Push type" means Make to Stock in w

Push type" means Make to Stock in which the production is not based on actual demand. "Pull type" means Make To Order in which the production is based on actual demand. In supply chain management, it is important to carry out processes halfway between push type and pull type or by a combination of push type and pull type.

Supply Chain Management (SCM) is to create a solution i.e. "supply" for a goal or issue, i.e. "demand". Supply chain models of "Push type" and "Pull type" are opposite in terms of a demand and supply relationship. "Push type" is represented by "Make to Stock" (MTS) in which the production is not based on actual demand and "Pull type" is represented by "Make To Order" (MTO) in which the production is based on actual demand.

One of the major reasons why supply chain management currently receives so much attention is that information technology enables the shifting of a production and sales business model from "Push type" to "Pull type". Pull-type supply chain management is based on the demand side such as Just-in-Time (JIT) and CRP (Continuous Replenishment Program) or actual demand assigned to later processes. Therefore, unlike the Push-type method it is not Make to Stock, which is based on demand forecast. While inventory is kept to a minimum, products can be supplied with short lead times and at high speed. At the point where "Pull type" starts to supply operations triggered by actual demand, it is like an elevator. An elevator starts when a button is pressed even if there is only one passenger. On the other hand, the "Push type" can be considered as an escalator. An escalator continues to supply (push) regardless of whether there is actual demand (passenger). In addition, "Push type" corresponds to a model for trains, buses, and airplanes for which supply (push) is based on demand forecast by time period and route. There may be various forms between "Push type" and "Pull type" depending on inventory forms of materials, work in progress (WIP), and finished items and how to deal with the actual demand in supply chain management.

In the case of sushi, there are boxed sushi sold in a shop, sushi ordered at the counter in a sushi restaurant, and sushi for which an order starts from purchasing live fishes. The place and form which fish for sushi are held in varies from downstream to upstream in a supply chain. An extreme example of a pull-type supply chain sushi restaurant that is unconcerned about lead times is the one that goes fishing when an order is received.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลักดันชนิด"หมายความว่าให้ไปที่การผลิตไม่ขึ้นอยู่กับความต้องการจริง "ดึงชนิด" หมายถึงทำใบสั่งการผลิตตามความต้องการจริง ในการบริหารห่วงโซ่อุปทาน จึงเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินกระบวนการอยู่ตรงกลาง ระหว่างชนิดผลักดันและดึงชนิด หรือชนิดผลักดันและดึงชนิดจัดการห่วงโซ่อุปทาน (SCM) คือการ สร้างการแก้ไขปัญหาเช่น "ซัพพลาย" เป้าหมายหรือปัญหา เช่น "ความ" รุ่น "ผลักดันชนิด" และ "ดึงชนิด" ห่วงโซ่อุปทานตรงกันข้ามในความสัมพันธ์ของอุปสงค์และอุปทาน "ผลักดันชนิด" แสดง โดย "ทำให้หุ้น" (MTS) ที่ผลิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับความต้องการจริง และ "ดึงชนิด" แสดง โดย "สั่งทำ" (MTO) ซึ่งการผลิตจะขึ้นอยู่กับความต้องการจริงหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำไมบริหารห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบันได้รับความสนใจมากเป็นว่า เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การขยับของโมเดลธุรกิจการผลิตและการขายจาก "ชนิดผลักดัน" "ดึงชนิด" อยู่บริหารห่วงโซ่อุปทานแบบดึงทางด้านอุปสงค์เช่นเพียงแค่--เวลา (JIT) และ CRP (อย่างต่อเนื่องเพิ่มเติมโปรแกรม) หรือความต้องการจริงกับกระบวนการในภายหลัง ดังนั้น ซึ่งแตกต่างจากวิธีกดชนิดจึงไม่ทำสต็อก ซึ่งอยู่คาดการณ์ความต้องการ ในขณะที่สินค้าคงคลังอยู่ต่ำ สามารถจัดผลิตภัณฑ์ กับเวลารอคอยสินค้าที่สั้น และความเร็วสูง ในจุดที่ "ดึงชนิด" เริ่มต้นด้วยแผนการดำเนินงานการจัดหา ได้เช่นลิฟท์ ลิฟท์เริ่มเมื่อปุ่มถูกกดแม้ว่าจะมีผู้โดยสารเพียงคนเดียว บนมืออื่น ๆ "ดันชนิด" ถือได้ว่าเป็นบันไดเลื่อนที่ บันไดเลื่อนที่ยังคงจัดหา (ผลักดัน) ไม่ว่ามีความต้องการจริง (ผู้โดยสาร) นอกจากนี้ "ผลักดันชนิด" สอดคล้องกับแบบจำลองรถไฟ รถโดยสาร และเครื่องบินที่ซัพพลาย (ผลักดัน) ขึ้นอยู่กับความต้องการการคาดการณ์ตามช่วงเวลาและเส้นทาง อาจจะมีแบบฟอร์มต่าง ๆ ระหว่าง "ผลักดันชนิด" และ "ดึงชนิด" ตามแบบฟอร์มสินค้าคงคลังของวัสดุ งานระหว่างทำ (WIP), และสินค้าสำเร็จรูป และวิธีการจัดการกับความต้องการจริงในการบริหารห่วงโซ่อุปทานในกรณีของซูชิ มีซูชิกล่องที่ขายในร้าน สั่งซูชิที่เคาน์เตอร์ในร้านอาหาร ซูชิและซูชิที่ใบเริ่มจากซื้อปลาสด สถานที่และรูปแบบซึ่งจัดขึ้นปลาซูชิไปจนจากปลายน้ำถึงขั้นต้นน้ำในห่วงโซ่อุปทาน ตัวอย่างมากชนิดดึงซัพพลายเชนซูชิอาหารที่ unconcerned เกี่ยวกับระยะเวลารอคอยไปตกปลาเมื่อได้รับใบสั่งได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชนิดกด "หมายถึงให้ผู้ถือหุ้นในการผลิตที่ไม่ได้ขึ้นกับความต้องการที่แท้จริง." ดึง "หมายความว่า Make To Order ซึ่งในการผลิตจะขึ้นอยู่กับความต้องการที่แท้จริง. ในการจัดการห่วงโซ่อุปทานเป็นสิ่งสำคัญที่จะดำเนินการกระบวนการกึ่งกลางระหว่าง ผลักดันและดึงประเภทชนิดหรือโดยการรวมกันของชนิดผลักดันและดึงชนิด. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (SCM) คือการสร้างวิธีการแก้ปัญหาคือ "อุปทาน" สำหรับเป้าหมายหรือปัญหาคือ "ความต้องการ". รูปแบบห่วงโซ่อุปทานของ "กดพิมพ์" และ "ดึงพิมพ์" อยู่ตรงข้ามในแง่ของความต้องการและความสัมพันธ์อุปทาน. "กดพิมพ์" เป็นตัวแทนจาก "เพื่อเก็บเข้าสต็อค" (เอ็มทีเอ) ในการผลิตที่ไม่ได้ขึ้นกับความต้องการที่แท้จริงและ "ดึงพิมพ์" จะถูกแทนด้วย " Make To Order "(MTO) ซึ่งการผลิตจะขึ้นอยู่กับความต้องการที่แท้จริง. หนึ่งในเหตุผลสำคัญว่าทำไมการจัดการห่วงโซ่อุปทานในขณะนี้ได้รับความสนใจมากคือการที่เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้การขยับของการผลิตและการขายรูปแบบธุรกิจจาก "กดพิมพ์" ที่จะ "ดึงพิมพ์". ดึงประเภทการจัดการห่วงโซ่อุปทานจะขึ้นอยู่กับความต้องการด้านเช่น Just-In-Time (JIT) และ CRP (หลักสูตรการเติมเต็มอย่างต่อเนื่อง) หรือความต้องการที่แท้จริงได้รับมอบหมายให้กระบวนการในภายหลัง ดังนั้นวิธีการที่แตกต่างจากการผลักดันชนิดมันจะไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นซึ่งจะขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ความต้องการ ในขณะที่สินค้าคงคลังจะถูกเก็บไว้ให้น้อยที่สุด, ผลิตภัณฑ์ที่สามารถจะมาพร้อมกับเวลาอันสั้นและที่ความเร็วสูง เมื่อมาถึงจุดที่ "ดึง" จะเริ่มต้นในการจัดหาการดำเนินงานที่ถูกกระตุ้นโดยความต้องการที่แท้จริงมันเป็นเช่นลิฟท์ ลิฟท์เริ่มต้นเมื่อมีการกดปุ่มแม้ว่าจะมีเพียงคนเดียวที่ผู้โดยสาร ในทางตรงกันข้าม, "กดพิมพ์" ถือได้ว่าเป็นบันไดเลื่อน บันไดเลื่อนยังคงจัดหา (การผลักดัน) ไม่ว่าจะมีความต้องการที่เกิดขึ้นจริง (ผู้โดยสาร) นอกจากนี้ "กดพิมพ์" ที่สอดคล้องกับรูปแบบการรถไฟรถโดยสารและเครื่องบินที่อุปทาน (การผลักดัน) จะขึ้นอยู่กับความต้องการที่คาดการณ์โดยช่วงเวลาและเส้นทาง อาจจะมีรูปแบบต่าง ๆ ระหว่าง "กดพิมพ์" และ "ดึงพิมพ์" ขึ้นอยู่กับรูปแบบสินค้าคงคลังของวัสดุการทำงานในความคืบหน้า (WIP) และจบรายการและวิธีการที่จะจัดการกับความต้องการที่แท้จริงในการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทาน. ในกรณีของซูชิ มีเป็นชนิดบรรจุกล่องซูชิที่ขายในร้านซูชิสั่งซื้อที่เคาน์เตอร์ในร้านซูชิและปลาดิบที่เพื่อเริ่มต้นจากการซื้อปลาสด สถานที่และรูปแบบที่ปลาซูชิจะมีขึ้นในแตกต่างจากต้นน้ำปลายน้ำในห่วงโซ่อุปทาน ตัวอย่างมากของห่วงโซ่อุปทานชนิดดึงร้านซูชิที่เป็นไม่แยแสกับเวลานำเป็นหนึ่งที่จะไปตกปลาเมื่อมีคำสั่งที่ได้รับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กดพิมพ์ " หมายถึง ทำให้หุ้นที่ผลิตไม่ได้ตามความต้องการที่เกิดขึ้นจริง " พิมพ์ " ดึงวิธีการสั่งซื้อซึ่งในการผลิตจะขึ้นอยู่กับความต้องการที่แท้จริง ในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน , มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะดำเนินการกระบวนการครึ่งทางระหว่างแบบผลักและดึงพิมพ์หรือการรวมกันของชนิดผลักและดึงพิมพ์

จัดการห่วงโซ่อุปทาน ( SCM ) เพื่อสร้างโซลูชันได้แก่" อุปทาน " เป็นเป้าหมาย หรือปัญหา คือ " ความต้องการ " ห่วงโซ่อุปทานแบบของ " กดพิมพ์ " และ " ดึง " ชนิดตรงกันข้ามในแง่ของอุปสงค์และอุปทานสัมพันธ์” กดพิมพ์ " แสดงโดย " ทำหุ้น " ( เอ็มทีเอ ) ซึ่งในการผลิตที่ไม่ได้ตามความต้องการที่แท้จริง และ " พิมพ์ " ดึง แทนด้วย " สั่งซื้อ " ( MTO ) ซึ่งในการผลิตจะขึ้นอยู่กับความต้องการที่แท้จริง

หนึ่งในเหตุผลหลักว่าทำไมการจัดการห่วงโซ่อุปทานในปัจจุบันได้รับความสนใจมากเป็นข้อมูลที่สามารถใช้เทคโนโลยีการผลิตและการขายรูปแบบธุรกิจจาก " กดพิมพ์ " ที่จะ " ดึงประเภท " การจัดการโซ่อุปทานแบบดึงจากด้านอุปสงค์ เช่น ทันเวลาพอดี ( JIT ) และค้นหา ( โปรแกรม ) ต่อเนื่อง ) หรือความต้องการที่แท้จริงให้กับกระบวนการทีหลังจึงแตกต่างจากวิธีกดพิมพ์ มันไม่ได้ทำให้หุ้นซึ่งจะขึ้นอยู่กับการคาดการณ์ความต้องการ ในขณะที่สินค้าคงคลังจะถูกเก็บไว้ให้น้อยที่สุด , ผลิตภัณฑ์ที่สามารถจะมาพร้อมกับเวลานำที่สั้น และที่ความเร็วสูง ที่จุดที่ " พิมพ์ " ดึงเริ่มจัดหางานเรียกโดยความต้องการที่แท้จริง มันเป็นเหมือนลิฟต์ ลิฟต์เริ่มเมื่อกดปุ่ม แม้มีเพียงหนึ่งผู้โดยสารบนมืออื่น ๆ , " ประเภท " ดันถือได้ว่าเป็นบันไดเลื่อน บันไดเลื่อนยังคงจัดหา ( ดัน ) ไม่ว่าจะมีความต้องการที่แท้จริง ( ผู้โดยสาร ) นอกจากนี้ " กดพิมพ์ " สอดคล้องกับโมเดลรถไฟ รถบัส และเครื่องบินที่จัดหา ( ดัน ) ตามความต้องการพยากรณ์ตามระยะเวลาและเส้นทาง .อาจจะมีรูปแบบต่าง ๆ ระหว่าง " กดพิมพ์ " และ " ดึง " ชนิดขึ้นอยู่กับสินค้าคงคลังของวัสดุ ความก้าวหน้าในงาน ( WIP ) และรายการเสร็จ และวิธีการจัดการกับความต้องการที่แท้จริงในการจัดการโซ่อุปทาน

ในกรณีของซูชิ ซูชิมีกล่องขายในร้าน ซูชิ สั่ง ที่เคาน์เตอร์ในร้านอาหารซูชิและซูชิที่สั่งเริ่มจากซื้อสดปลาสถานที่และรูปแบบซึ่งปลาซูชิที่จัดขึ้นในแตกต่างกันไปจากจุดที่เกิดขึ้นในห่วงโซ่อุปทาน ตัวอย่างรุนแรงของดึงพิมพ์จัดหาซูชิห่วงโซ่อาหารที่ไม่สนใจเกี่ยวกับเวลารอคอยสินค้า เป็นคนหนึ่งที่ไปตกปลาเมื่อสั่งซื้อจะได้รับ