Richmond was home schooled until th

Richmond was home schooled until the age of eleven, and then entered a public school. She had to be home schooled because her grandmother didn't believe in the traditional education system. When she was home schooled she dedicated herself to many readings, and was mostly self-taught through her dedication to learn. She graduated High School at sixteen and went to live with one of her aunts in New York until she became very ill and left Mary to fend by herself, leaving her in poverty. After living in poverty for two years in New York she returned to Baltimore and worked for several years as a bookkeeper, and became extremely involved with the Unitarian Church and developed good social skills. In 1888, she applied for a job as Assistant Treasurer with the Charity Organization Society (COS). This organization was in several cities, and was the first organization to develop a structured social work profession which provided services to the poor, disabled, and needy. Her involvement in this organization led to her contributions in social work.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ริชมอนด์ถูกบ้าน schooled จนอายุ 43 และจากนั้น ป้อนโรงเรียนสาธารณะ เธอได้เป็น home schooled เพราะยายไม่เชื่อในระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม เมื่อเธอถูกบ้าน schooled เธอทุ่มเทตัวเองให้อ่านมากมาย และส่วนใหญ่เรียนรู้ผ่านเพื่อการเรียนรู้ เธอจบศึกษาระดับมัธยมที่ sixteen และไปอาศัยอยู่กับ aunts ของเธอในนิวยอร์กจนเธอกลายเป็นป่วย และซ้ายแมรี่เพื่อปัดเป่า ด้วยตนเอง ปล่อยเธอในความยากจน หลังจากอาศัยอยู่ในความยากจนปีสองในนิวยอร์ก เธอส่งกลับไปยังบัลติมอร์ และทำงานหลายปีเป็นตัวผู้จัดทำบัญชี เริ่มมากเกี่ยวข้องกับคริสตจักร Unitarian และพัฒนาทักษะทางสังคมที่ดี ใน 1888 เธอใช้งานเป็นผู้ช่วยเหรัญญิกมีสมาคมองค์กรการกุศล (COS) องค์กรนี้อยู่ในหลายเมือง และเป็นองค์กรแรกในการพัฒนาอาชีพโครงสร้างสังคมสงเคราะห์ซึ่งให้การบริการไม่ดี คนพิการ และยากจน เธอมีส่วนร่วมในองค์กรนี้นำไปสู่ผลงานของเธอในงานสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ริชมอนด์กำลังศึกษาบ้านจนอายุสิบเอ็ดแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียนของรัฐ เธอจะต้องมีการศึกษาบ้านเพราะคุณยายของเธอไม่เชื่อในระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม เมื่อเธอได้รับการศึกษาที่บ้านเธอทุ่มเทตัวเองเพื่อการอ่านจำนวนมากและส่วนใหญ่เรียนด้วยตัวเองผ่านความทุ่มเทของเธอที่จะเรียนรู้ เธอจบการศึกษาโรงเรียนมัธยมที่สิบหกและไปอยู่กับหนึ่งในป้าของเธอในนิวยอร์กจนเธอกลายเป็นไม่ดีมากและเหลือแมรี่ที่จะรักษาด้วยตัวเองปล่อยให้เธออยู่ในความยากจน หลังจากใช้ชีวิตอยู่ในความยากจนเป็นเวลาสองปีในนิวยอร์กเธอกลับไปบัลติมอร์และทำงานเป็นเวลาหลายปีในฐานะผู้ทำบัญชีและกลายเป็นที่เกี่ยวข้องอย่างมากกับคริสตจักรหัวแข็งและการพัฒนาทักษะทางสังคมที่ดี ในปี 1888 เธอนำมาใช้สำหรับงานที่เป็นผู้ช่วยเหรัญญิกกับองค์การการกุศลสังคม (COS) องค์กรนี้อยู่ในหลายเมืองและเป็นองค์กรแรกในการพัฒนาโครงสร้างทางสังคมอาชีพการทำงานที่ให้บริการแก่คนยากจนคนพิการและคนขัดสน การมีส่วนร่วมของเธอในองค์กรนี้นำไปสู่​​การมีส่วนร่วมของเธอในการทำงานเพื่อสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ริชมอนด์อยู่ที่บ้าน schooled จนถึงอายุสิบเอ็ดแล้วเข้าโรงเรียนรัฐบาล เธอต้องไปที่บ้าน schooled เพราะยายเธอไม่เชื่อในระบบการศึกษาแบบดั้งเดิม เมื่อเธออยู่ที่บ้าน schooled เธอทุ่มเทตัวเองให้อ่านมากมาย และส่วนใหญ่เรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านการอุทิศตนของเธอเพื่อเรียนรู้เธอจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมในสิบหกและไปอาศัยอยู่กับป้าของเธอในนิวยอร์กจนกระทั่งเธอเริ่มป่วยมากแล้ว แมรี่ โรมันเอง ทิ้งเธอในความยากจน หลังจากที่อาศัยอยู่ในความยากจนสำหรับสองปีในนิวยอร์กเธอกลับไปยังบัลติมอร์และทำงานมาหลายปี เช่น พนักงานบัญชี และกลายเป็นอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับหัวแข็งโบสถ์และพัฒนาทักษะทางสังคมที่ดี ในระดับนานาชาติเธอสมัครงานเป็นผู้ช่วยเหรัญญิกกับองค์กรการกุศล ( คอส ) องค์กรนี้อยู่ในเมืองต่าง ๆ และเป็นองค์กรแรกที่พัฒนาโครงสร้างสังคมการทำงานอาชีพที่ให้บริการแก่คนจน คนพิการ และคนขัดสน เธอมีส่วนเกี่ยวข้องในองค์กรนี้ ทำให้ผลงานของเธอในงานสังคม