In 1759 Watt's friend, John Robison

In 1759 Watt's friend, John Robison, called his attention to the use of steam as a source of motive power.[17] The design of the Newcomen engine, in use for almost 50 years for pumping water from mines, had hardly changed from its first implementation. Watt began to experiment with steam, though he had never seen an operating steam engine. He tried constructing a model; it failed to work satisfactorily, but he continued his experiments and began to read everything he could about the subject. He came to realise the importance of latent heat—the thermal energy released or absorbed during a constant-temperature process—in understanding the engine, which, unknown to Watt, his friend Joseph Black had previously discovered some years before. Understanding of the steam engine was in a very primitive state, for the science of thermodynamics would not be formalised for nearly another 100 years.

In 1763, Watt was asked to repair a model Newcomen engine belonging to the university.[17] Even after repair, the engine barely worked. After much experimentation, Watt demonstrated that about three-quarters of the thermal energy of the steam was being consumed in heating the engine cylinder on every cycle.[18] This energy was wasted because later in the cycle cold water was injected into the cylinder to condense the steam to reduce its pressure. Thus by repeatedly heating and cooling the cylinder, the engine wasted most of its thermal energy rather than converting it into mechanical energy.

Watt's critical insight, arrived at in May 1765,[19] was to cause the steam to condense in a separate chamber apart from the piston, and to maintain the temperature of the cylinder at the same temperature as the injected steam by surrounding it with a "steam jacket."[18] Thus very little energy was absorbed by the cylinder on each cycle, making more available to perform useful work. Watt had a working model later that same year.


The ruin of Watt's cottage workshop at Kinneil House

Cylinder fragment of Watt's first operational engine at the Carron Works, Falkirk
Despite a potentially workable design, there were still substantial difficulties in constructing a full-scale engine. This required more capital, some of which came from Black. More substantial backing came from John Roebuck, the founder of the celebrated Carron Iron Works near Falkirk, with whom he now formed a partnership. Roebuck lived at Kinneil House in Bo'ness, during which time Watt worked at perfecting his steam engine in a cottage adjacent to the house. The shell of the cottage, and a very large part of one of his projects, still exist to the rear.[20]

The principal difficulty was in machining the piston and cylinder. Iron workers of the day were more like blacksmiths than modern machinists, and were unable to produce the components with sufficient precision. Much capital was spent in pursuing a patent on Watt's invention. Strapped for resources, Watt was forced to take up employment—first as a surveyor, then as a civil engineer—for eight years.[21]

Roebuck went bankrupt, and Matthew Boulton, who owned the Soho Foundry works near Birmingham, acquired his patent rights. An extension of the patent to 1800 was successfully obtained in 1775.[22]

Through Boulton, Watt finally had access to some of the best iron workers in the world. The difficulty of the manufacture of a large cylinder with a tightly fitting piston was solved by John Wilkinson, who had developed precision boring techniques for cannon making at Bersham, near Wrexham, North Wales. Watt and Boulton formed a hugely successful partnership (Boulton and Watt) which lasted for the next twenty-five years.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในวัตต์ที่ 1759 เพื่อน จอห์น Robison เรียกความสนใจกับการใช้ไอน้ำเป็นแหล่งพลังงานของแรงจูงใจ [17] การออกแบบของเครื่องยนต์ Newcomen ใช้สำหรับสูบน้ำจากเหมือง เกือบ 50 ปีก็แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากงานแรกของ วัตต์เริ่มทดลองใช้อบไอน้ำ แม้ว่าเขาไม่เคยเห็นเครื่องอบไอน้ำทำงาน เขาพยายามสร้างแบบจำลอง ล้มเหลวในการทำงานผ่าน แต่เขายังคงทดลองของเขา และเริ่มที่จะอ่านทุกอย่างที่เขาอาจเกี่ยวกับเรื่อง พระองค์ตระหนักถึงความสำคัญของความร้อน latent — พลังงานความร้อนออก หรือดูดซึมในระหว่างกระบวนการอุณหภูมิคงซึ่งในการศึกษาเครื่องยนต์ ซึ่ง รู้จักไปวัตต์ เพื่อนของเขาโจเซฟดำเคยพบบางปีก่อน ความเข้าใจของเครื่องจักรไอน้ำอยู่ในดึกดำบรรพ์ สำหรับวิทยาศาสตร์ของอุณหพลศาสตร์จะไม่สามารถ formalised สำหรับอีกเกือบ 100 ปีใน 1763 วัตต์ไม่ต้องซ่อมเครื่องยนต์ Newcomen รุ่นของมหาวิทยาลัย คู่ [17] หลังจากการซ่อมแซม เครื่องยนต์ที่แทบไม่ทำงาน หลังจากทดลองมาก วัตต์แสดงว่า การใช้ three-quarters เกี่ยวกับพลังงานความร้อนของไอน้ำในถังเครื่องยนต์ความร้อนในทุกวงจร [18] พลังงานนี้ถูกทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์เนื่องจากในวงจร น้ำเย็นถูกฉีดเข้าไปในกระบอกจับตัวกันแน่นของไอน้ำลดความดันของ ดังนั้น ทางซ้ำ ๆ ความร้อนเย็นถัง เครื่องยนต์เสียทั้งพลังงานความร้อนแทนที่แปลงเป็นพลังงานกลเข้าใจความสำคัญของวัตต์ มาถึงในลตันพฤษภาคม, [19] คือการ ทำให้ไอน้ำจับตัวกันแน่นในห้องแยกต่างหากจากนอก และ การรักษาอุณหภูมิของถังที่อุณหภูมิเดียวกันเป็นการฉีดไอน้ำ โดยรอบด้วยการ "อบเสื้อ" [18] ดังนั้น พลังงานน้อยมากถูกดูดซึม โดยถังในแต่ละรอบ ทำให้มีการทำงานเป็นประโยชน์ วัตต์ได้แบบทำงานในปีเดียวกันในภายหลังปรักหักพังของเชิงคอทเทจของวัตต์ที่บ้าน Kinneilส่วนทรงกระบอกของวัตต์แรกเครื่องยนต์ทำงานที่งาน Carron, Falkirkแม้ มีการออกแบบอาจสามารถทำงานได้ มียังคงพบปัญหาในการสร้างเครื่องมือเต็มรูปแบบ นี้ต้องใช้ทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งมาจากสีดำ สำรองที่พบมากมาจากจอห์นโรบัค ผู้ก่อตั้งงานเหล็ก Carron เฉลิมฉลองใกล้ Falkirk กับเขาตอนนี้เกิดความร่วมมือ โรบัคอาศัยอยู่ที่บ้าน Kinneil Bo'ness ระหว่างที่วัตต์ทำงานใน perfecting เครื่องจักรไอน้ำของเขาในกระท่อมที่อยู่ติดกับบ้าน เชลล์คอทเทจ และขนาดใหญ่ส่วนหนึ่งของโครงการของเขา ยังคงอยู่ด้านหลัง [20]ปัญหาหลักในการตัดเฉือนลูกสูบและกระบอกได้ คนเหล็กของวันได้มากกว่าเช่นแบล็คสมิธบีสึกหรอทันสมัย และไม่สามารถผลิตส่วนประกอบที่ มีความแม่นยำเพียงพอ ใช้ทุนมากในการใฝ่หาสิทธิบัตรในสิ่งประดิษฐ์ของวัตต์ Strapped สำหรับทรัพยากร วัตต์ถูกบังคับให้ใช้งานตัวแรก เป็นแบบเมเนจเมนท์ แล้ว เป็นวิศวกรโยธา — แปดปี [21]โรบัคไปล้มละลาย และ Matthew Boulton ที่เป็นเจ้าของงานโรงหล่อโซโหใกล้เบอร์มิงแฮม รับสิทธิสิทธิบัตร การขยายสิทธิบัตรไป 1800 สำเร็จกล่าวใน 1775 แอดเด [22]ผ่าน Boulton วัตต์จนได้เข้าถึงบางส่วนของคนเหล็กที่ดีที่สุดในโลก ความยากของการผลิตถังขนาดใหญ่มีความเหมาะสมคับลูกสูบถูกแก้ไข โดยจอห์น Wilkinson ที่มีพัฒนาเทคนิคน่าเบื่อความแม่นยำสำหรับปืนใหญ่ทำ Bersham ใกล้ Wrexham นอร์ธเวลส์ วัตต์และ Boulton เกิดประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจับคู่ (Boulton และวัตต์) ซึ่งกินเวลายี่สิบห้าปีถัดไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ใน 1759 เพื่อนวัตต์จอห์นโรบินสันส์เรียกความสนใจของเขาที่จะใช้ไอน้ำเป็นแหล่งที่มาของพลังขับเคลื่อนที่. [17] การออกแบบของเครื่องยนต์ Newcomen ที่ในการใช้งานเกือบ 50 ปีสำหรับการสูบน้ำจากเหมืองได้แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากที่ ดำเนินการครั้งแรก วัตต์เริ่มทดลองด้วยไอน้ำแม้ว่าเขาจะไม่เคยเห็นรถจักรไอน้ำในการดำเนินงาน เขาพยายามสร้างรูปแบบ; มันล้มเหลวในการทำงานที่น่าพอใจ แต่เขายังคงทดลองของเขาและเริ่มที่จะอ่านทุกอย่างที่เขาสามารถทำได้เกี่ยวกับเรื่อง เขามาตระหนักถึงความสำคัญของความร้อนพลังงานความร้อนแฝงออกหรือถูกดูดซึมในช่วงที่อุณหภูมิคงที่กระบวนการในการทำความเข้าใจเครื่องยนต์ที่ไม่รู้จักกับวัตต์เพื่อนโจเซฟสีดำของเขาได้ค้นพบก่อนหน้านี้หลายปีก่อน ความเข้าใจของเครื่องยนต์ไอน้ำอยู่ในสภาพดั้งเดิมมากสำหรับวิทยาศาสตร์ของอุณหพลศาสตร์จะไม่ได้รับอย่างเป็นทางการเป็นเวลาเกือบอีก 100 ปี. ใน 1,763 วัตต์ก็ถามว่าจะซ่อมแซมรูปแบบเครื่องยนต์ Newcomen เป็นของมหาวิทยาลัย. [17] แม้หลังจากการซ่อมแซม เครื่องยนต์แทบจะไม่ทำงาน หลังจากการทดลองมากวัตต์แสดงให้เห็นว่าประมาณสามในสี่ของพลังงานความร้อนจากไอน้ำที่ถูกใช้ในการให้ความร้อนกระบอกสูบเครื่องยนต์ในทุกรอบ. [18] พลังงานที่สูญเสียเพราะต่อไปในวงจรน้ำเย็นถูกฉีดเข้าไปในกระบอกสูบไป กลั่นไอน้ำเพื่อลดความดันของ ดังนั้นด้วยซ้ำความร้อนและความเย็นกระบอกสูบเครื่องยนต์ที่สูญเสียมากที่สุดของพลังงานความร้อนมากกว่าแปลงเป็นพลังงานกล. เข้าใจที่สำคัญวัตต์มาถึงพฤษภาคม 1765 [19] ก็จะทำให้เกิดไอน้ำรวมตัวในห้องที่แยกต่างหากจากกัน จากลูกสูบและเพื่อรักษาอุณหภูมิของถังที่อุณหภูมิเดียวกับไอน้ำฉีดโดยมันด้วยรอบ "แจ็คเก็ตไอน้ำ." [18] ดังนั้นพลังงานน้อยมากถูกดูดกลืนโดยสูบในแต่ละรอบทำให้มีมากขึ้นไป การดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ วัตต์มีรูปแบบการทำงานต่อมาในปีเดียวกัน. ทำลายของการประชุมเชิงปฏิบัติการกระท่อมวัตต์ที่ Kinneil บ้านส่วนกระบอกของเครื่องยนต์ในการดำเนินงานของวัตต์ครั้งแรกที่Carron โรงงานฟาลแม้จะมีการออกแบบที่สามารถทำงานได้ที่อาจเกิดขึ้นยังคงมีความยากลำบากมากในการสร้างเครื่องยนต์อย่างเต็มรูปแบบ. เรื่องนี้ต้องมีเงินทุนมากขึ้นบางส่วนที่มาจากสีดำ การสนับสนุนมากขึ้นมาจากจอห์น Roebuck ผู้ก่อตั้งที่มีชื่อเสียงโด่งดังเหล็กโรงงาน Carron ฟาลใกล้กับผู้ที่ตอนนี้เขากลายเป็นหุ้นส่วน Roebuck อาศัยอยู่ที่ Kinneil บ้านบ่อในช่วงเวลาที่วัตต์ทำงานที่สมบูรณ์แบบรถจักรไอน้ำของเขาในกระท่อมที่อยู่ติดกับบ้าน เปลือกของกระท่อมและเป็นส่วนหนึ่งที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งของโครงการของเขายังคงอยู่ไปทางด้านหลัง. [20] ปัญหาหลักอยู่ในเครื่องจักรกลลูกสูบและกระบอกสูบ คนงานเหล็กของวันได้มากขึ้นเช่นหลงเหลือกว่า machinists ที่ทันสมัยและมีความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนที่มีความแม่นยำเพียงพอ เงินทุนมากคือการใช้จ่ายในการใฝ่หาการจดสิทธิบัตรในการประดิษฐ์วัตต์ strapped ทรัพยากรวัตต์ถูกบังคับให้ต้องใช้เวลาถึงการจ้างงานเป็นครั้งแรกที่สำรวจแล้วเป็นวิศวกรสำหรับพลเรือนแปดปี. [21] Roebuck ล้มละลายและแมทธิวโบลตันซึ่งเป็นเจ้าของโซโหหล่อทำงานใกล้เบอร์มิงแฮมได้รับสิทธิบัตรของเขา สิทธิ เป็นส่วนหนึ่งของการจดสิทธิบัตร 1800 ได้ประสบความสำเร็จใน 1775 [22] ผ่านโบลตันวัตต์ในที่สุดก็มีการเข้าถึงบางส่วนของที่ดีที่สุดคนงานเหล็กในโลก ความยากลำบากในการผลิตถังขนาดใหญ่ที่มีลูกสูบกระชับแน่นได้รับการแก้ไขโดยจอห์นวิลกินสันที่มีการพัฒนาเทคนิคที่น่าเบื่อความแม่นยำสำหรับการทำปืนที่ Bersham ใกล้ซัมตอนเหนือของเวลส์ วัตต์และโบลตันกลายเป็นหุ้นส่วนที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาล (โบลตันและวัตต์) ซึ่งกินเวลาต่อไปอีกยี่สิบห้าปี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อนฝรั่งวัตต์ , จอห์น โรบินสัน เรียกความสนใจของเขาการใช้ไอน้ำเป็นแหล่งที่มาของอำนาจ [ 17 ] การออกแบบเครื่องยนต์ ในฐานะ , ในใช้สำหรับเกือบ 50 ปี เพื่อสูบน้ำจากเหมืองแทบเปลี่ยนจากการใช้งานครั้งแรก วัตต์เริ่มทดลองกับไอ แต่เขาไม่เคยเห็นใช้เครื่องจักรไอน้ำ เขาพยายามสร้างแบบจำลองมันไม่สามารถทำงานได้ดี แต่เขายังคงทดลองของเขาและเริ่มที่จะอ่านทุกอย่างที่เขาอาจจะเกี่ยวกับเรื่อง เขามาเพื่อตระหนักถึงความสำคัญของความร้อนแฝง พลังงานความร้อนที่ปล่อยออกมาหรือดูดซึมในระหว่างกระบวนการอุณหภูมิคงที่ในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องยนต์ ซึ่งไม่ทราบวัตต์ เพื่อนของเขา โจเซฟ สีดำที่เคยพบบางปีก่อนหน้านี้ความเข้าใจของเครื่องจักรไอน้ำในสถานะดั้งเดิมมากๆ สำหรับศาสตร์อุณหพลศาสตร์จะไม่ formalised เกือบ 100 ปี

ใน 1763 , วัตต์ให้ซ่อมแบบ Newcomen เครื่องยนต์เป็นของมหาวิทยาลัย . [ 17 ] หลังจากซ่อมเครื่องยนต์แทบไม่ทำงาน หลังจากการทดลองมากวัตต์ พบว่าประมาณสามในสี่ของพลังงานความร้อนจากไอน้ำถูกใช้ในความร้อนเครื่องยนต์สูบทุกวงจร [ 18 ] พลังงานนี้เสีย เพราะต่อไปในรอบเย็นน้ำถูกฉีดเข้าไปในกระบอกสูบเพื่อควบแน่นไอน้ำลดความดันของ ดังนั้นโดยซ้ำความร้อนและกระบอกความร้อนเครื่องยนต์เสียส่วนใหญ่ของพลังงานของตนมากกว่าที่จะแปลงเป็นพลังงานกล

วัตต์กำลังวิกฤต Insight , มาถึงในเดือนพฤษภาคม 1765 [ 19 ] คือ , ก่อให้เกิดไอน้ำจะควบแน่นในตำหนักแยกต่างหากจากลูกสูบ และรักษาอุณหภูมิของถังที่อุณหภูมิเดียวกับการฉีดไอน้ำ โดยรอบกับเสื้อ " ไอน้ำ" [ 18 ] จึงน้อยมากพลังงานถูกดูดซึมโดยกระบอกในแต่ละรอบให้มากขึ้นพร้อมที่จะแสดงประโยชน์งาน วัตต์มีรูปแบบการทำงานในภายหลังในปีเดียวกัน


ความพินาศของวัตต์ของกระท่อมการประชุมเชิงปฏิบัติการที่ kinneil บ้าน

ส่วนของวัตต์ถังแรกที่แคร์เริ่นงานเครื่องยนต์งาน ฟาล
แม้จะมีการออกแบบที่สามารถใช้งานได้ยังคงมีปัญหามากในการสร้างเครื่องมือเต็มรูปแบบ นี้ต้องใช้ทุนมากขึ้น ซึ่งบางส่วนมาจากสีดำ สนับสนุนมากกว่ามาจากจอห์น โรบัค ผู้ก่อตั้งของการเฉลิมฉลองงานเหล็กคาร์รอลใกล้กับ Falkirk , ซึ่งเขาได้จัดตั้งพันธมิตร โรบัค อยู่บ้าน bo'ness kinneil ,