Within the context of the theory of

Within the context of the theory of intergroup distinctiveness, Tajfel proposes that when different groups come in contact, there is a tendency for them to compare themselves on the grounds of abilities, possessions, personal traits, accomplishments, and so forth. According to his theory, these "intergroup social comparisons" will assist individuals in forging their group image and positive ingroup distinctiveness. It may be the case that individuals seek solace in the knowledge that they are part of groups which enjoy some primacy and prestige. Given that speech is to be seen "as an identity adjustment made to increase group status and favourability" (Edwards, 1985: 152), we could argue that in situations when group membership has to be accentuated and supported, speech divergence may be an important strategy for distinguishing oneself from members of other groups. An example of speech divergence is given in Holmes (1992: 257):

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในบริบทของทฤษฎีของความเป็นเอกเทศ intergroup, tajfel แนะว่าเมื่อกลุ่มที่แตกต่างกันมาในการติดต่อมีแนวโน้มสำหรับพวกเขาที่จะเปรียบเทียบตัวเองอยู่บนพื้นฐานของความสามารถในการครอบครองลักษณะส่วนบุคคลที่ประสบความสำเร็จและอื่น ๆ ตามทฤษฎีของเขาเหล่านี้ "เปรียบเทียบ intergroup สังคม" จะช่วยให้บุคคลในการปลอมรูปกลุ่มและความเป็นเอกเทศกลุ่มภายในบวกของพวกเขา มันอาจจะเป็นกรณีที่บุคคลที่แสวงหาการปลอบใจในความรู้ที่พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่เพลิดเพลินไปกับความเป็นเอกบางและศักดิ์ศรี ที่ระบุว่าสิ่งที่พูดเป็นที่จะเห็น "ในขณะที่การปรับตัวตนที่สร้างขึ้นมาเพื่อเพิ่มสถานะกลุ่มและ favourability" (Edwards, 1985: 152)เราก็อาจจะแย้งว่าในสถานการณ์เมื่อสมาชิกกลุ่มจะต้องมีการเสริมสร้างและสนับสนุนความแตกต่างการพูดอาจจะเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับตัวเองแตกต่างจากสมาชิกของกลุ่มอื่น ๆ ตัวอย่างของความแตกต่างของคำพูดที่จะได้รับในโฮล์มส์ (1992: 257):

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภายในบริบทของทฤษฎี intergroup distinctiveness, Tajfel เสนอว่า เมื่อกลุ่มต่าง ๆ ที่มาติดต่อ มีแนวโน้มที่ต้องการเปรียบเทียบตัวเองไร้ความสามารถ ทรัพย์สิน ลักษณะส่วนบุคคล สำเร็จ และอื่น ๆ ตามทฤษฎีของเขา เหล่านี้ "intergroup สังคมเปรียบ" จะช่วยให้บุคคลในกลุ่มภาพและ distinctiveness ingroup บวกของพวกเขา มันอาจเป็นกรณีที่บุคคลแสวงหาการปลอบประโลมในรู้ว่า พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มซึ่งบาง primacy และเพรสทีจ ระบุว่าเป็นคำพูดได้ "เป็นการปรับปรุงข้อมูลประจำตัวการปรับสถานะของกลุ่มและ favourability" (เอ็ดเวิร์ด 1985:152), เราสามารถโต้แย้งได้ว่า ในสถานการณ์ เมื่อสมาชิกกลุ่มมีตาร์ และ สนับสนุน divergence เสียงอาจเป็นกลยุทธ์สำคัญสำหรับการแยกแยะตนเองจากสมาชิกของกลุ่มอื่น ๆ ตัวอย่างของเสียง divergence ได้ในโฮลมส์ (1992:257):

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในบริบทของทฤษฎีของเป็นยี่ห้อ intergroup tajfel เสนอว่าเมื่อกลุ่มกันมาในการติดต่อมีแนวโน้มที่จะเปรียบเทียบกันเองในพื้นที่ที่มีความสามารถของคุณสมบัติส่วนตัวความสำเร็จและดังนั้นจึงออกมา ตามทฤษฎีของเขา"การเปรียบเทียบทางสังคม intergroup เหล่านี้"จะให้ความช่วยเหลือบุคคลใน ภาพ เป็นกลุ่มของตนและเป็นยี่ห้อ ingroup ในเชิงบวก อาจเป็นกรณีที่ผู้ใช้บริการแบบเฉพาะรายขอปลอบขวัญในความรู้ที่ว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มซึ่งมอบความเพลิดเพลินใจไปกับชื่อเสียงและความสำคัญบางส่วน ให้เสียงที่ได้"เป็นรหัสประจำตัวที่ทำให้การปรับตัวเพื่อเพิ่มกลุ่มสถานะและ favorability "( Edwards : 1985152 )เราไม่สามารถให้เหตุผลว่าในสถานการณ์เมื่อเป็นสมาชิกกลุ่มจะต้องเป็นโดดเด่นไปและได้รับการสนับสนุนเสียงแตกออกไปอาจเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับความโดดเด่นตัวเองจากสมาชิกของกลุ่มอื่นๆ ตัวอย่างเช่นที่แตกออกไปพูดของในโฮล์มส์( 1992257 ):