Abstract:The primary of this paper,

Abstract:
The primary of this paper, therefore, is to provide an international comparative investigation of
the relationship between the level of independence of a firm’s board of directors and its
knowledge and intellectual capital (K&IC) performance. This diverges with the prior literature in
two major ways. First, the prior literature has virtually relied on data from the United States.
Second, prior research has defined firm performance using measures of a firm’s physical capital.
It is widely acknowledged in the literature that K&IC capital is now the pivotal factor of a firm’s
future wealth-creation and not its physical capital. Thus, a firm future performance and
survivability should be measure in terms of its K&IC. A total of 286 firms from three nations,
South Africa, Sweden and the United Kingdom are surveyed in this study. Four proxies for board
independence are examined. These are: (1) level of outside director representation on the board;
(2) percentage of share ownership amongst inside directors; (3) leadership structure; and (4)
extent of cash based remuneration of directors. K&IC performance was measured using the Value
Added Intellectual Coefficient (VAIC™) technique developed by Pulic (1998). Empirical findings
suggest only a marginal association between board independence and IC performance. The most
significant proxy for board independence was the separation of individuals working in the roles of
chief executive officer and chairperson. Further, results suggested the significance of the affect of
board independence on IC performance varied across national boundaries. Overall, the results of
this study are consistent with governance requirements varying across firms, thereby, contrasting
with the notion that uniform board structures should be mandated.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อ:หลักของเอกสารนี้ ดังนั้น คือการ ให้การสอบสวนเปรียบเทียบระหว่างประเทศของความสัมพันธ์ระหว่างระดับของความเป็นอิสระของคณะกรรมการของบริษัทและความรู้และทรัพย์สินทางปัญญาทุน (K และ IC) ประสิทธิภาพของ นี้ diverges กับวรรณกรรมก่อนสองวิธีหลัก ครั้งแรก วรรณคดีก่อนมีจริงอาศัยข้อมูลจากประเทศสหรัฐอเมริกางานวิจัยสอง ก่อนมีกำหนดประสิทธิภาพของบริษัทที่ใช้มาตรการของทุนทางกายภาพของบริษัทมันจะรู้ในวรรณคดีว่า ทุน K และ IC เป็นตัวแปรของของบริษัทสร้างให้เลือกมากมายในอนาคตและไม่ทุนทางกายภาพ ดังนั้น เป็นของบริษัทในอนาคตประสิทธิภาพ และดันควรวัดในแง่ของ K และ IC จำนวน 286 บริษัทจากประเทศที่สามแอฟริกาใต้ สวีเดน และสหราชอาณาจักรจะสำรวจในการศึกษานี้ ผู้รับมอบฉันทะที่สี่สำหรับคณะกรรมการความเป็นอิสระตรวจสอบ เหล่านี้คือ: (1) ระดับของกรรมการตัวแทนที่อยู่นอกบนกระดาน(2) เปอร์เซ็นต์ของเจ้าของร่วมอยู่ภายในกรรมการ (3) โครงสร้างเป็นผู้นำ และ (4)ขอบเขตของเงินสดตามค่าตอบแทนกรรมการ ประสิทธิภาพของ K และ IC ถูกวัดโดยใช้ค่าเพิ่มเทคนิคสัมประสิทธิ์ทางปัญญา (VAIC ™) ที่พัฒนา โดย Pulic (1998) ค้นพบประจักษ์แนะนำเฉพาะกำไรสมาคมระหว่างคณะกรรมการอิสระและประสิทธิภาพการทำงานของ IC มากสุดพร็อกซี่อย่างมีนัยสำคัญสำหรับความเป็นอิสระของคณะกรรมการถูกแบ่งแยกบุคคลที่ทำงานในบทบาทของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน เพิ่มเติม ผลแนะนำความสำคัญของผลของเป็นอิสระคณะกรรมการ IC ประสิทธิภาพที่แตกต่างกันในขอบเขตประเทศ โดยรวม ผลการศึกษานี้จะสอดคล้องกับความต้องการกำกับดูแลกิจการที่แตกต่างกันระหว่างบริษัท จึง บริการมีความ uniform คณะ โครงสร้างควรจะบังคับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ:
หลักของการวิจัยนี้จึงเป็นที่จะให้การตรวจสอบเปรียบเทียบระหว่างประเทศของความสัมพันธ์ระหว่างระดับความเป็นอิสระของคณะกรรมการของ บริษัท ของกรรมการและผู้ที่มีความรู้และทุนทางปัญญา(K & IC) ผลการดำเนินงาน นี้ diverges กับวรรณกรรมก่อนในสองวิธีที่สำคัญ ครั้งแรกที่วรรณกรรมก่อนได้อาศัยจริงกับข้อมูลจากประเทศสหรัฐอเมริกา. ประการที่สองการวิจัยก่อนที่ได้กำหนดผลการดำเนินงานของ บริษัท โดยใช้มาตรการของทุนทางกายภาพของ บริษัท ได้. เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวรรณกรรมว่าเงินทุน K & IC อยู่ในขณะนี้เป็นปัจจัยที่สำคัญของ บริษัท ในอนาคตสร้างความมั่งคั่งและไม่ได้ทุนทางกายภาพ ดังนั้นการดำเนินงานในอนาคตของ บริษัท และความอยู่รอดที่ควรจะเป็นตัวชี้วัดในแง่ของK & IC ทั้งหมด 286 บริษัท จากสามประเทศแอฟริกาใต้, สวีเดนและสหราชอาณาจักรที่มีการสำรวจในการศึกษาครั้งนี้ สี่ผู้รับมอบฉันทะสำหรับคณะกรรมการอิสระมีการตรวจสอบ เหล่านี้คือ: (1) ระดับของการเป็นตัวแทนผู้อำนวยการด้านนอกบนกระดาน; (2) ร้อยละของความเป็นเจ้าของร่วมกันในหมู่กรรมการภายใน; (3) โครงสร้างภาวะผู้นำ และ (4) ขอบเขตของเงินสดตามค่าตอบแทนกรรมการ ประสิทธิภาพการทำงานของ K & IC ถูกวัดโดยใช้มูลค่าเพิ่มค่าสัมประสิทธิ์ทางปัญญา(VAIC ™) เทคนิคการพัฒนาโดย Pulic (1998) ผลการวิจัยเชิงประจักษ์ชี้ให้เห็นเพียงเล็กน้อยระหว่างสมาคมคณะกรรมการอิสระและประสิทธิภาพการทำงานของวงจรรวม ส่วนใหญ่ที่พร็อกซี่ที่สำคัญสำหรับความเป็นอิสระของคณะกรรมการคือการแยกของบุคคลที่ทำงานในบทบาทของประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ นอกจากนี้ผลการชี้ให้เห็นความสำคัญของการส่งผลกระทบต่อของความเป็นอิสระของคณะกรรมการเกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่แตกต่างกัน IC ข้ามเขตแดนแห่งชาติ โดยรวมผลของการศึกษาครั้งนี้มีความสอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันทั่วกำกับดูแล บริษัท จึงแตกต่างกับความคิดที่ว่าโครงสร้างคณะกรรมการเครื่องแบบควรจะได้รับคำสั่ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อ :
หลักของการศึกษานี้จึงเพื่อให้เปรียบเทียบระหว่างประเทศ สอบสวน
ความสัมพันธ์ระหว่างระดับของความเป็นอิสระของคณะกรรมการและ
ความรู้และทุนทางปัญญา ( K & IC ) ประสิทธิภาพ นี้ diverges กับวรรณกรรมก่อนใน
สองวิธีหลัก ครั้งแรก วรรณกรรมก่อนมีแทบจะอาศัยข้อมูลจากสหรัฐอเมริกา .
ประการที่สอง วิจัยได้กำหนดผลการปฏิบัติงานในบริษัทใช้มาตรการของทุนทางกายภาพของ บริษัท .
เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในวรรณคดีที่ K & IC ทุนเป็นปัจจัยสำคัญของบริษัทในอนาคต
สร้างทรัพย์สมบัติ และไม่ทุนทางกายภาพของมัน ดังนั้น งานในอนาคตของบริษัท และ
ความสามารถควรวัดในแง่ของ K & IC ทั้งหมด 286 บริษัทจากสามประเทศ
แอฟริกาใต้สวีเดนและสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในการศึกษา สี่ผู้รับมอบฉันทะสำหรับบอร์ด
ความเป็นอิสระจะตรวจ เหล่านี้คือ : ( 1 ) ระดับนอก ผอ. เสนอในบอร์ด ;
( 2 ) ร้อยละของความเป็นเจ้าของร่วมกันในหมู่กรรมการภายใน ; ( 3 ) โครงสร้างภาวะผู้นำ และ ( 4 ) ขอบเขตของเงินสดตาม
ค่าตอบแทนกรรมการ K & IC ประสิทธิภาพการวัดค่า
เพิ่มค่าปัญญา vaic ™ ) เทคนิคที่พัฒนาโดยสาธารณะ ( 1998 ) เชิงประจักษ์ผลการวิจัย
แนะนำเพียงเล็กน้อยระหว่างคณะกรรมการสมาคมอิสระและประสิทธิภาพ IC ที่สำคัญที่สุดคือคณะกรรมการอิสระ
& แยกของบุคคลที่ทำงานในบทบาทของ
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธาน เพิ่มเติม ชี้ให้เห็นความสำคัญของผลกระทบของ
ความเป็นอิสระในการปฏิบัติงานคณะกรรมการ IC หลากหลายข้ามขอบเขตแห่งชาติ โดยรวม ผลการศึกษานี้สอดคล้องกับธรรมาภิบาล
ความต้องการแตกต่างกันในบริษัทจึงตัด
เหมือนกับว่า โครงสร้างคณะกรรมการชุดควรจะสั่งให้มา