใกล้ไม่ได้ใช้เครื่องปั้นดินเผา ในส่วนอื่น ๆ ของโลก เช่นแอฟริกา เอเชียใต้ และ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ domestication อิสระกิจกรรมนำไปสู่วัฒนธรรมยุคหินใหม่ของตัวเองโดดเด่นในระดับภูมิภาคที่เกิดขึ้นอย่างอิสระในยุโรปและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ ต้นญี่ปุ่นสังคมและวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกอื่น ๆ ใช้เครื่องปั้นดินเผาก่อนพัฒนาเกษตร [6] [7]ไม่เหมือนยุคหินเก่า เมื่อมนุษย์ชนิดหนึ่งที่มีอยู่ เพียงหนึ่งสายพันธุ์มนุษย์ (ตุ๊ด sapiens sapiens) ถึงในยุคหินใหม่ [8] กะเทย floresiensis อาจมีชีวิตรอดจนถึงรุ่งอรุณของยุคหินใหม่ มากประมาณ 12,200 ปี [9] คำยุคหินใหม่มาจากνεολιθικόςกรีก neolithikos จากสถานะνέος "ใหม่" + λίθος lithos "หิน" หมายถึง "ยุคหินใหม่" อย่างแท้จริง คำถูกคิดค้น โดยเซอร์จอห์น Lubbock ในปี 1865 เป็นปรับแต่งระบบอายุสาม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยุคระยะเวลาหรือหินใหม่อายุเป็นช่วงเวลาในการพัฒนาเทคโนโลยีของมนุษย์เริ่มต้นประมาณ 10,200 BC ตามลำดับ Aspro ในบางส่วนของตะวันออกกลางและต่อมาในส่วนอื่น ๆ ของโลก [2] และ สิ้นสุดวันที่ระหว่าง 4,500 และ 2,000 BC.
ถือเป็นประเพณีส่วนสุดท้ายของยุคหินยุคตามระยะเวลาที่เทอร์มิโฮโลซีน Epipaleolithic และเริ่มมีจุดเริ่มต้นของการทำฟาร์มที่ผลิต "ยุคปฏิวัติ" มันจบลงเมื่อเครื่องมือโลหะเริ่มแพร่หลาย (ในยุคทองแดงหรือยุคสำริดหรือในบางพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ในยุคเหล็ก) ยุคเป็นความก้าวหน้าของลักษณะพฤติกรรมและวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงรวมถึงการใช้พืชป่าและในประเทศและของสัตว์เลี้ยงได้. [3]
จุดเริ่มต้นของยุควัฒนธรรมถือว่าเป็นในลิแวนต์ (เมืองเยรีโคโมเดิร์นวันเวสต์แบงก์ ) ประมาณ 10,200 - 8,800 ปีก่อนคริสตกาล มันพัฒนาได้โดยตรงจากวัฒนธรรม Epipaleolithic Natufian ในภูมิภาคที่มีคนบุกเบิกการใช้ธัญพืชป่าซึ่งจากนั้นจะพัฒนาไปสู่การเกษตรที่แท้จริง ระยะเวลา Natufian อยู่ระหว่าง 12,000 และ 10,200 BC และที่เรียกว่า "โปรยุค" ตอนนี้จะรวมอยู่ใน Pre-เครื่องปั้นดินเผายุค (PPNA) ระหว่าง 10,200 และ 8,800 ปีก่อนคริสตกาล ในฐานะที่เป็น Natufians ได้กลายเป็นขึ้นอยู่กับธัญพืชป่าในอาหารของพวกเขาและเป็นวิธีที่อยู่ประจำของชีวิตได้เริ่มในหมู่พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่เกี่ยวข้องกับน้อง Dryas กำลังคิดว่าจะมีการบังคับให้คนที่จะพัฒนาการเกษตร.
โดย 10,200-8,800 ปีก่อนคริสตกาลชุมชนเกษตรกรรม เกิดขึ้นในลิแวนต์และแพร่กระจายไปยังเอเชียไมเนอร์แอฟริกาเหนือและทิศตะวันตกเฉียงเหนือโสโปเตเมีย โสโปเตเมียเป็นเว็บไซต์ของการพัฒนาที่เก่าแก่ที่สุดของยุคปฏิวัติจากประมาณ 10,000 ปีก่อนคริสตกาล มันได้รับการระบุว่ามี "แรงบันดาลใจบางส่วนของการพัฒนาที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์รวมทั้งการประดิษฐ์ของล้อ, การปลูกพืชธัญพืชแรกและการพัฒนาของสคริปต์เล่นหางคณิตศาสตร์ดาราศาสตร์และการเกษตร." [4]
ในช่วงต้นยุค การเกษตรก็ถูก จำกัด อยู่ในช่วงแคบ ๆ ของพืชทั้งป่าและบ้านซึ่งรวมถึงข้าวสาลี einkorn, ข้าวฟ่างและสะกดและการรักษาของสุนัขแกะและแพะ ประมาณ 6,900-6,400 ปีก่อนคริสตกาลก็รวมอยู่ในบ้านวัวและสุกรในสถานประกอบการของการตั้งถิ่นฐานอย่างถาวรหรือฤดูกาลที่อยู่อาศัยและการใช้ของเครื่องปั้นดินเผา [5].
ไม่ทั้งหมดขององค์ประกอบทางวัฒนธรรมเหล่านี้ลักษณะของยุคทุกปรากฏในลำดับเดียวกันนี้: ที่เก่าแก่ที่สุดในสังคมการเกษตรในตะวันออกใกล้ไม่ได้ใช้เครื่องปั้นดินเผา ในส่วนอื่น ๆ ของโลกเช่นทวีปแอฟริกาเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เหตุการณ์ domestication อิสระของตัวเองนำไปสู่วัฒนธรรมยุคของพวกเขาที่โดดเด่นในระดับภูมิภาคที่เกิดขึ้นมีความเป็นอิสระของผู้ที่อยู่ในยุโรปและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ สังคมญี่ปุ่นในช่วงต้นและวัฒนธรรมอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกใช้เครื่องปั้นดินเผาก่อนที่จะพัฒนาการเกษตร. [6] [7]
ซึ่งแตกต่างจากยุคเมื่อกว่าหนึ่งในสายพันธุ์ของมนุษย์มีอยู่เพียงหนึ่งชนิดของมนุษย์ (Homo sapiens sapiens) ถึงยุค. [8] Homo floresiensis อาจจะมีชีวิตรอดไปจนถึงรุ่งอรุณมากของยุคประมาณ 12,200 ปีที่ผ่านมา. [9] ระยะยุคมาจากνεολιθικόςกรีก neolithikos จากνέος Neos, "ใหม่" + λίθος Lithos "หิน" ความหมายอย่างแท้จริง " ยุคหินใหม่ " คำที่ถูกคิดค้นโดยเซอร์จอห์นบ็อคในปี 1865 ในขณะที่การปรับแต่งของระบบสามอายุ