สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยส่วนพระองค์ทรงโปรดปรานการอ่านหนังสือและทรงปรารถนาเห็นพสกนิกรของพระองค์รักการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก เพราะพระองค์ทรงเห็นว่า หนังสือเป็นที่มาแหล่งความรู้ วิทยาการทุกด้าน และทุกคนสามารถแสวงหาได้ง่าย และประหยัดอีกด้วย ดังพระราชดำรัสที่ทรงตรัสและทรงพระนิพนธ์ไว้ดังนี้
"…หนังสือเป็นบ่อเกิดแห่งความรู้ต่าง ๆ นักปราชญ์ในสมัยโบราณได้ใช้หนังสือบันทึกความรู้และความคิดเห็นต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ไว้เป็นสมบัติตกทอดมาถึงสมัยปัจจุบันเป็นอันมากเช่น กฎเกณฑ์ทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ เป็นต้น เพราะความรู้ของคนในสมัยโบราณนั้นเกิดจากการสังเกตเขาเหล่านั้นได้สังเกตความเป็นไปของโลก และจดจำข้อความต่าง ๆ ในแง่ความคิดเห็นของเขาไว้ คนสมัยต่อมาได้อ่านข้อความเหล่านั้นจะติดตามค้นคว้าเพิ่มเติมทำให้ความรู้ของมนุษย์กว้างขวางยิ่งขึ้น…" และทรงมีพระราชปรารภว่า
"…ข้าพเจ้าอยากให้เรามีห้องสมุดที่ดี มีหนังสือครบทุกประเภทสำหรับประชาชนหนังสือที่ข้าพเจ้า คิดว่าสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งคือหนังสือสำหรับเด็ก วัยเด็กเป็นวัยเรียนรู้ เด็ก ๆ ส่วนใหญ่จะสนใจเรื่องราวต่าง ๆ แปลก ๆ ใหม่ ๆ อยู่แล้ว ถ้าเรามีหนังสือที่มีคุณค่าทั้งเนื้อหาและรูปภาพให้เขาอ่าน ให้ความรู้และความบันเทิงเด็ก ๆ จะได้เติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ ที่รอบรู้ มีธรรมะประจำใจมีความรักบ้านเมืองมีความต้องการปรารถนาจะทำแต่ประโยชน์ ที่สมควร…"
เพื่อสนองพระราชปณิธานดังกล่าว กรมการศึกษานอกโรงเรียนในฐานะที่รับผิดชอบในการจัดตั้งและพัฒนาห้องสมุดประชาชนจังหวัดและอำเภอทั่วประเทศ จึงได้พยายามออกแบบและจัดห้องสมุดตามแนวพระราชดำริจึงได้จัดโครงการห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" ขึ้นในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุ ครบ 3 รอบ นักกษัตร ประจวบกับเป็นปีสากลแห่งการรู้หนังสือ เพื่อเป็นประโยชน์แก่ประชาชนทั้งในเมืองและในชนบท โดยมีข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในแต่ละพื้นที่ร่วมกันบริจาคทุนเพื่อการก่อสร้างได้แล้วถึง 59 แห่งและยังคงมีผู้มีจิตศรัทธาให้การสนับสนุนในการสร้างอย่างต่อเนื่อง นับเป็นห้องสมุดที่ทันสมัยและมีหนังสือและสื่อนานาประเภท และโดยเฉพาะที่เหมาะสมกับเด็กและเยาวชน โดยแบ่งสรรประโยชน์การใช้งานเป็นห้องอ่านหนังสือทั่วไป ศูนย์บริการข้อมูลท้องถิ่น มุมวรรณกรรมพื้นบ้าน มุมธรรมะ มุมบริการแนะแนว ห้องเด็กและครอบครัว ห้องโสตทัศนศึกษา ห้องอเนกประสงค์ ห้องเฉลิมพระเกียรติที่เป็นห้องสำคัญของห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" ที่นำเสนอพระราชประวัติพระปรีชาญาณ และพระมหากรุณาธิคุณที่สถาบันพระมหากษัตริย์มีต่อประชาชนชาวไทย
นอกจากนั้น พระองค์ยังทรงพระราชทานหนังสือที่มีคุณค่าให้แก่ ห้องสมุดแต่ละแห่งเสมอ และทรงพระราชทานอนุญาตให้กรมการศึกษานอกโรงเรียนนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์เอง และข้อความประโยคหนึ่งว่า "ข้าพเจ้าเป็นผู้หนึ่งซึ่งใช้ห้องสมุดอยู่เป็นนิจ" จัดทำเป็นภาพโปสเตอร์ขนาดใหญ่แจกจ่ายไปตามห้องสมุดและโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อใช้ในการจูงใจเด็กและเยาวชนไทยให้พยายามหาโอกาสใช้ห้องสมุดเป็นแหล่งความรู้ ดังเช่นที่พระองค์ ทรงถือปฏิบัติอยู่เป็นกิจวัตร พระมหากรุณาธิคุณที่มีต่อการพัฒนาห้องสมุดประชาชนมีเพียงแต่ทรงเสนอแนะวิธีการจัดห้องสมุดที่เหมาะสมหรือทรงรับไว้เป็นโครงการในพระราชอุปถัมภ์เท่านั้น แต่ทรงเสด็จพระราชดำเนินแวะเยี่ยมห้องสมุดเพื่อพระราชทานหนังสือและขวัญกำลังใจให้แก่บรรณารักษ์ ในวโรกาสที่ทรงแปรพระราชฐานหรือทรงเสด็จผ่านเสมอ และพระองค์ทรงรับเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี"ด้วยพระองค์เองทุกแห่ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่กรมการศึกษานอกโรงเรียน และประชาชนชาวไทยที่สำคัญยิ่ง