Altman’s theory of privacy proposes

Altman’s theory of privacy proposes an original idea that joins social psychological and environmental psychological concepts—people use human spatial behavior techniques (that is, the environmental mechanisms of territoriality, personal space, and crowding) to regulate social interaction (Darley & Gilbert, 1985). Moreover, by emphasizing the regulation of social interaction and incorporating both input (e.g., regulating who visits, being observed) and output (e.g., disclosing to another) aspects of privacy, Altman’s theory of privacy is comprehensive, one that should, in principle, subsume narrower theories that emphasize control over informational output to others, such as Westin’s theory (Margulis, 1977). Finally, Altman’s privacy theory has been fruitful: A substantial number of studies have confirmed its basic ideas. However, because his theory is stated in general terms, researchers have had to rely on extra-theoretical guidance to establish psychological measures. Consequently, in the referenced studies, measures of specific variables vary across studies. For example, there has been a range of measures of boundary regulation (compare, for example, Brown, 1992, with Harris et al., 1996). Also, as with many psychological theories, there is a need to explicate theoretical terms (Altman, 1990; Foddy, 1984; Margulis, 1977).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีของ Altman ความเป็นส่วนตัวเสนอความคิดเดิมที่รวมสังคมจิตใจ และสิ่งแวดล้อมทางจิตวิทยาแนวคิดแบบคนใช้เทคนิคพฤติกรรมมนุษย์ปริภูมิ (นั่นคือ สิ่งแวดล้อมกลไกถิ่น ส่วนตัว และกครั้ง) เพื่อควบคุมสังคม (Darley และกิลเบิร์ต 1985) นอกจากนี้ โดยเน้นระเบียบของสังคม และเพจ ทั้งป้อนข้อมูล (เช่น ควบคุมผู้เข้าชม การสังเกต) และผลลัพธ์ (เช่น เปิดเผยอีก) ด้านความเป็นส่วนตัว ทฤษฎีของ Altman แห่งจะครอบคลุม หนึ่งที่ ควร หลัก subsume แคบกว่าทฤษฎีที่เน้นการควบคุมผลผลิตให้ข้อมูลผู้อื่น เช่นทฤษฎีของเวสติน (Margulis, 1977) สุดท้าย ทฤษฎีความเป็นส่วนตัวของ Altman ได้ประสบ: จำนวนที่พบของการศึกษาได้ยืนยันแนวความคิดพื้นฐานของการ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทฤษฎีของเขาจะระบุในเงื่อนไขทั่วไป นักวิจัยจะมีการพึ่งพาคำแนะนำพิเศษทฤษฎีเพื่อสร้างมาตรการทางจิตวิทยา ดังนั้น ในการศึกษาอ้างอิง วัดตัวแปรเฉพาะในการศึกษาแตกต่างกันไป ตัวอย่าง มีช่วงของการวัดขอบเขตระเบียบ (เปรียบเทียบ เช่น สีน้ำตาล 1992 กับแฮ et al., 1996) ยัง เช่นเดียวกับทฤษฎีทางจิตวิทยาหลาย มีความจำเป็นเพื่อทฤษฎีเงื่อนไข (Altman, 1990; explicate Foddy, 1984 Margulis, 1977)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีอัลท์แมนของความเป็นส่วนตัวเสนอความคิดเดิมที่รวมจิตวิทยาจิตวิทยาและสิ่งแวดล้อมทางสังคมแนวคิด-คนใช้ของมนุษย์เทคนิคพฤติกรรมเชิงพื้นที่ (นั่นคือกลไกด้านสิ่งแวดล้อมของถิ่นพื้นที่ส่วนบุคคลและ crowding) เพื่อควบคุมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม (Darley และกิลเบิร์ 1985) . นอกจากนี้โดยเน้นการควบคุมของการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและการใช้มาตรการการป้อนข้อมูลทั้งสอง (เช่นการควบคุมที่เข้าชมการปฏิบัติ) และผลผลิต (เช่นการเปิดเผยไปยังอีก) ด้านความเป็นส่วนตัวของทฤษฎีอัลท์แมนของความเป็นส่วนตัวเป็นที่ครอบคลุมหนึ่งที่ควรในหลักการ subsume แคบทฤษฎีที่เน้นการส่งออกควบคุมการให้ข้อมูลกับคนอื่น ๆ เช่นทฤษฎีของเวสทิน (Margulis, 1977) สุดท้ายทฤษฎีความเป็นส่วนตัวของอัลท์แมนได้รับผลสำเร็จ: จำนวนมากของการศึกษาได้รับการยืนยันความคิดพื้นฐาน แต่เนื่องจากทฤษฎีของเขาที่ระบุไว้ในข้อตกลงนี้นักวิจัยได้มีการพึ่งพาคำแนะนำพิเศษทฤษฎีที่จะสร้างมาตรการทางจิตวิทยา ดังนั้นในการศึกษาที่อ้างถึงมาตรการของตัวแปรเฉพาะแตกต่างกันในการศึกษา ตัวอย่างเช่นมีการช่วงของมาตรการของการควบคุมขอบเขต (เทียบตัวอย่างเช่นสีน้ำตาลปี 1992 ที่มีแฮร์ริส et al., 1996) นอกจากนี้เช่นเดียวกับทฤษฎีทางจิตวิทยาหลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องอธิบายแง่ทฤษฎี (อัลท์แมน, 1990; Foddy 1984; Margulis, 1977)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัลท์แมนทฤษฎีของความเป็นส่วนตัวจึงเสนอแนวคิดเดิมที่รวมทางจิตวิทยาสังคม สิ่งแวดล้อมและแนวคิดจิตคน ใช้เทคนิคพฤติกรรมมนุษย์อวกาศ ( คือกลไกด้านสิ่งแวดล้อมของดินแดน บุคคล พื้นที่ และเบียด ) เพื่อควบคุมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคม ( ดาร์ลี่& Gilbert , 1985 ) นอกจากนี้โดยเน้นการควบคุมการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและการผสมผสานทั้งสอง ( เช่น ดูแลผู้เข้าชม การตรวจสอบ ) และผลผลิต ( เช่นเปิดเผยอื่น ) ด้านความเป็นส่วนตัว อัลท์แมน ทฤษฎีของความเป็นส่วนตัวสมบูรณ์ หนึ่งที่ควรในหลักการ ทฤษฎีต่างๆ ที่จัดเป็นกลุ่มแคบเน้นควบคุมการส่งออกข้อมูลไปยังคนอื่น ๆ เช่น ทฤษฎี โรงแรม ( มาร์เกอลิส , 1977 )ในที่สุด ทฤษฎี อัลท์แมนจะได้รับความเป็นส่วนตัวอันเป็นจํานวนมากมีการศึกษายืนยันความคิดของตนพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทฤษฎีของเขาที่ระบุไว้ในข้อตกลง ซึ่งต้องพึ่งพาคำแนะนำเชิงทฤษฎีพิเศษเพื่อสร้างมาตรการทางจิตวิทยา ดังนั้น ในการอ้างอิงการศึกษา การวัดตัวแปรเฉพาะแตกต่างกันไปในการศึกษา ตัวอย่างเช่นมีช่วงของมาตรการของการควบคุมขอบเขต ( เปรียบเทียบ ตัวอย่าง , น้ำตาล , 1992 กับแฮร์ริส et al . , 1996 ) เช่นเดียวกับทฤษฎีจิตวิทยามาก ต้องมีการอธิบายเรื่องทฤษฎี ( อัลท์แมน , 2533 ; foddy , 1984 ; มาร์เกอลิส , 1977 )