The Temple of Artemis at Ephesus, a

The Temple of Artemis at Ephesus, also known as the Artemesium, was constructed in the mid 6th century BC. It was located in Ephesus (modern Turkey), and was considered to be one of the Seven Wonders of the Ancient World. Antipater of Sidon included it on his definitive list of monuments, partly because of its size and grandeur, but also because of its location. Its location on the rim of the Greek world helped to provoke admiration to non-Greeks of the vastness of the Greek world.
The Artemesium was built to honor the Greek goddess Artemis, goddess of the moon and the hunt, by KingCroesus of Lydia. The classic Ionic temple was designed and built by Cherisiphron, an architect from Crete, along with his son Metagenes. The location of the temple in Asia Minor was at a commercial crossroads, and therefore attracted a great variety of visitors, with varying religious beliefs. It is because of this that the cult of Artemis that was worshipped here also incorporated elements of worship of other deities, such as Cybele, an earth-mother goddess of the region around Turkey. In fact, the cult statue within the temple was likely reminiscent of this Near-Eastern goddess, featuring several breasts (a symbol of fertility), and portrayed in statuary with legs closed, tapering as a pillar or a sarcophagus (quite unlike Classical Greek statues).

Model of the Temple of Artemis
The design of the temple was not of the typical rectangle portico that was common to Greek tamples of the time, but a mixture of Classic Greek and Near-Eastern design and execution. It was decorated with 127 Ionic columns that stood 60 feet high. The temple was a large marble building, measuring 377 feet by 180 feet, and it featured columns drums with high-relief sculptural scenes (rather than having simple flutes carved into them). The interior of the temple featured sculptures of Amazon warriors (who had hidden from pursuant Greek gods at Ephesus) by some of the most well respected Greek sculptors, such as Polyclitus and Pheidias. There were also several paintings adorning the walls, and gilded columns of gold and silver. The cult statue housed within the temple was not huge, like the statue of Zeus at Olympia was, but rather more "life-sized", and stood upon a marble pedestal.
The Temple of Artemis at Ephesus was set ablaze on July 21, 356 BC by Herostratus, who held nothing personally against Artemis or the temple, but saw its destruction as a path to personal fame. The temple was reconstructed after the death of Alexander the Great (who curiously had been born on July 21, 356 BC), and then it was destroyed again in 262 by the Goths. Remains of the temple were used in the construction of later buildings.
Very little remains of the Artemesium. Its location was discovered in 1869, and excavations begun then. Several artifacts were excavated, and are housed today at the British Museum in London. As for the site at Ephesus, only a lonely reconstructed column stands today, a poignant reminder of the grandiose and gleaming temple whose religious and architectural significance made it one of the Seven Wonders of the Ancient World.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทอมีที่เอเฟซัส หรือที่เรียกว่า Artemesium ถูกสร้างขึ้นก่อนคริสต์ศตวรรษที่ 6 กลาง มันตั้งอยู่ในเอเฟซัส (สมัยตุรกี), และถือเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก Antipater อิทธิฤทธิ์รวมมันรายการทั่วไปของอนุสาวรีย์ บางส่วนเนื่อง จากขนาดความรู้สึก แต่เนื่อง จากสถานที่นั้น ตั้งอยู่บนขอบของโลกกรีกช่วยยั่วเย้าชื่นชมกับกรีกไม่ใช่ของอูลานบาตอร์ของกรีกโลก
Artemesium ที่สร้างให้เกียรติเจ้ากรีกอาร์เทมิส เจ้าของดวงจันทร์และการล่าสัตว์ โดย KingCroesus Lydia วัด Ionic คลาสสิกถูกออกแบบ และสร้าง โดย Cherisiphron สถาปนิกจากเกาะครีต พร้อม ด้วยบุตร Metagenes ที่ตั้งของวัดในวิชารองเอเชียครอพาณิชย์ และดึงดูดผู้เข้าชม มีความเชื่อในศาสนาต่าง ๆ ที่หลากหลายดังนั้น จึงเป็นเหตุนี้ว่า ลัทธิของอาร์เทมิสที่บูชาที่นี่ยังรวมองค์ประกอบของการเคารพบูชาของเทวดาอื่น ๆ เช่น Cybele เป็นเจ้าแผ่นดินแม่ภาคสถานตุรกี อันที่จริง ลัทธิรูปปั้นภายในวัดมีแนวโน้มของเจ้านี้ใกล้ตะวันออก มีหลายหน้าอก (เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์), และเซ็กส์ statuary ขาปิด เรียวเป็นเสาหรือโลงหิน (เหมือนรูปปั้นกรีกคลาสสิก)

ของวัด Artemis
การออกแบบของวัดไม่ใช่ของโก้สี่เหลี่ยมทั่วไปที่ไป tamples ภาษากรีกแล้ว แต่ส่วนผสม กรีกคลาสสิกออกแบบใกล้ตะวันออก และการดำเนินการ จะถูกตกแต่ง ด้วยคอลัมน์ Ionic 127 ที่ยืนสูง 60 ฟุต วัดเป็นหินอ่อนขนาดใหญ่อาคาร ขนาด 377 ฟุต โดยเท้า 180 และก็ห้องคอลัมน์กลองกับฉากรูปสูงบรรเทา (แทนมี flutes อย่างที่แกะสลักเข้าไป) ภายในวัดที่โดดเด่นไปด้วยรูปปั้นนักรบ Amazon (ที่มีซ่อนจากเทพเจ้ากรีก pursuant ที่เอเฟซัส) โดยบางนี้กรีกที่สุดยอมรับ เช่น Polyclitus Pheidias นอกจากนี้ยังมีภาพวาดหลาย adorning ผนัง และคอลัมน์หอคำของโกลด์และซิลเวอร์ ลัทธิรูปปั้นในวัดมีไม่ มาก เช่นเทวรูปซูสที่โอลิมเปียได้ แต่มากกว่า "life-sized" และยืนเมื่อมีหินอ่อนเชิงการ
เทอมีที่เอเฟซัสถูกกำหนดไฟเผาบน 21 กรกฎาคม 356 BC โดย Herostratus ผู้จัดไม่มีอะไรส่วนตัวกับอาร์เทมิสหรือวัด แต่เห็นการทำลายเป็นเส้นทางไปชื่อเสียงส่วนบุคคล วัดถูกเชิดหลังความตายของอเล็กซานเดอร์มหาราช (ที่ curiously มีการเกิดกรกฏา 21 คม 356 BC), และจากนั้น ก็ถูกทำลายอีกครั้งใน 262 โดยชาวกอท ของวัดที่ใช้ในการก่อสร้างของอาคารในภายหลัง
น้อยมากยังคงเป็นของ Artemesium สถานที่ค้นพบในงแมง และทิศเริ่มแล้ว วัตถุต่าง ๆ ที่ขุดค้น และห้องพักวันนี้ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษในกรุงลอนดอน สำหรับไซต์ที่เอเฟซัส เพียงโดดเดี่ยวสร้างขึ้นใหม่คอลัมน์ยืนวันนี้ เตือนประจำวัดยอดเยี่ยม และวาวซึ่งศาสนา และสถาปัตยกรรมสำคัญทำหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิหารของอาร์ทิมิสอีฟีซัสที่เรียกว่าเป็น Artemesium ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 6 มันตั้งอยู่ในเมืองเอเฟซั (ปัจจุบันตุรกี) และได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ แอนติพาซิดอนรวมไว้ในรายการสรุปของอนุเสาวรีย์ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขนาดและความยิ่งใหญ่ของมัน แต่ยังเพราะทำเลที่ตั้ง ทำเลที่ตั้งอยู่บนขอบของโลกกรีกจะช่วยกระตุ้นความชื่นชมไม่ใช่ชาวกรีกของความกว้างใหญ่ของโลกกรีก
Artemesium ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพธิดากรีกอาร์ทิมิสเทพีแห่งดวงจันทร์และล่าโดย KingCroesus ของลิเดีย วัดอิออนคลาสสิกได้รับการออกแบบและสร้างโดย Cherisiphron สถาปนิกจากเกาะครีตพร้อมกับลูกชายของเขา Metagenes สถานที่ตั้งของวัดในเอเชียไมเนอร์เป็นที่สี่แยกเชิงพาณิชย์และดังนั้นจึงดึงดูดความหลากหลายของผู้เข้าชมที่แตกต่างกับความเชื่อทางศาสนา มันเป็นเพราะเหตุนี้ที่ศาสนาของอาร์ทิมิสที่ได้รับการเคารพบูชาที่นี่ยังรวมองค์ประกอบของการเคารพบูชาของเทพอื่น ๆ เช่น Cybele, เทพธิดาแผ่นดินแม่ของภูมิภาคทั่วตุรกี ในความเป็นจริงรูปปั้นศาสนาภายในวัดก็น่าจะเตือนความทรงจำของเทพธิดาใกล้ตะวันออกเนื้อเรื่องหลายหน้าอก (สัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์) และแสดงให้เห็นในรูปปั้นด้วยขาปิดเรียวเป็นเสาหรือโลงศพ (ค่อนข้างแตกต่างจากรูปปั้นกรีกคลาสสิก ) รุ่นของวัดของอาร์ทิมิสออกแบบของวัดไม่ได้ของระเบียงสี่เหลี่ยมผืนผ้าทั่วไปที่เป็นเรื่องธรรมดาที่จะ tamples กรีกเวลา แต่ส่วนผสมของคลาสสิกกรีกและใกล้อีสเทิร์นการออกแบบและการดำเนินการ มันได้รับการตกแต่งด้วย 127 อิออนคอลัมน์ที่ยืน 60 ฟุตสูง วัดเป็นอาคารหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ขนาด 377 ตารางฟุตโดย 180 ฟุตและจะให้ความสำคัญกับคอลัมน์กลองสูงบรรเทาฉากประติมากรรม (แทนที่จะมีขลุ่ยง่ายแกะสลักลงในพวกเขา) การตกแต่งภายในของวัดที่ให้ความสำคัญประติมากรรมของนักรบอเมซอน (ที่ซ่อนอยู่จากเทพเจ้ากรีกตามที่อีฟีซัส) โดยบางส่วนของที่นับหน้าถือตามากที่สุดประติมากรกรีกเช่น Polyclitus และ Pheidias นอกจากนั้นยังมีภาพวาดหลายประดับประดาผนังและคอลัมน์ทองของทองและเงิน บูชารูปปั้นตั้งอยู่ภายในวัดก็ไม่ได้มากเช่นรูปปั้นของเทพซุสที่โอลิมเปียได้ แต่ค่อนข้างมาก "ชีวิตขนาด" และยืนอยู่บนแท่นหินอ่อนวัดของอาร์ทิมิสอีฟีซัสที่ถูกเผาไหม้ในวันที่ 21 กรกฎาคม 356 BC โดย Herostratus ที่จัดขึ้นไม่มีอะไรเป็นการส่วนตัวกับอาร์ทิมิสหรือวัด แต่เห็นการทำลายล้างของมันเป็นเส้นทางไปยังบุคคลที่มีชื่อเสียง วัดถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากการตายของเล็กซานเดอร์มหาราช (ใครอยากรู้อยากเห็นได้รับการประสูติเมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม 356 BC) และจากนั้นก็ถูกทำลายอีกครั้งใน 262 โดย Goths ซากของวัดที่ถูกนำมาใช้ในการก่อสร้างอาคารในภายหลังยังคงน้อยมากของ Artemesium สถานที่มันถูกค้นพบในปี 1869 และการขุดเจาะเริ่มแล้ว สิ่งประดิษฐ์หลายคนถูกขุดขึ้นมาและจะตั้งอยู่ในวันนี้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติอังกฤษในกรุงลอนดอน สำหรับเว็บไซต์ที่เอเฟซัสเพียงคอลัมน์ใหม่เหงายืนอยู่ในวันนี้เตือนฉุนของวัดที่ยิ่งใหญ่และส่องแสงที่มีความสำคัญทางศาสนาและสถาปัตยกรรมที่ทำให้มันเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัดของ Artemis ที่เอเฟซัส เรียกว่า artemesium ถูกสร้างขึ้นในช่วงกลางศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล มันตั้งอยู่ในเมืองเอเฟซัส ( ตุรกีปัจจุบัน ) และได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ แอนติเพเตอร์ของ Sidon รวมอยู่ในรายชื่อที่ชัดเจนของอนุสาวรีย์ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะขนาดและความยิ่งใหญ่ของมัน แต่ยังเพราะตำแหน่งของมันที่ตั้งอยู่บนขอบของโลกกรีกช่วยกระตุ้นความชื่นชมไม่กรีกของความกว้างใหญ่ของโลกกรีก .
artemesium ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่กรีกเทพีอาเทมิส เทพธิดาแห่งดวงจันทร์ และล่าสัตว์ โดย kingcroesus ของลิเดีย วัดอิออนคลาสสิคถูกออกแบบและสร้างโดย cherisiphron สถาปนิกจากครีต พร้อมกับ metagenes ลูกชายของเขาที่ตั้งของวัด ในเอเซียไมเนอร์ในการค้าแยกและดังนั้นจึงดึงดูดหลากหลายของผู้เข้าชมที่แตกต่างกัน ความเชื่อทางศาสนา มันเป็นเพราะศาสนาของ Artemis ที่สักการะที่นี่ยังรวมองค์ประกอบของการบูชาเทพอื่น ๆเช่น ซี เป็นแผ่นดินแม่เทพธิดาแห่งภูมิภาคทั่วประเทศตุรกี ในความเป็นจริงลัทธิรูปปั้นภายในวัดนี้ ใกล้ถึงแนวโน้มของเทพธิดาตะวันออก ที่มีหน้าอกหลาย ( เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และปรากฎในงานประติมากรรมด้วยขาปิด เรียวเป็นเสาหรือโลง ( ไม่เหมือนกับรูปปั้นกรีกคลาสสิก )

แบบวัดของ Artemis
การออกแบบของพระวิหารก็ไม่ใช่ของทั่วไปที่เป็นสี่เหลี่ยมบริเวณทั่วไปกรีก tamples ของเวลา แต่ส่วนผสมของคลาสสิกกรีกและใกล้แบบตะวันออกและการดําเนินการ มันถูกตกแต่งด้วย 127 อิออนคอลัมน์ที่ยืน 60 ฟุตสูง วัดเป็นอาคารหินอ่อนขนาดใหญ่ วัดเป็นฟุต 180 ฟุตและแบบคอลัมน์ กลอง กับฉากโล่งสูงประติมากรรม ( แทนที่จะมีขลุ่ยง่ายๆแกะสลักเข้าไป ) ภายในของวิหารที่โดดเด่นประติมากรรมของ Amazon นักรบ ( ที่ได้ซ่อนไว้จากกรีกเทพเจ้า ตามในเมืองเอเฟซัส ) โดยบางส่วนของส่วนใหญ่ที่เคารพดีและประติมากรกรีก เช่น polyclitus ฟีเดียส . มีอีกหลายภาพตกแต่งผนังและปิดทองคอลัมน์ของทองและเงิน ลัทธิรูปปั้นตั้งอยู่ภายในวัดไม่ขนาดใหญ่ เช่น เทวรูปซูสที่โอลิมเปีย แต่ค่อนข้างมาก " ขนาด " และยืนอยู่บนแท่นหินอ่อน
รีบาวด์ที่เอเฟซัสถูกไฟไหม้เมื่อ 21 กรกฎาคม 356 ปีก่อนคริสตกาล โดยเป็นบทความคัดสรร ใครถืออะไรเป็นการส่วนตัวกับ Artemis หรือวัด แต่เห็นการทำลายของมันเป็นเส้นทางเพื่อชื่อเสียงส่วนตัววัดถูกสร้างขึ้นใหม่หลังจากการตายของอเล็กซานเดอร์มหาราช ( ใครอยากรู้เกิดเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 356 ปีก่อนคริสตกาล ) และจากนั้นก็ทำลายอีก 262 โดย Goths . ซากของวิหารที่ใช้ในการก่อสร้างอาคารในภายหลัง
น้อยมากยังคงของ artemesium . ตำแหน่งของมันถูกค้นพบใน 1869 และการขุดค้นเริ่มขึ้นแล้ว โบราณวัตถุที่ขุดหลาย ,และตั้งอยู่ในวันนี้ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษในลอนดอน สำหรับเว็บไซต์ที่เอเฟซัสเพียงคอลัมน์เหงาสร้างยืนวันนี้ , เตือนฉุนของยิ่งใหญ่และแพรว วัดที่มีสถาปัตยกรรมสำคัญทางศาสนา และทำให้มันเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกโบราณ