DensityThere were no significant di

Density
There were no significant differences among the densities of
film samples at the 5% significance level by the Tukey test
(p < 0.05). The presence of proteins and lipids in the rice flour films
did not affect density when compared with the rice starch films.
The type of plasticizer did not influence film density (Table 1).
These results can be explained by the high concentration of starch
in the films, and also because the molecular packing is similar for all
films.
Density values obtained in this work were similar to the values
found by Moraes (2009) who reported density values around
1.35 g/cm3 for films composed of 3% of cassava starch. Fama´ et al.
(2009) obtained density values around 1.38 g/cm3 for cassava
starch films and cassava starch-wheat bran composites. Moore et al.
(2006) reported density values ranging from 0.92 g/cm3 to 1.10 g/
cm3 for keratin films, for different glycerol concentrations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความหนาแน่นมีไม่แตกต่างกันระหว่างความหนาแน่นของตัวอย่างฟิล์มที่ระดับนัยสำคัญ 5% โดยทดสอบ Tukey(p < 0.05) ของโครงการในฟิล์มแป้งข้าวและโปรตีนไม่มีผลต่อความหนาแน่นเมื่อเทียบกับฟิล์มแป้งข้าวชนิดของกระด้างไนลไม่มีอิทธิพลต่อความหนาแน่นของฟิล์ม (ตาราง 1)ผลลัพธ์เหล่านี้สามารถถูกอธิบาย โดยความเข้มข้นสูงของแป้งในภาพยนตร์ และเนื่องจากบรรจุโมเลกุลคล้ายกันทั้งหมดฟิล์มค่าความหนาแน่นในงานนี้ก็เหมือนกับค่าพบ Moraes (2009) ที่รายงานค่าความหนาแน่นรอบ ๆ1.35 g/cm3 ในภาพยนตร์ประกอบด้วย 3% ของแป้งมันสำปะหลัง Fama´ et alความหนาแน่น (2009) ที่ได้รับค่าประมาณ 1.38 g/cm3 สำหรับมันสำปะหลังฟิล์มแป้งและวัสดุผสมรำข้าวสาลีแป้งมันสำปะหลัง มัวร์ et al(2006) รายงานค่าความหนาแน่นตั้งแต่ 0.92 g/cm3 1.10 g /cm3 สำหรับฟิล์ม keratin สำหรับความเข้มข้นของกลีเซอรที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความหนาแน่นไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญความหนาแน่นของการเป็นตัวอย่างภาพยนตร์นัยสำคัญที่ระดับ5% โดยการทดสอบทูกี(p <0.05) การปรากฏตัวของโปรตีนและไขมันในภาพยนตร์แป้งข้าวเจ้าไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความหนาแน่นเมื่อเปรียบเทียบกับฟิล์มแป้งข้าว. ชนิดของพลาสติไม่ได้มีอิทธิพลต่อความหนาแน่นของฟิล์ม (ตารางที่ 1). ผลการทดลองนี้สามารถอธิบายได้ด้วยความเข้มข้นสูงของแป้งในภาพยนตร์และยังเพราะบรรจุโมเลกุลจะคล้ายกันสำหรับทุกภาพยนตร์. ค่าความหนาแน่นที่ได้รับในงานนี้มีความคล้ายคลึงกับค่าที่พบโดย Moraes (2009) ที่รายงานค่าความหนาแน่นของรอบ 1.35 g / cm3 สำหรับภาพยนตร์ประกอบด้วย 3% ของแป้งมันสำปะหลัง Fama' et al. (2009) ค่าความหนาแน่นที่ได้รับรอบ 1.38 g / cm3 มันสำปะหลังภาพยนตร์แป้งและมันสำปะหลังแป้งคอมโพสิตรำข้าวสาลี มัวร์ et al. (2006) รายงานค่าความหนาแน่นตั้งแต่ 0.92 g / cm3 1.10 g / cm3 สำหรับภาพยนตร์เคราติน, กลีเซอรอลความเข้มข้นที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความหนาแน่น
ไม่พบความแตกต่างระหว่างความหนาแน่นของ
ตัวอย่างฟิล์มที่ระดับนัยสำคัญ 5% โดยทดสอบทดสอบ
( P < 0.05 ) การแสดงตนของโปรตีนและไขมันในข้าวแป้งภาพยนตร์
ไม่มีผลต่อความหนาแน่น เมื่อ เทียบ กับ ข้าว แป้ง ภาพยนตร์
ชนิดของพลาสติไซเซอร์ไม่มีผลต่อความหนาแน่นของฟิล์ม ( ตารางที่ 1 ) .
ผลลัพธ์เหล่านี้สามารถอธิบายได้ด้วยระดับความเข้มข้นของแป้ง
อยู่ในฟิล์มและยังเพราะบรรจุโมเลกุลคล้ายกับทั้งหมด

ฟิล์ม ค่าความหนาแน่นที่ได้ในงานนี้มีความคล้ายคลึงกับค่า
พบโดย มอเรียน ( 2009 ) มีความหนาแน่นประมาณ 1.35 กรัมต่อลิตรค่า
ภาพยนตร์ประกอบด้วย 3 % ของมันสำปะหลัง Fama ใหม่ et al .
( 2009 ) ได้ค่าความหนาแน่นประมาณ 1.38 กรัมต่อลิตรสำหรับมันสำปะหลัง
ฟิล์มแป้งและแป้งมันสำปะหลังรำข้าวสาลีคอมโพสิต Moore et al .
( 2006 ) รายงานค่าความหนาแน่นตั้งแต่ 0.92 กรัมลิตรถึง 1.0 g /
cm3 สำหรับเคราติน ภาพยนตร์ สำหรับความเข้มข้นของกลีเซอรอลที่แตกต่างกัน